

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 2 เมษายน 2558 นายสมศักดิ์ ภู่เพ็ชร์ ผู้อำนวยการส่วนยุทธการป้องกันและปราบปราม กรมป่าไม้ นายชาติชาย ศรีแผ้ว หัวหน้าสำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 1 ภาคกลาง พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารได้นำหมายค้นศาลจังหวัดกาญจนบุรี ที่ มค.289/2558 ลงวันที่ 2 เมษายน 2558 เข้าตรวจวัดป่าหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ที่จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อยึดหมีควายจำนวน 6 ตัวที่ถูกขังอยู่ในกรงขนาดใหญ่
โดยนายสมศักดิ์เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ได้มีเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบเสือจำนวน 146 ตัว เพื่อนำไมโครชิพไปเปรียบเทียบกับไมโครชิพของเสือ 3 ตัว ที่มีข่าวว่าถูกขโมยออกไปจากวัดเมื่อหลายวันก่อน แต่ไม่ได้รับความร่วมมือจากทางวัดเท่าที่ควร ซึ่งขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังเดินทางกลับ ได้สังเกตเห็นหมีควายหรือหมีดำ ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองอยู่ในกรงขนาดใหญ่ จำนวน 6 ตัว เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าหมีควายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในบัญชีสัตว์ของกลางที่กรมอุทยานฯ เคยฝากทางวัดไว้เลี้ยงดู และทางวัดไม่มีเอกสารการครอบครองมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่จึงต้องทำการตรวจยึดหมีควายทั้ง 6 ตัว ไปไว้ที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าบางละมุง อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี

ด้าน นายบรรพต มาลีหวล หัวหน้าสถานีวิจัยเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาประทับช้าง จังหวัดราชบุรี เปิดเผยว่า ขั้นตอนของการที่จะนำหมีออกมาจากกรงได้วางแผนเอาไว้ 2 วิธี คือให้หมีเดินเข้ามาในกรงที่เตรียมเอาไว้ และวิธีการวางยาสลบ ซึ่งอุปกรณ์ทั้งหมดได้เตรียมเอาไว้หมดแล้ว แต่เนื่องจากอากาศที่ค่อนข้างร้อน ทำให้หมีหงุดหงิดง่าย จึงทำวิธีแรกไม่สำเร็จ จำเป็นต้องใช้วิธีวางยาสลบ ซึ่งจะทำให้หมีสลบภายในเวลา 15 นาที และจะฟื้นภายใน 15 นาที โดยระหว่างนี้เจ้าหน้าที่จะต้องรีบนำหมีเข้ากรงที่เตรียมเอาไว้ให้เร็วที่สุด
อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลา 17.00 น. ได้มี พระวิสุทธิสารเถระ หรือ หลวงตาจันทร์ เจ้าอาวาส พร้อมพระสงฆ์และสามเณรกว่า 100 รูป รวมทั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลเสือทั้งชาวไทยและต่างชาติ เข้ามาร่วมกันปิดล้อมขบวนรถของคณะเจ้าหน้าที่เอาไว้ โดยหลวงตาจันทร์ได้นั่งขวางรถและตะโกนประกาศขอยอมตายพร้อมกับหมีทั้ง 6 ตัว ขณะที่พนักงานและเจ้าหน้าที่ของวัดทั้งไทยและต่างชาติต่างร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจ จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ชุลมุนขึ้น ซึ่งถึงแม้ นายชาติชาย ศรีแผ้ว หัวหน้าสำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 1 ภาคกลาง ได้อ่านหมายค้นศาลจังหวัดกาญจนบุรี ให้กับทุกคนฟัง แต่หลวงตาจันทร์ก็ยังไม่ยอมเปิดขบวนที่ขวางรถออก และได้เอากรงเหล็กมาขวางเพิ่ม รวมทั้งยังมีเจ้าหน้าที่วัดบางรายที่เกิดเหตุกระทบกระทั่งกับเจ้าหน้าที่ด้วย
ด้าน สัตวแพทย์หญิงสุนิตา วิงวอน สัตวแพทย์ประจำสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าบางละมุง จังหวัดชลบุรี กล่าวว่า สิ่งที่คณะสัตวแพทย์เป็นห่วงที่สุดคือสุขภาพของหมีทุกตัวที่อยู่ในกรง เพราะอากาศค่อนข้างร้อน หมีจะหงุดหงิดง่าย และก่อนที่จะนำหมีเข้ากรงคณะสัตวแพทย์ได้ทำการวางยาสลบไปแล้วครั้งหนึ่ง หากมีการนำหมีกลับไปไว้ที่วัด ก็คงจะไม่สามารถทำได้เพราะหากนำหมีกลับไปลงที่กรงในช่วงเวลากลางคืน จะเกิดอันตรายต่อคนและสัตว์ ครั้นจะให้ยาสลบอีกครั้งหนึ่งก็ไม่สามารถทำได้เช่นกัน เพราะมันเป็นจรรยาบรรณของแพทย์ ซึ่งจะไม่มีการให้ยาสลบเป็นครั้งที่สองติดต่อกันเช่นนี้ จึงมีความจำเป็นต้องรีบขนย้ายหมีทั้งหมดไปที่ สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าบางละมุง จังหวัดชลบุรี ให้เร็วที่สุด หรือไม่ก็ต้องรีบนำไปไว้ที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสน หรือเขาประทับช้างที่อยู่ใกล้ที่สุดโดยเร็ว
อย่างไรก็ดีจากเหตุการณ์ความวุ่นวายดังกล่าวได้มีเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายเดินทางมาประชุมหารือทางออก ที่วัดวัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน และการประชุมดังกล่าวคณะเจ้าหน้าที่ได้นิมนต์หลวงตาจันทร์มาร่วมประชุมด้วย แต่หลวงตาจันทร์ไม่ยอมมาตามที่คณะเจ้าหน้าที่นิมนต์ จึงเป็นเหตุให้ตกลงกันไม่ได้
ขณะที่นายสมศักดิ์ กล่าวว่า หลังจากมีเหตุการณ์วุ่นวายเกิดขึ้น อีกทั้งทางเจ้าอาวาสก็ไม่ยินยอมให้นำหมีออกไปจากวัด และหลังจากมีการหารือกับรองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี และผู้ที่เกี่ยวข้อง มีความเห็นว่าให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการไปตามกฎหมาย แต่แม้ว่าเวลาจะล่วงเลยมาหลายชั่วโมง ทางวัดก็ยังคงนั่งขวางรถบรรทุกหมีอยู่ ดังนั้นเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายจะได้เฝ้าดูสถานการณ์ไปจนกว่าจะถึงพรุ่งนี้เช้า (3 เมษายน) และจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจนถึงเวลา 23.30 น. บรรยากาศยังคงตึงเครียดอยู่ ซึ่งคณะเจ้าหน้าที่ได้รายงานให้ นายนิพนธ์ โชติบาล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ทราบแล้ว
ภาพจาก รายการ เรื่องเล่าเช้านี้ บีอีซี-เทโร
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก







