
ตำรวจประสานตรวจป้ายโฆษณาทุกป้อมทั่วนครบาล จ่อฟันฐานรุกที่สาธารณะ

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ผบช.น. ประสาน กรมป่าไม้ ตรวจป้ายไฟโฆษณาป้อมตำรวจพื้นที่นครบาล จ่อเอาผิดฐานบุกรุกสาธารณะ - ลักลอบใช้ไฟหลวง ประเดิมจุดแรกแยกปทุมวัน
เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2558 พล.ต.ท. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. เปิดเผยขณะลงพื้นบริเวณแยกปทุมวันเพื่อตรวจสอบความคืบหน้าการดำเนินคดีกับเจ้าของบริษัทป้ายโฆษณาที่ติดตั้งบนป้อมตำรวจว่า วันนี้เจ้าหน้าที่ได้ประสานชุดปฏิบัติการพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ และกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) และ บก.สปพ. เพื่อดำเนินการตรวจสอบป้ายโฆษณาที่ติดตั้งในบริเวณป้อมตำรวจว่ามีความผิดหรือไม่อย่างไร
ทั้งนี้ นอกจากจะมีการดำเนินคดีในข้อหาบุกรุกพื้นที่สาธารณะแล้ว จะมีการดำเนินคดีในข้อหาคดีลักทรัพย์อีกด้วย เนื่องจากป้ายโฆษณาบนจอแอลอีดีดังกล่าว มีการนำลักลอบใช้ไฟหลวง โดยมีการมอบหมายให้กองบังคับการสายตรวจปฏิบัติการพิเศษ (บก.สปพ.) เป็นผู้ดำเนินการตรวจสอบว่ามีจุดใดบ้าง ซึ่งที่ผ่านมาเบื้องต้นได้มีการดำเนินการทางวินัยไปแล้ว ต่อไปหากพบว่ามีผู้กระทำผิดอีกจะมีการดำเนินคดีอาญา และทางแพ่งต่อไป
ด้านนายจรัส นีรนาทไพบูลย์ หัวหน้าสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ กล่าวว่า ในเบื้องต้นอาจมีการดำเนินคดีกับเจ้าของบริษัทป้ายโฆษณาในข้อ หาบุกรุกพื้นที่สาธารณะ ตามกฎหมายป่าไม้ ในข้อหาบุกรุป่า มาตรา 9 ตามประมวลกฎหมายที่ดิน และ พรบ.ส่งเสริมสิ่งแวดล้อม เนื่องจากพื้นที่ที่ป้อมตำรวจตั้งอยู่นั้น เปรียบเสมือนที่ดินรกร้างว่างเปล่า พื้นที่สาธารณะ หรือพื้นที่ป่า ซึ่งตำรวจป่าไม้มีอำนาจดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษ และตำรวจกองบังคับการการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) จะเป็นผู้ฟ้องร้องคดีกับเจ้าของบริษัทป้ายโฆษณาตามกฎหมายสิ่งแวดล้อมต่อไป
ทั้งนี้การดำเนินการตรวจสอบป้ายไฟโฆษณาดังกล่าว เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2547 ที่มีการเห็นชอบให้ดำเนินโครงการปรับปรุงทัศนียภาพบริเวณแนวเส้นทางจราจร และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่อการติดตั้งป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ ที่ปัจจุบันพบว่ามีจำนวนมาก ซึ่งบางจุดตั้งบดบังทัศนียภาพ ซึ่งเป็นการใช้สิทธิส่วนเกินเบียดเบียนผู้สัญจรไปมาบนท้องถนน ทั้งยังอาจมีปัญหาเรื่องความมั่นคงปลอดภัยในการติดตั้ง จึงได้ขอให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบดูแลและเข้มงวดกวดขันให้เป็นไปตามข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง








