x close

23 ธ.ค. วันชาติญี่ปุ่น





เฉลิมฉลองวันชาติยิ่งใหญ่ สานสัมพันธไมตรีไทย-ญี่ปุ่น (เดลินิวส์)

          วันที่ 23 ธันวาคม 2552 ถือเป็นวันที่มีความหมายอย่างยิ่งสำหรับ ประชาชนชาวญี่ปุ่น โดยไม่เพียงแต่จะเป็นวันที่ทุกคน จะได้ร่วมเฉลิมฉลองวาระสำคัญ วันชาติ หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งตรงกับวันพระราชสมภพของสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโต ซึ่งปีนี้ทรงเจริญพระชนมายุ 76 พรรษา เท่านั้น แต่ยังถือเป็นวาระสำคัญแห่งการเฉลิมฉลอง ครบรอบ 20 ปี แห่งการเสด็จขึ้นครองราชย์ และครบรอบ 50 ปีแห่งการอภิเษกสมรสด้วย จึงนับได้ว่า เป็นปี ที่พิเศษสุดแห่งการมีความสุขมากยิ่ง
   
          ในวโรกาสเฉลิมฉลองวันพระราชสมภพสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโต แห่งญี่ปุ่น ฯพณฯ นายเคียวจิ โคะมะจิ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ได้ส่งสารแสดงมิตรไมตรีผ่าน หนังสือพิมพ์ เดลินิวส์ มีใจความสำคัญดังนี้
   
          ปีนี้นับเป็นปีที่ 2 ที่รับตำแหน่งเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย และมีโอกาสจัดงานเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวโรกาสวันพระราชสมภพในสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโต ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือและการต้อนรับที่อบอุ่น จึงถือโอกาสนี้ขอบคุณทุกท่านอีกครั้ง


   
          หลังจากที่รับตำแหน่งเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ได้พยายามพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่นให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นและขยายความสัมพันธ์ทั้งสองประเทศให้มั่นคงสืบไป โดยทั้งสองประเทศมีสิ่งที่เหมือนกันหลายประการ เช่น มีระบบการปกครองที่มีพระมหากษัตริย์และพระจักรพรรดิทรงเป็นประมุข เป็นประเทศที่ประชาชนนับถือศาสนาพุทธที่มีความสำคัญต่อคุณค่าทางสังคม มีระบบการปกครองแบบประชาธิปไตยและมีขนบธรรมเนียมประเพณีที่ สืบทอดกันมา ในสมัยการล่าอาณานิคมในทวีปเอเชีย ทั้งสองประเทศต่างสามารถรักษาเอกราชไว้ได้ เป็นต้น ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ จึงได้ก้าวหน้ามาตลอดตั้งแต่ในประวัติศาสตร์จนถึงปัจจุบันการแลกเปลี่ยนระหว่างสองประเทศ ก็ยิ่งขยายตัวมากขึ้นในหลากหลายสาขา
   
          พระราชไมตรีระหว่างพระราชวงศ์ไทยกับพระราชวงศ์ญี่ปุ่นมีความใกล้ชิดเป็นที่ประจักษ์ ได้มีการเสด็จฯเยือนกันเสมอมา โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถได้เสด็จพระราชดำเนินเยือน ประเทศญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการในปี พ.ศ. 2506 สำหรับการเสด็จพระราชดำเนินเยือนต่างประเทศอย่างเป็นทางการ 24 ประเทศของสมเด็จพระจักรพรรดิและสมเด็จพระจักรพรรดินีนั้น ในปี พ.ศ. 2507 ขณะดำรงพระอิสริยยศเป็น มกุฎราชกุมาร เจ้าชายอากิฮิโต ทรงเป็นผู้แทนพระองค์สมเด็จพระจักรพรรดิโชวะ เสด็จฯ เยือนประเทศไทยเป็นครั้งแรกพร้อมเจ้าหญิงมิชิโกะ พระชายา ต่อมาในปี พ.ศ. 2534 ได้เสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศไทยเป็นประเทศแรกหลังเสด็จขึ้นครองราชย์และเสด็จฯ ประเทศไทยเป็นครั้งที่ 3 เมื่อปี พ.ศ. 2549 เพื่อเข้าร่วมพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

          ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในเดือนธันวาคมนี้ ได้มีการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติอย่างยิ่งใหญ่ สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ให้ความร่วมมือกับกระทรวงการต่างประเทศไทยด้วยการร่วมจัดบูธแสดงนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ ในบูธมีการแสดงภาพถ่ายการเจริญพระราช ไมตรีระหว่างพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระจักรพรรดิในวโรกาสต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังมีการแสดงการจัดดอกไม้แบบญี่ปุ่น "อิเคะบานะ" และศิลปะการพับกระดาษ แบบญี่ปุ่น "โอริงามิ" ซึ่งรู้สึกปลื้มปีติอย่างมากที่ได้มีโอกาสเฉลิมฉลองวโรกาสอันสำคัญนี้ร่วมกับประชาชนชาวไทยทุกคน




