x close

ตำรวจยังไม่สรุปคดีปอร์เช่ชนสยอง เพราะขับรถเร็ว


ปอร์เช่ชนฟอร์จูนเนอร์ 

ปอร์เช่ชนฟอร์จูนเนอร์

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3

          ตำรวจยังไม่สรุปคดีปอร์เช่ชนสยองบนโทลเวย์ เพราะขับรถเร็วเกินกำหนด เชิญเจ้าหน้าที่เทคนิคปอร์เช่ร่วมไขคดีด้วย คาดอีก 2 วัน ส่งหลักฐานในพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาได้

          วานนี้ (8 พฤษภาคม) พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผช.ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อภิรัตน์ ปรักกมะกุล ผบก.พฐก. เจ้าหน้าที่ตรวจพิสูจน์ที่เกิดเหตุ และเจ้าหน้าที่ศูนย์บริการปอร์เช่ บ.เอเอเอสออโต้ เซอร์วิส จำกัด ได้เข้าประชุมที่สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ เพื่อตรวจสอบเรื่องทางเทคนิคของรถยนต์ เพื่อเป็นข้อมูลในการสรุปสาเหตุของอุบัติเหตุที่รถปอร์เช่รุ่น 911 จีที 2 หมายเลขทะเบียน กก–911 กรุงเทพมหานคร ชนกับรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ บนทางด่วนโทลล์เวย์ขาออก เมื่อวันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 ศพ

          ทั้งนี้ พล.ต.ท.จรัมพร กล่าวว่า จากการพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญทางเทคนิคของรถปอร์เช่ ทำให้ทราบว่า เมื่อระบบไฟฟ้าในรถยนต์ถูกตัด เข็มวัดเลขไมล์ต่าง ๆ ของรถจะกลับมาอยู่ที่เลข 0 ดังเดิม แต่จากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่พบว่า เข็มวัดเลขไมล์กลับชี้ไปอยู่ที่เลข 280 จึงต้องตรวจสอบด้วยว่า ทำไมเลขถึงไม่กลับไปอยู่ที่เลข 0 เพราะระบบไฟฟ้าถูกตัดไปแล้ว ซึ่งเรื่องนี้ เจ้าหน้าที่ทางเทคนิคของปอร์เช่เองก็ยังไม่สามารถให้คำตอบได้

          ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่จะได้เชิญนักเทคนิคมาตรวจสอบร่วมกับนักวิทยาศาสตร์ของสำนักพิสูจน์หลักฐานตำรวจอีกครั้งหนึ่ง โดยจากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่า รถปอร์เช่ขับมาด้วยความเร็วเกินกฎหมายกำหนดอยู่แล้ว ส่วนรถโตโยต้ายังไม่พบประเด็นเรื่องความเร็วเกินกำหนด อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะได้ตรวจสอบเรื่องปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดผู้ขับขี่ด้วย คาดว่า ภายใน 2 วัน จะสามารถส่งหลักฐานให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาต่อไปได้


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก





[3 พฤษภาคม] พบรอยชนสยองโทลล์เวย์ คาด ฟอร์จูนเนอร์ ทับ ปอร์เช่ 

ปอร์เช่ชนฟอร์จูนเนอร์


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3

           กองพิสูจน์หลักฐาน เผย พบร่องรอยใหม่ ใต้ท้องรถฟอร์จูนเนอร์ สันนิษฐานว่ารถปอร์เช่อาจจะโดนทับขณะเกิดอุบัติเหตุ ด้านฝ่ายสอบสวนชี้ น่าจะสรุปสำนวนคดีนี้ได้ในสัปดาห์หน้า

           ความคืบหน้าการสอบสวนคดีอุบัติเหตุรถชนกันบนโทลล์เวย์ขาออก เมื่อวันที่ 27 เมษายน ที่ผ่านมา  ช่วงหน้าอาคารที่ทำการหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ บริเวณเขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร เป็นเหตุให้ นายไทฟ้า ชยวรประภา อายุ 54 ปี กรรมการผู้จัดการ บริษัท บัดดี้ กรุ๊ป จำกัด และเจ้าของโรงแรมบัดดี้ วิลเลจ ถนนข้าวสาร ซึ่งขับรถยนต์ปอร์เช่ รุ่น 911 จีที 2 หมายเลขทะเบียน  กก – 911 กรุงเทพมหานคร  เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ พร้อม พ.ต.ศักดิภัทร ปทุมารักษ์ บุตรชาย นายชาญชัย ปทุมารักษ์ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งขับรถโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ ทะเบียน ษข - 3333 กรุงเทพมหานคร และมีผู้บาดเจ็บนั้น

