นกตายเกลื่อนบนถนนที่ปกคลุมด้วยหิมะ ในสวีเดน
นกตายเกลื่อนถนนในหลุยเซียนา
นกตายเกลื่อนถนนในหลุยเซียนา
นกตายเกลื่อนถนนในหลุยเซียนา
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก iwhale, travelstar1.com, space.net, firsthandweather.com, blippitt.com, fmft.net, uncoverage.net, wkdp.com,
cellar.org, 4.bp.blogspot.com, newsfall.com,newsfeed.time.com
กลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์กันไปทั่วโลก สำหรับความเปลี่ยนแปลงของโลกที่เกิดขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เมื่อหลายพื้นที่บนโลกได้เผชิญกับภัยพิบัติครั้งยิ่งใหญ่อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เผชิญกับความแปรปรวนของสภาพอากาศที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ อีกทั้งยังมีเหตุการณ์แปลกประหลาดเกิดขึ้นอีกมากมาย จึงไม่แปลกที่จะเกิดคำถามที่ว่า สิ่งเหล่านี้คล้ายกับจะเป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่าโลกกำลังมาถึงจุดเปลี่ยนอย่างเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ หรือไม่
และล่าสุด เหตุการณ์แปลกประหลาดซึ่งได้กลายเป็นปริศนาของคนทั่วโลกไปอีกหนึ่งประเด็นในขณะนี้ ก็คือ เหตุการณ์สัตว์ในหลายพื้นที่ตายอย่างหาสาเหตุไม่ได้ เริ่มจากที่มลรัฐอาร์คันซอส์ สหรัฐฯ มีนกแบล็กเบิร์ดกว่า 5,000 ตัวตกลงมาตายเกลื่อนถนน ในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา ขณะที่ปลาดรัมฟิชกว่า 100,000 ตัว ก็ตายเกลื่อนบริเวณริมฝั่งแม่น้ำ ในช่วงเวลาเดียวกัน สร้างความฉงนสงสัยให้กับชาวเมืองเป็นอย่างมาก เพราะมีเพียงนกแบล็กเบิร์ดกับปลาดรัมฟิชเท่านั้นที่ตาย ส่วนปลาและนกชนิดอื่นไม่ได้มีรายงานแต่อย่างใด ขณะที่ในเคนตั๊กกี้ ก็มีนกตายให้เห็นประปราย โดยได้รับการเปิดเผยจากหญิงสาวคนหนึ่งว่า มีนกตกลงมาตายบริเวณบ้านของเธอ 10 กว่าตัวเลยทีเดียว และที่หลุยเซียน่า นกแบล็กเบิร์ดปีกแดง นกสตาร์ลิ่ง และนกกระจอก รวมแล้วกว่า 5,000 ตัว ก็ตกลงมาตายเกลื่อนในช่วงปีใหม่ ส่วนที่รัฐแมร์รี่แลนด์ ก็มีปลาตายอีกกว่า 2 ล้านตัว นอกจากนี้ รัฐอื่น ๆ ในสหรัฐฯ ก็มีนกและปลาตายเช่นกัน ได้แก่ อิลลินอยส์ เทนเนสซี มิสซิสสิปปี้ และมิสซูรี
ซากอีกาตายในสวีเดน
นกแบล็กเบิร์ดปีกแดงในเคนตั๊กกี้
ซากศพนกที่ตายในอาร์คันซอส์
ส่วนในประเทศอื่น ๆ ในแถบยุโรปก็ไม่ต่างกัน โดยในประเทศอิตาลีได้มีนกพิราบขาวตกมาตายหลายพันตัว บ้างก็ติดอยู่บนต้นไม้ บ้างก็ตกลงมาบนหลังคาบ้านและถนน ส่วนทางตอนใต้ของสวีเดนที่กำลังเผชิญกับอากาศหนาวเย็น ก็มีนกตกลงมาตายบนกองหิมะอีกหลายร้อยตัว ขณะที่ในเมืองปารานา ประเทศบราซิล ก็มีปลาซาร์ดีน ปลาโคร๊กเกอร์ และปลาดุก รวมกว่า 100 ตันตายอยู่ในทะเลอย่างไม่ทราบสาเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งการที่ปลาตาย จำนวนมากครั้งนี้ ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชนชาวประมงในเมืองปารานา เพราะว่าต้องหยุดหาปลา ทำให้ขาดรายได้ พร้อมกับเกิดความวิตกว่า จะเกิดโรคระบาดในปลา และสัตว์ทะเลอื่น ๆ ส่วนในแถบออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ก็มีปลากะพงหลายร้อยตัวลอยแพกันมาตายเกยตื้นอยู่บริเวณชายหาดเพนนินซูลา สร้างความตกอกตกใจให้กับบรรดานักท่องเที่ยวไม่น้อย และอีกแห่ง ที่ประเทศอังกฤษ มีปูและปลารวมแล้วกว่า 40,000 ตัวตายอยู่บริเวณชายหาดอังกฤษ ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่พิทักษ์สัตว์ก็กำลังเร่งชันสูตรศพสัตว์ที่ตายเพื่อหาสาเหตุการตายที่ยังคงไม่มีข้อสรุปเช่นเดียวกับที่อื่น ๆ
นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายพื้นที่ที่มีสัตว์ตายเกลื่อนมาตั้งแต่ช่วงก่อนเทศกาลปีใหม่ เช่น ในเวียดนาม ได้มีปลาหลายพันตัวลอยแพขึ้นเหนือน้ำ สร้างความประหลาดใจให้กับชาวบ้าน และพวกเขาไม่สามารถจับปลาสดไปขายได้อีก และก่อนหน้านั้น เมื่อประมาณเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ก็มีจระเข้ เต่า ปลาโลมา และสัตว์น้ำอีกหลายชนิดลอยตายเกลื่อนในทะเลสาบและแม่น้ำในประเทศโบลิเวีย
สัตว์น้ำตายที่โบลิเวีย
ปลาตายในเวียดนาม เมื่อกลางปี 2553
อย่างไรก็ตาม การตายของสัตว์ต่าง ๆ ยังอยู่ระหว่างการชันสูตรเพื่อค้นหาสาเหตุการตายที่แท้จริง ซึ่งก็ยังไม่มีคำตอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ออกมาเลยแม้แต่น้อย แต่ในช่วงนี้ก็มีข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับสาเหตุการตายของสัตว์เหล่านี้มากมาย บ้างก็ว่าเป็นเพราะนกตกใจเสียงพลุและแสงสีช่วงปีใหม่ บ้างก็ว่าเกิดจากมลพิษในอากาศและน้ำ แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่ตั้งคำถามขึ้นมาอีกว่า ถ้าหากเป็นเพราะเสียงพลุและแสงสีจากเทศกาลปีใหม่จริง เหตุใดจึงเพิ่งเกิดเหตุการณ์นกตกลงมาตายเกลื่อนในปีนี้ เมื่อเทศกาลปีใหม่ก็จัดในรูปแบบเดียวกันกับทุกปี และถ้าหากเกิดจากมลพิษในอากาศและน้ำ เหตุใดในอีกหลายพื้นที่ที่มีมลพิษมากกว่าจึงไม่เผชิญกับปัญหาเดียวกัน
ปลาตายริมฝั่งแม่น้ำในนิวซีแลนด์
ปลาดรัมฟิชในอาร์คันซอส์
สิ่งที่เป็นไปได้มากที่สุดในตอนนี้ ที่เป็นข้อสันนิษฐานที่ยังไม่มีคำถามใด ๆ ตามมา นั่นก็คือ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ เป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงของสนามแม่เหล็กโลก ที่กำลังกลับขั้วสลับตำแหน่งกัน ซึ่งการกลับขั้วของสนามแม่เหล็กโลกนั้น จะส่งผลให้ความเข้มข้นของแม่เหล็กโลกอ่อนแอลง จนทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ดังนี้
1. ภัยพิบัติบนผิวโลก เช่น ภูเขาไฟระเบิด แผ่นดินไหว แผ่นดินถล่ม สึนามิ อันเนื่องมาจากการเคลื่อนที่ของเปลือกโลก และเกิดภัยธรรมชาติอีกมากมาย เนื่องจากการกลับขั้วของแม่เหล็กโลกจะทำให้ทุกสิ่งบนโลกเปลี่ยนทิศทาง เช่น กระแสน้ำ กระแสลม
2. โลกมีอุณหภูมิสูงขึ้น เมื่อสนามแม่เหล็กโลกอ่อนแอลง การแผ่รังสีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากดวงอาทิตย์ก็เพิ่มปริมาณมากขึ้นถึงระดับอันตราย ส่งผลให้โลกมีอุณหภูมิสูงขึ้นจนสิ่งมีชีวิตบางประเภทปรับตัวไม่ทัน และเกิดพายุสุริยะ
3. ระบบอิเล็กทรอนิกส์ทุกอย่างบนโลกจะทำงานผิดปกติ
4. ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายสัตว์อ่อนแอลงอย่างรวดเร็ว รวมถึงมนุษย์ด้วย ทำให้สัตว์หลายชนิดอ่อนแอและล้มตายดังที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ โดยในระยะเริ่มต้น สัตว์เล็กจะล้มตายก่อน เมื่อความเข้มข้นของสนามแม่เหล็กอ่อนแอถึงขั้นรุนแรง สัตว์ใหญ่และมนุษย์ก็จะล้มตายไปตาม ๆ กัน
5. วัตถุในอวกาศตกสู่ผิวโลก เมื่อสนามแม่เหล็กโลกอ่อนแอลง แรงดึงดูดของโลกจะเปลี่ยนแปลงไป วัตถุต่าง ๆ ในห้วงอวกาศจะเคลื่อนที่เข้ามาสู่ผิวโลกได้ง่ายขึ้น
ทั้งนี้ แม้จะไม่มีการยืนยันแน่ชัดว่า การตายปริศนาของสัตว์ต่าง ๆ จะเกิดขึ้นจากการที่สนามแม่เหล็กโลกกลับขั้ว แต่หากพิจารณาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตลอดระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา ก็จะพบว่ามีภัยพิบัติครั้งใหญ่เกิดขึ้น สร้างความเสียหายให้กับมนุษย์อย่างมากมาย อีกทั้งโลกก็ยังมีอุณหภูมิสูงขึ้นทุกวันและเกิดพายุสุริยะในบางพื้นที่ ดังนั้น ก็อาจเป็นไปได้ว่าการตายของสัตว์ที่เกิดขึ้นนี้ อาจเป็นสัญญาณอันตรายที่แสดงให้เห็นว่า โลกใบนี้กำลังเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ และกำลัง "เริ่มต้น" นับถอยหลังสู่จุดหายนะที่เรียกว่ายุคโลกาวินาศอีกครั้งตามวัฏจักรของโลก หลังจากที่มันเคยเกิดขึ้นและทำให้สัตว์จำพวกไดโนเสาร์สาบสูญไปมาแล้วเมื่อหลายล้านปีก่อน
ข่าวนกตายในหลุยเซียน่า
ข่าวพบนกตายในหลุยเซียน่า เคนตั๊กกี้ และอาร์คันซอส์
ข่าวนกตายเกลื่อนบนถนนในหลุยเซียน่า
ข่าวนกตายในสวีเดน
ข่าวปลาตายในรัฐแมร์รี่แลนด์