เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบจาก ไอเอ็นเอ็น
หลังจากที่ น.พ.กุศล ประวิชไพบูลย์ โฆษกกลุ่มพี่น้องมหิดล ได้ออกมาเปิดเผยว่า ผลการตรวจตัวอย่างเลือดของคนเสื้อแดงที่ขอรับบริจาค พบว่า มีเชื้อเอดส์ ไวรัสตับอักเสบบี ไวรัสตับอักเสบซี และมีส่วนผสมเลือดสัตว์นั้น ทำให้กลุ่มคนเสื้อแดง นำโดย น.พ.เหวง โตจิราการ ไม่พอใจกับผลดังกล่าว และได้เรียกร้องให้ กทม. โดยวิทยาลัยแพทยศาสตร์ กรุงเทพมหานครและวชิรพยาบาล ช่วยตรวจและยืนยันผลการตรวจเลือดว่าเป็นตามที่ น.พ.กุศล กล่าวหรือไม่
ล่าสุดวันนี้ (2 เมษายน) พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ยืนยันผลการตรวจเลือดเสื้อแดงว่า ผลการตรวจจากห้องปฏิบัติการพบว่า กลุ่มเลือดดังกล่าวมีเชื้อไวรัสเอชไอวี จำนวน 2% ไวรัสตับอักเสบบี ไวรัสตับอักเสบซี อย่างละ 5 % และมีส่วนผสมเลือดสัตว์จริง ซึ่งการนำผลเลือดไปตรวจสอบเป็นการดำเนินการตามหลักวิทยาศาสตร์
รองผู้ว่าฯกทม. กล่าวอีกว่า กทม. ได้มีการเก็บตัวอย่างเลือด ก่อนที่จะมีการใช้น้ำยาฆ่าเชื้อเทราดทำลายเชื้อโรค ซึ่งไม่อยากให้มีการกระทำแบบนี้เกิดขึ้นอีก และไม่อยากให้คิดว่า เป็นการดิสเครดิตของกลุ่มผู้ชุมนุม เพราะเป็นการห่วงใยในสุขภาพของประชาชนที่มาร่วมชุมนุม มากกว่าที่จะมีเจตนาเป็นอย่างอื่น ซึ่งผลการตรวจที่ออกมา ไม่ผิดไปจากรายงานของ น.พ.กุศล
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้กลุ่มพี่น้องมหิดล ซึ่งประกอบด้วยแพทย์ พยาบาล เภสัชกร ทันตแพทย์และบุคคลสาธารณสุขอีกหลายด้าน นำโดย นพ.กุศล ประวิชไพบูลย์ ได้มายื่นหนังสือถึงนายอภิสทธิ์ เวชชาชีวะ ขอให้รัฐบาลออกมาตรการดูแลประชาชน ที่ไปชุมนุมกับกลุ่มคนเสื้อแดง ที่อาจติดเชื้ออันเนื่องมาจากการเทเลือดไปตามสถานที่ต่าง ๆ
โดย นพ.กุศล กล่าวว่า จากการเก็บตัวอย่างเลือดของกลุ่มคนเสื้อแดง ไปตรวจยังห้องแเล็ปโรงพยาบาลรามาธิบดี พบเชื้อไวรัสติดต่อร้ายแรง 3 ชนิด คือ 1. เชื้อไวรัสตับอักเสบบี มีค่าติดเชื้อ 1ล้านหน่วย 2.เชื้อไวรัสตับอักเสบซี มีค่าติดเชื้อกว่า 5 หมื่นหน่วย และ 3.เชื้อไวรัสเอชไอวี หรือ เชื้อไวรัสเอดส์ มีค่าติดเชื้อ113 หน่วย ซึ่งเชื้อทั้งหมดในทางการแพทย์ หากมีเพียง 40 หน่วย ก็สามารถติดเชื้อได้แล้ว นอกจากนี้จากการตรวจผลดีเอ็นเอในห้องแล็บยังพบว่า เลือดที่นำไปเททิ้งยังสถานที่ต่าง ๆ มีส่วนผสมของเลือดหมู และเลือดคนผสมกันด้วย