เจ๊ติ๋ม โล่ง ไทยทีวีเลื่อนจอดำไปอีก 3 เดือน เล็งหาพันธมิตรใหม่




          ไทยทีวี ยังออกอากาศได้อีก 3 เดือน เล็งหาพันธมิตรใหม่ โดย กสทช. จะจัดเวทีกลางให้ทางช่องเลือกเอง

          จากคดีที่บริษัทไทยทีวี ยื่นฟ้อง กสทช. โดยขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ระงับคำสั่ง สำนักงาน กสทช. เรียกเก็บหนังสือค้ำประกันจากสถาบันการเงิน (แบงก์การันตี) เพื่อมาชำระเงินค่าประมูลทีวีดิจิตอลงวดที่ 2 จำนวน 288 ล้านบาท จากธนาคารกรุงเทพนั้น

          ล่าสุดวันที่ 21 กรกฎาคม 2558 สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) และบริษัท ไทยทีวี จำกัด ได้มีการไต่สวนเพิ่มเติมเป็นครั้งที่ 2 ในคดีดังกล่าว

          หลังจากให้ปากคำกับศาลแล้ว นางพันธุ์ทิพา ศกุณต์ไชย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยทีวี จำกัด กล่าวว่า ในการเจรจากันระหว่าง กสทช. กับบริษัท ไทยทีวี ทั้งสองฝ่ายมีความเห็นร่วมกันว่า ไทยทีวี จะขยายการออกอากาศไปอีก 3 เดือน คือวันที่ 31 ตุลาคม จากแผนเดิมที่จะต้องยุติการออกอากาศในวันที่ 26 กรกฎาคม ซึ่งในระหว่างนี้ ทางบริษัท ไทยทีวี จะต้องหาพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อมาร่วมทุน หรือซื้อเวลาออกอากาศตามเกณฑ์ กสทช. ที่ไม่เกิน 40% โดยในส่วนของการหาพันธมิตรนั้น ทาง กสทช. จะเป็นผู้จัดเวทีกลาง ส่วนสิทธิ์ในการเลือกนั้นเป็นของบริษัท ไทยทีวี ทั้งนี้เบื้องต้น ทางบริษัท ตั้งคุณสมบัติผู้มาร่วมทุน จะต้องรวย ฉลาด และมีความรู้ในการผลิตรายการโทรทัศน์ เป็นหลัก

          อย่างไรก็ตาม หากภายใน 3 เดือน บริษัท ไทยทีวี ยังไม่สามารถหาพันธมิตรทางธุรกิจได้นั้น ก็จะต้องยุติการออกอากาศ และต้องมีความเป็นไปได้สูงที่ต้องมาต่อสู้กับ กสทช. อีกครั้งในชั้นศาล และในระยะเวลา 3 เดือนนี้ คาดว่า ทางบริษัท ไทยทีวี จะต้องรับภาระขาดทุนต่อช่อง 20 ล้านบาทต่อเดือน หรือรวม 3 เดือนราว 120 ล้านบาท โดยในการเจรจากับ กสทช. ในครั้งนี้ ยังไม่ได้มีการพูดคุยกันถึงเรื่องเงินค่าประมูลหรือค่าปรับจากการเลยกำหนดชำระหนี้ค่าประมูลทีวีดิจิตอลในงวดที่ 2 แต่อย่างใด เนื่องจากหากมีการคุยกันในเรื่องดังกล่าวก็จะเป็นการยากที่จะสามารถเจรจากันได้ ส่วน กสทช. ก็ได้ให้คำมั่นต่อหน้าศาลแล้วเช่นกัน ว่าในระหว่างนี้จะยังไม่ยึดเงินจากแบงก์การันตีอย่างแน่นอน

          สำหรับในกระบวนการฟ้องร้องนั้น นางพันธุ์ทิพา กล่าวว่า บริษัท ไทยทีวี ยังจะไม่ถอนฟ้องและขอยืนยันตามเดิม เนื่องจากเห็นว่า กสทช. ไม่ปฏิบัติตามหนังสือเชิญชวน หรือแผนแม่บท จนสร้างความเสียหายให้แก่บริษัท ประกอบด้วย

          1. กสทช. ผิดคำมั่นในเรื่องการแจกคูปองทีวีดิจิตอล จากเดิมกำหนดแจก 22.5 ล้านครัวเรือน แต่แจกจริงแค่ 14 ล้านครัวเรือน และล่าช้าจากที่ให้คำมั่นว่าเริ่มแจกเดือนเมษายน แต่เริ่มแจก 10 ตุลาคม 2557 

          2. กสทช. ผิดคำมั่นที่ว่าจะแจกกล่องทีวีดิตอลภาคพื้นดินเท่านั้นให้กับประชาชน แต่กลับแจกกล่องไฮบริดซึ่งรับชมได้ทั้งทีวีดาวเทียมและทีวีดิจิตอล

          3. ยอมให้ช่อง 3 อนาล็อกออกอากาศคู่ขนานกับทีวีดิจิตอลได้ ส่งผลให้ผู้ประกอบกิจการดิจิตอลอื่น ๆ ได้รับผลกระทบ เพราะเม็ดเงินโฆษณาที่อยู่กับทีวีอนาล็อกมีปีละ 74,000 ล้านบาท ควรมากระจายอยู่กับทีวีดิจิตอล

          4. กสทช. ผิดคำมั่นสัญญาในเรื่องเสาสัญญาณทีวีดิจิตอล มีการติดตั้งเสาสัญญาณล่าช้ากว่าที่ควรจะเป็นตามแผนแม่บทที่วางไว้ 

          5. กสทช. ไม่ประชาสัมพันธ์อย่างจริงจัง ให้ประชาชนเข้าใจเรื่องทีวีดิจิตอล

          6. กสทช. ผิดคำมั่น  ไม่สามารถบังคับให้ทีวีดิจิตอลอยู่ในทุกรูปแบบการออกอากาศได้ ที่เห็นได้ชัดคือในระบบเคเบิลทีวีที่ กสทช. ละเว้นและห้ามให้เคเบิลทั่วประเทศนำช่องดิจิตอลไปออกอากาศ 

          7. ตามเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาต ช่องไทยทีวี ประมูลในหมวดข่าวและสาระ ซึ่งข่าวบันเทิง ถือเป็นข่าวเพื่อคุณภาพชีวิตอย่างหนึ่ง นำความสุขให้ประชาชน ตามพจนานุกรม แต่ กสทช.  ไม่ยอมรับว่าข่าวบันเทิง คือ ข่าวประเภทหนึ่ง

          8. กสทช. ไม่สามารถให้ตัวเลขการออกอากาศเป็นแบบเดียวกันทั้งโครงข่ายทีวีดิจิตอล ทีวีดาวเทียม และเคเบิลทีวีได้ และ

          9. กสทช. ไม่ได้กำหนดเกณฑ์การให้เงินสนับสนุนอย่างชัดเจน ทำให้ผู้ประมูลไม่สามารถขอรับเงินสนับสนุน เพื่อรายการข่าวและสาระ รวมทั้งเรื่องเด็กและประชาชน 

          ทั้งนี้จากสาเหตุดังที่กล่าวมาข้างต้น ส่งผลให้การตัดสินใจประกอบกิจการดิจิตอลทีวีของบริษัทไทยทีวี  ต้องยุติลง เพราะ กสทช. ไม่สามารถทำตามคำมั่น หรือประกาศที่ได้ให้ไว้กับผู้ประกอบกิจการทีวีดิจิตอลได้ ไม่ใช่เพราะบริษัท ไทยทีวี ไม่มีประสิทธิภาพในการดำเนินกิจการ 

          ทางด้าน พ.อ. นที ศุกลรัตน์ รองประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องที่ดีในการขยายเวลาออกอากาศออกไปอีก 3 เดือนของบริษัท ไทยทีวี ทั้งนี้ ทาง กสทช. เองก็พร้อมให้การสนับสนุนในทุกวิถีทางตามกระบวนการของกฎหมาย และในส่วนของดอกเบี้ยที่จ่ายค่าประมูลงวดที่ 2 ช้านั้น ก็ยังคงเพิ่มขึ้นในอัตราวันละ 60,000 บาท โดยในส่วนประเด็นฟ้องร้องต่าง ๆ ของ บริษัท ไทยทีวี เห็นว่าอาจไม่ได้เป็นไปอย่างที่โดนกล่าวหา เพราะต้องดูในรายละเอียด


ภาพจาก สปริงนิวส์

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เจ๊ติ๋ม โล่ง ไทยทีวีเลื่อนจอดำไปอีก 3 เดือน เล็งหาพันธมิตรใหม่ อัปเดตล่าสุด 22 กรกฎาคม 2558 เวลา 15:06:34 4,984 อ่าน
TOP
x close