   
          ประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่นมีประวัติความสัมพันธ์มายาวนาน โดยได้มีการฉลองการครบรอบ 120 ปี ของความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-ญี่ปุ่นเมื่อปี พ.ศ. 2550 ปัจจุบันมีชาวญี่ปุ่นอยู่ในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก จากสถิติถึงเดือนตุลาคมนี้มีชาวญี่ปุ่นพำนักในประเทศไทยประมาณ 44,000 คน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรุงเทพมหานครมีชาวญี่ปุ่นพำนักอยู่ ประมาณ 30,000 คน ถือเป็นเมืองหลวงของต่างประเทศที่มีจำนวนชาวญี่ปุ่นอาศัยอยู่มากที่สุดในโลก ในแต่ละปีมีชาวญี่ปุ่นเดินทางมาเยือนประเทศไทยประมาณ 1.3 ล้านคน ซึ่ง เป็นหนึ่งในประเทศที่มีชาวญี่ปุ่นเดินทางมาเยือนมากที่สุด
   
          ในขณะที่คนญี่ปุ่นเดินทางมาเยือนประเทศไทยจำนวนมาก การที่คนไทยไปเยือนญี่ปุ่นก็ถือเป็นเรื่องสำคัญในการเสริมสร้างความเข้าใจอันดีต่อกัน จากสถิติเมื่อเร็ว ๆ นี้แสดง  ให้เห็นว่าคนไทยนิยมเดินทาง ไปเที่ยวต่างประเทศมากขึ้น และทราบว่าประเทศญี่ปุ่น  เป็นประเทศที่มีผู้สนใจจะไปเยือน มากที่สุด จึงรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก โครงการ Visit Japan Campaign (VJC) ที่รัฐบาลญี่ปุ่นจัดขึ้นนั้นประเทศไทยถือเป็นเป้าหมายสำคัญ และเพื่อสร้างความเข้าใจอันดีต่อประเทศ ญี่ปุ่นจึงได้แต่งตั้งคุณ กัญญารัตน์ จิรรัชชกิจ (ติ๊ก) เป็นทูตสันถวไมตรีการท่องเที่ยวเพื่อแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจและมีเสน่ห์ในประเทศญี่ปุ่นให้ชาวไทยรู้จัก และรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่คุณกัญญารัตน์ ได้ช่วยเสริมสร้างความเข้าใจอันดีและมีความสนิทสนมกับชาวญี่ปุ่น
   
          ในปีนี้ได้กำหนดให้เป็น ปีการแลกเปลี่ยนระหว่างญี่ปุ่น-ประเทศลุ่มน้ำโขง โดยมีจุดประสงค์ที่จะเสริมสร้างความเข้าใจอันดีซึ่งกันและกันระหว่างประเทศญี่ปุ่นและประเทศลุ่มแม่น้ำโขง ตลอดปีเต็มได้มีการจัดกิจกรรมมากมาย เริ่มจากต้นปี การแลกเปลี่ยนที่ประเทศไทยเริ่มด้วยการจัด  แสดงคอนเสิร์ตดนตรีชามิเซน โดยคณะอันมิตสุ ในเดือนมกราคม และส่งท้ายการแลกเปลี่ยนด้วยการแสดงกลองญี่ปุ่น (วะไดโกะ) ของคณะโอโตะซะ ในเดือนธันวาคม ระหว่างปีได้ มีการจัดกิจกรรมจำนวนมาก  ตั้งแต่เริ่มจนสิ้นสุดปีการแลกเปลี่ยน โดยได้รับความร่วมมืออย่างดีจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งยังเป็นการแลกเปลี่ยนในหลากหลายระดับ
   
          สำหรับความสัมพันธ์ในด้านวัฒนธรรม ไม่เพียงแต่วัฒนธรรมที่สืบทอดกันมายาวนานของประเทศญี่ปุ่น เช่น การจัดดอกไม้แบบญี่ปุ่น หรือการชงชาที่เป็นที่รู้จักในประเทศไทยเท่านั้น ปัจจุบัน วัฒนธรรมป๊อป แบบญี่ปุ่นก็กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก เช่น ภาพยนตร์ การ์ตูนแอนิเมชั่น แฟชั่น และเพลงเจป๊อป ด้วยเหตุนี้เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ชาวต่างชาติได้เข้าใจวัฒนธรรมแบบญี่ปุ่น ปีนี้จึงได้มีการแต่งตั้งทูตวัฒนธรรมป๊อปขึ้น และเดินทางมาเยือนประเทศไทยเป็นที่แรกด้วยการจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับแฟชั่นชุดนักเรียนแบบญี่ปุ่นซึ่งได้รับความสนใจอย่างมาก นอกจากนี้ในการ ประกวดรางวัลการ์ตูนนานาชาติครั้งที่ 3 กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพจัดการประกวด นายจักรพันธ์ ห้วยเพชร นักเขียนการ์ตูนชาวไทยได้รับรางวัลชนะเลิศ (Gold Award) โดยการที่นักเขียนชาวไทยได้รับรางวัลในครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าวัฒนธรรมป๊อป ได้แพร่หลายเข้ามาในประเทศไทย และอยู่ในขั้นที่สามารถต่อยอดวัฒนธรรมเหล่านั้นได้ด้วยตัวเอง