           ล่าสุดเมื่อวานนี้ (2 พฤษภาคม ) พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วยผบ.ตร.) กล่าวว่า ได้มีการตรวจสอบรอบความเร็วของรถยนต์ที่ปรากฏอยู่บนเรือนไมล์ รวมทั้งมีการเก็บข้อมูลภาพจากกล้องวงจรปิดทั้ง 16 ตัว บนทางด่วนแล้ว โดยภาพจากกล้องตัวที่ 1-12 สามารถนำมาดูค่าเฉลี่ยของความเร็วเพื่อบ่งบอกพฤติการณ์ในการใช้รถของผู้ที่เกี่ยวข้องได้ และภาพจากกล้องวงจรปิดตัว 14 – 16 บริเวณจุดที่รถชนกัน จะนำมาหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความเร็ว ในจุดที่เป็นพื้นที่วิกฤต ที่ไม่มีกล้องวงจรปิด แต่จากการตรวจสอบรอยเบรก หรือเก็บสี พบว่า มีร่องรอยยาวประมาณ 120 เมตร และกองพิสูจน์หลักฐาน พบว่า บริเวณใต้ท้องรถกระบะฟอร์จูนเนอร์มีสีเทาของรถปอร์เช่ติดอยู่ด้วย จึงสันนิษฐานว่ารถยนต์ปอร์เช่อาจจะถูกทับขณะที่เกิดอุบัติเหตุ

            อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบช.น. (ดูแลงานสอบสวน) เปิดเผยว่า ได้เรียก พ.ต.ท.ชัยวัฒน์ อินทร์เทศ พงส.(สบ2) งานศูนย์ควบคุมจราจรวิภาวดีรังสิต/ทางพิเศษ (สน.วิภาวดี) มาพูดคุย พร้อมตรวจสอบพยานเอกสาร พยานบุคคล ภาพเคลื่อนไหว ภาพนิ่งในที่เกิดเหตุ เพื่อติดตามความคืบหน้าในด้านการสอบวน โดยคาดว่าจะสรุปสำนวนคดีนี้ได้ภายในสัปดาห์หน้า


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก





[30 เมษายน] ตำรวจเร่งตรวจ CCTV สรุปเหตุ ปอร์เช่ชนฟอร์จูนเนอร์

ปอร์เช่ชนฟอร์จูนเนอร์

ปอร์เช่ชนฟอร์จูนเนอร์

ปอร์เช่ชนฟอร์จูนเนอร์


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3

          ตำรวจเผยตรวจสอบกล้อง CCTV หาสาเหตุปอร์เช่ชนฟอร์จูนเนอร์บนโทลล์เวย์ จนมีผู้เสียชีวิต 2 ศพ พบกล้องจับภาพไว้ได้ เตรียมใช้เป็นหลักฐานในคดี

          จากเหตุการณ์นักธุรกิจซิ่งรถสปอร์ตปอร์เช่ ชนกับรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ก่อนจะไปเสยท้ายรถมาสด้าเป็นคันที่ 3 บนทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ ขาออก จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัส 1 คน เหตุการณ์เมื่อคืนวันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมานั้น

          ความคืบหน้าของคดีนี้ ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ที่ติดตั้งอยู่ในฝั่งขาเข้า บนทางยกระดับโทลล์เวย์ในจุดที่ใกล้กับจุดเกิดเหตุแล้ว ซึ่งกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพหลังเกิดอุบัติเหตุไว้ได้ทั้งหมด และสามารถใช้เป็นหลักฐานสำคัญของคดีนี้ได้

          ขณะที่ พนักงานสอบสวน สน.วิภาวดี กล่าวว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรอยห้ามล้อและรอยล้อแม็กครูดกับผิวถนนเป็นทางยาว แต่ยังระบุทิศทางไม่ได้ ส่วนนายอำนาจ กลิ่นอยู่ คนขับรถยนต์มาสด้า 2 เบื้องต้นอาการปลอดภัยแล้ว และให้ปากคำว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองได้ขับรถมาในช่องทางที่ 3 ความเร็วประมาณ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่จู่ ๆ ก็มีรถยนต์เข้ามาขวางเส้นทางในระยะกระชั้นชิด ทำให้เบรกไม่ทันจนพุ่งชนรถคันดังกล่าว





คลิปวงจรปิด ปอร์เช่ชนสยองโทลล์เวย์ (29 เมษายน 2555)




คลิปปอร์เช่ซิ่งสยองเสยฟอร์จูนเนอร์ ดับ 2โทลล์เวย์



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก




[27 เมษายน] ซิ่งสยอง! ปอร์เช่ชนฟอร์จูนเนอร์บนโทลล์เวย์ ดับทั้งคู่

ปอร์เช่ชนฟอร์จูนเนอร์

ปอร์เช่ชนฟอร์จูนเนอร์

ปอร์เช่ชนฟอร์จูนเนอร์

สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3
 
          ชนสยอง! นักธุรกิจซิ่งปอร์เช่ บนดอนเมืองโทลล์เวย์ เสยรถฟอร์จูนเนอร์ เสียชีวิต 2 ศพ บาดเจ็บ 1 คน เจ้าหน้าที่เร่งสอบซากรถ 3 คัน เพื่อดูว่าเหตุการณ์จริง ๆ เป็นอย่างไร

          วันนี้ (27 เมษายน) เมื่อเวลา 00.30 น. เกิดอุบัติเหตุ รถยนต์นั่งส่วนบุคคลชนกันบนทางยกระดับอุตราภิมุข หรือดอนเมืองโทลล์เวย์ ขาออก ช่วงสำนักพิมพ์เดลินิวส์ มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถสปอร์ตปอร์เช่ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กก 911 กทม. สภาพหน้ารถยุบหลังคาฉีกขาด พบคนขับเสียชีวิต ติดภายใน ทราบชื่อคือ นายไทฟ้า ชยวรประภา อายุ 54 ปี ใกล้กันพบรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ษข 3333 กทม. สภาพพังยับเยิน ภายในพบร่างผู้เสียชีวิตไม่ทราบชื่อกระเด็นจากที่นั่งคนขับมาบริเวณเบาะหลังรถ ภายในรถคันดังกล่าว พบเอกสารระบุชื่อ พันตรีศักดิภัทร ปทุมารักษ์ ซึ่งเป็นบุตรชายคนเล็กของนายชาญชัย ปทุมารักษ์ อดีต ส.ส. จังหวัดนครปฐม

          นอกจากนี้ พบรถยนต์มาสด้า 2 และรถยนต์มิตซูบิชิ ที่ขับตามหลังมา เบรกไม่ทัน พุ่งชนซ้ำ มีผู้บาดเจ็บ 1 คน เจ้าหน้าที่นำส่งโรงพยาบาลวิภาวดี ทราบชื่อต่อมาคือ นายอำนาจ กลิ่นอยู่ อายุ 30 ปี


ปอร์เช่ชนฟอร์จูนเนอร์

ปอร์เช่ชนฟอร์จูนเนอร์


          ทั้งนี้ จากการสอบสวนเบื้องต้นยังไม่พบผู้เห็นเหตุการณ์ที่ชัดเจน แต่หลังเกิดเหตุมีคนโทรศัพท์มาแจ้งว่า ขณะขับรถบนโทลล์เวย์ขาเข้า เห็นรถปอร์เช่วิ่งสวนไปด้วยความเร็วสูง และจากการตรวจสอบรถเก๋งปอร์เช่ พบว่า เข็มไมล์ค้างอยู่ที่ 270 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เจ้าหน้าที่จึงคาดว่าขับมาด้วยความเร็วสูง ก่อนจะพุ่งชนท้ายรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ จนพลิกคว่ำ แล้วรถปัดไปโดนรถมาสด้า 2 จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว

          ต่อมา เมื่อเวลา 11.30 น. พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ กลันทปุระ รอง ผบก.จร. เปิดเผยความคืบหน้าของคดีนี้ว่า ได้เรียกเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาประชุมแล้ว พร้อมกับประสานให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เข้ามาตรวจสอบรถทั้ง 3 คัน และตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อสรุปว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นในตอนนั้น ใครขับมาอย่างไร และใครชนใครก่อน ซึ่งยอมรับว่า ตรวจสอบได้ยาก เพราะจุดดังกล่าวไม่มีกล้องวงจรปิด และไม่มีพยานในที่เกิดเหตุมาให้ปากคำด้วย

          พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานลองตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดในจุดอื่น ๆ ตามเส้นทาง เพื่อดูว่ารถทั้ง 3 คัน ขับมาอย่างไร เหตุการณ์ที่แท้จริงเป็นอย่างไร ขณะเดียวกันก็ยังไม่แน่ใจว่า รถสปอร์ตปอร์เช่ที่มีเลขไมล์ค้างอยู่ที่ 270 กม./ ชม.นั้น คนขับได้ขับรถมาด้วยความเร็วขนาดนี้จริงหรือไม่ ต้องตรวจสอบให้แน่ชัดเสียก่อน ก่อนที่จะสรุปเพื่อดำเนินการต่อไป

          สำหรับนายอำนาจ คนขับรถมาสด้า ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้ และนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลวิภาวดีนั้น ทาง พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ ระบุว่า ยังไม่สามารถสอบปากคำได้ เพราะนายอำนาจได้รับบาดเจ็บสาหัส



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก






เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ตำรวจยังไม่สรุปคดีปอร์เช่ชนสยอง เพราะขับรถเร็ว โพสต์เมื่อ 27 เมษายน 2555 เวลา 07:55:17 10,544 อ่าน
TOP