ชนชาติกะเหรี่ยง สั่งเปิดท่าข้าม 30 แห่ง ที่ตากแล้ว


เผยปมเหตุตำรวจเมียนมาร์ตั้งด่านตรวจปัสสาวะคนไทย-ปิดท่าข้ามขนส่ง

              เผยปมเหตุสำคัญ กรณีเมียนมาร์สั่งตั้งด่านตรวจปัสสาวะคนไทยบริเวณชายแดนประเทศเมียนมาร์ และสั่งปิดท่าข้ามขนส่ง เพื่อเป็นการตอบโต้ที่ไทยสั่งอายัดน้ำมัน ส่งผลให้เมียนมาร์ขาดแคลนน้ำมันอย่างหนัก ล่าสุด สั่งเปิดท่าข้ามแล้ว

              วันนี้ (25 มีนาคม 2558) รายการสามมุมข่าว ทางช่องสปริงนิวส์ รายงานว่า จากกรณีโลกออนไลน์มีการเผยแพร่ประกาศจากการประชุมคณะกรรมการประสานงานชายแดนส่วนท้องถิ่น (ทีบีซี) ไทย-เมียนมาร์ ครั้งที่ 82 เมื่อวันที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมา โดยฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ ที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ซึ่งการประชุมหารือนอกรอบนั้น ทางฝ่ายคณะกรรมการทีบีซี ฝ่ายเมียนมาร์ แจ้งว่าตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป เจ้าหน้าที่ตำรวจท่าขี้เหล็กจะมีการสุ่มตรวจปัสสาวะผู้ที่เดินทางข้ามไปยังฝั่งเมียนมาร์ และหากพบว่าในร่างกายมีสารเสพติดจะถูกจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายของพม่าทันที โดยมีโทษจำคุก 5 ปี แต่ไม่มีโทษปรับ และไม่มีการตรวจแยกแยะว่าการมีฉี่ม่วงนั้นเกิดจากการเสพสารเสพติดจริงหรือไม่ ซึ่งมีการตั้งปมเหตุที่ทำให้ทางการเมียนมาร์ตั้งด่านดังกล่าวไว้ 2 ประเด็น คือ

              1. จากการที่ไทยตั้งด่านตรวจปัสสาวะคนเมียนมาร์และรีดไถเงินค่าปล่อยตัว จนสร้างความเดือดร้อนให้แก่คนเมียนมาร์เป็นอย่างมาก ซึ่งทางฝั่งไทยจะมีการตรวจสอบว่าผู้ที่กระทำการดังกล่าวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือไม่

              2. จากการที่ไทยอายัดน้ำมันเชื้อเพลิงผ่านพื้นที่ชนกลุ่มน้อย ด้านชายแดนจังหวัดตาก ส่งผลให้ทางเมียนมาร์เกิดปัญหาขาดแคลนน้ำมันและทำให้น้ำมันมีราคาสูงขึ้น โดยจากการตรวจสอบกรณีการอายัดน้ำมันเป็นงานของเจ้าหน้าที่ที่ต้องควบคุมการบรรทุกน้ำมันที่ต้องข้ามไปยังฝั่งเมียนมาร์ที่สะพานมิตรภาพไทยเมียนมาร์ด้านตำบลท่าสายลวด จังหวัดตาก เพียงแห่งเดียวเท่านั้น โดยสะพานจะรับน้ำหนักได้ที่ 25 ตันต่อคัน เพราะหากถ้าเกินกว่านี้จะทำให้เกิดอันตรายได้ ซึ่งทำให้รถบรรทุกน้ำมันตกค้างอยู่ทางฝั่งไทยจำนวนหลายคัน

เผยปมเหตุตำรวจเมียนมาร์ตั้งด่านตรวจปัสสาวะคนไทย-ปิดท่าข้ามขนส่ง

              ทั้งนี้ล่าสุด มีรายงานว่า กองกำลังพิทักษ์ชายแดนของรัฐบาลเมียนมาร์ หรือ BGF ปิดท่าข้ามขนส่งสินค้ากว่า 30 แห่ง ในพื้นที่แนวชายแดนไทย–เมียนมาร์ ด้านอำเภอแม่สอด ไม่ให้ผู้ประกอบการขนส่งสินค้าจากฝั่งไทยขนสินค้าข้ามไปในเขตของเมียนมาร์ ส่งผลให้มีรถน้ำมันและสินค้าต่าง ๆ ติดค้างอยู่ในเขตไทยจำนวนมาก บริเวณหน้าด่านท่าเรือริมแม่น้ำเมย ตำบลแม่กุ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับการค้าขาย และผู้ประกอบการขนส่งสินค้าเป็นอย่างมาก เนื่องจากต้องมีค่ารักษาสินค้าไม่ต่ำกว่าวันละ 10 ล้านบาท

              จากการตรวจสอบคาดว่า สาเหตุมาจากชุดปฏิบัติการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง หรือ ปนม. สั่งอายัดรถบรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิงที่ส่งออกตามแนวชายแดน จังหวัดตาก ซึ่งจะข้ามไปยังฝั่งพม่า โดยไม่ดูเหตุผลและความจำเป็น ทำให้มีน้ำมันเบนซินและดีเซลตกค้างเป็นจำนวนมาก และการอายัดครั้งนี้ส่งผลให้พม่าประสบปัญหาขาดแคลนน้ำมันภายในอย่างหนัก

              อย่างไรก็ตามกระแสของการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดคนไทยที่ฝั่งเมียนมาร์ ทางผู้กำกับตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า การที่จะข้ามฝั่งไปยังต่างประเทศก็ควรทำตัวเป็นพลเมืองที่ดีไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งผิดกฎหมาย ยาเสพติด และเป็นมาตรการการปราบปรามยาเสพติดของประเทศเมียนมาร์ ซึ่งแต่ละประเทศของมีวิธีการที่แตกต่างกันไป และแม้ว่าจะยังไม่มีการตั้งด่านตรวจปัสสาวะตามที่มีประกาศออกมาให้เห็น แต่ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยก็ได้เข้าหารือกับทางการฝ่ายเมียนมาร์ถึงกรณีดังกล่าว ซึ่งต้องรอคำยืนยันจากทางฝ่ายเมียนมาร์ถึงผลสรุปว่าเป็นอย่างไร

              อย่างไรก็ดี ล่าสุด นายพลจัตวา หม่อมชิตตู และกลุ่มกะเหรี่ยงเคเอ็นยูเพื่อสันติภาพ ของพลจัตวาทิ่น หม่อง ได้สังให้เปิดท่าข้ามกว่า 30 แห่งแล้ว ตั้งแต่บ้านวังผา ต.ขะเนจื้อ อ.แม่ระมาด จนถึง อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อให้ขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงได้ตามปกติ อย่างไรก็ตาม ก็จะเข้าไปจัดระเบียบให้ถูกต้อง เพื่อป้องกันการลักลอบขายน้ำมันเถื่อน




อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก 

    





เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ชนชาติกะเหรี่ยง สั่งเปิดท่าข้าม 30 แห่ง ที่ตากแล้ว อัปเดตล่าสุด 25 มีนาคม 2558 เวลา 22:41:46 20,971 อ่าน
TOP
x close