   
          ในด้านการเมืองกล่าวได้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงในระดับสูง หลังจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในเดือนกุมภาพันธ์ได้เดินทางมาเยือนประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศแรก ต่อจากนั้นนาย ทาโร อาโซะ อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นและนายยูกิโอะ ฮะโตยะมะ นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนที่ประเทศไทยในเดือนเมษายนและเดือนตุลาคมตามลำดับ และในเดือนพฤศจิกายน นายอภิสิทธิ์ได้เดินทางเข้าร่วมการประชุมผู้นำลุ่มน้ำโขงกับประเทศ ญี่ปุ่น ครั้งที่ 1 ตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมารัฐบาลของทั้งสองประเทศได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนการเยือนซึ่งกันและกัน นำไปสู่การสร้างความสัมพันธ์ที่แนบแน่นระหว่างผู้นำ นอกจากนี้ยังมีการเดินทางมาเยือนประเทศไทยของวุฒิสมาชิกญี่ปุ่นและการไปเยือนประเทศญี่ปุ่นของนายประสพสุข บุญเดช ประธาน วุฒิสภาด้วย
   
          ในการประชุมผู้นำลุ่มน้ำโขงกับประเทศญี่ปุ่น ณ กรุงโตเกียว นายกรัฐมนตรีของไทยและผู้นำของประเทศลุ่มน้ำโขงและญี่ปุ่นได้ประชุมหารือเกี่ยวกับการพัฒนาลุ่มน้ำโขง ที่ประชุมได้เสนอนโยบายนำร่องใหม่ เช่น การดำเนินการเพื่ออนุรักษ์สภาพแวดล้อมของลุ่มน้ำโขง (กรีนแม่โขง) ภายใน 10 ปี และโครงการแลกเปลี่ยนเยาวชนในระยะเวลา 3 ปี เป็นต้น ไม่เพียงเท่านั้นยังมีการดำเนินการในระดับภูมิภาค ปัจจุบันประเทศไทยและประเทศ ญี่ปุ่นซึ่งมีฐานะเป็นประเทศที่มีบทบาทที่สำคัญในการให้ความช่วยเหลือ จึงจำเป็นต้องมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นใกล้ชิดกัน และหวังว่านับแต่นี้ไปความสัมพันธ์ในฐานะหุ้นส่วนของ ทั้งสองประเทศจะขยายและก้าวหน้ากว้างขวางทั้งภาครัฐและประชาชน
   
          ความสัมพันธ์ในด้านเศรษฐกิจ เป็นภาคที่มีความสำคัญยิ่งต่อความสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่น ได้เจริญก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องหลังจากการลงนามในความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (JTEPA) มีบริษัทที่ลงทะเบียนเป็นสมาชิกหอการค้าญี่ปุ่น กรุงเทพฯ ประมาณ 1,300 บริษัท เป็นจำนวนสูงที่สุดของบรรดาหอการค้าญี่ปุ่นทั่วโลก มีพนักงานชาวไทยทำงานในบริษัทญี่ปุ่นดังกล่าวประมาณ 520,000 คน นอกจากนี้ยังมีพนักงานอีกประมาณ 6,000 คน ทำงานในบริษัทญี่ปุ่นที่ไม่ได้ลงทะเบียนกับหอการค้าญี่ปุ่นด้วย จึงเห็นว่าจากนี้ไปทั้งสองประเทศต้องให้ความร่วมมือที่ก่อประโยชน์แก่กันมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตระหนักถึงเรื่องสิ่งแวดล้อมที่เป็นปัญหาสำคัญ โดยเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีไทยได้เข้าร่วมการสัมมนาทางด้านสิ่งแวดล้อมที่ประเทศญี่ปุ่นจัดขึ้นในประเทศไทย ด้วยเหตุนี้จึงหวังว่าทั้งสองประเทศจะสร้างความร่วมมืออันใกล้ชิดในเรื่องดังกล่าวต่อไปด้วย
   
          สุดท้ายนี้ ฯพณฯ นายเคียวจิ ขอเชิญทุกท่านร่วมใจถวายพระพรชัยมงคลในวโรกาสที่สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโต แห่งประเทศญี่ปุ่นทรงเจริญพระชนมายุครบ 76 พรรษา ในวันที่ 23 ธันวาคม นี้และท่านหวังเป็นอย่างยิ่งว่าในปี พ.ศ. 2553 ที่กำลังจะมาถึงนี้จะเป็นปีที่สัมพันธไมตรีอันมีค่ายิ่งในทุกสาขาระหว่างประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่นจะวัฒนาสถาพรตลอดไป





ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
23 ธ.ค. วันชาติญี่ปุ่น อัปเดตล่าสุด 23 ธันวาคม 2552 เวลา 11:19:19 9,705 อ่าน
TOP