ภาพจาก GREG BAKER / AFP
วันที่ 13 สิงหาคม 2558 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า จากเกิดเหตุระเบิดครั้งใหญ่หลายครั้งในพื้นที่นครเทียนจิน ซึ่งเป็นเมืองท่าสำคัญทางภาคเหนือของประเทศจีน ล่าสุดยอดผู้เสียชีวิตพุ่งสูงถึง 44 ราย ซึ่งในจำนวนนี้เป็นนักดับเพลิง 12 ราย ส่วนผู้บาดเจ็บรวม 520 รายถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล โดยมีอาการสาหัสถึง 66 ราย
โดยสื่อท้องถิ่น รายงานว่า เมื่อเวลา 23.30 น. (12 สิงหาคม) ตามเวลาท้องถิ่น เหตุระเบิดเกิดขึ้นติดต่อกันหลายครั้ง เพราะจุดเกิดเหตุมีสินค้าที่เป็นสารตั้งต้นระเบิดในท่าเรือติดไฟขึ้นมา โดยการระเบิดครั้งแรกมีความรุนแรงเทียบเท่าระเบิด ทีเอ็นที 3 ตัน ครั้งที่ 2 ความรุนแรงเทียบได้กับระเบิด ทีเอ็นที 21 ตัน จากนั้นก็เกิดขึ้นตามมาในอีก 30 วินาทีถัดมา ก่อนจะมีเหตุระเบิดเกิดขึ้นในบริเวณใกล้เคียงอีกหลายครั้ง
ภาพจาก STR / AFP
รายงานระบุด้วยว่า ประชาชนซึ่งอาศัยอยู่ห่างจากสถานที่เกิดเหตุราว 2-3 กิโลเมตร สามารถรู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนของการระเบิด กระจกบ้านแตกเสียหาย ผู้คนต่างตื่นตระหนกพากันออกมารวมตัวกลางถนน โดยมีภาพและคลิปวิดีโอถูกแชร์ในโซเชียลมีเดียหลังแสดงเหตุการณ์ที่เปลวไฟจากเหตุระเบิดลุกโชนขึ้นไปถึงท้องฟ้า ขณะที่อาคารใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุก็ได้รับความเสียหายและประสบกับสถานการณ์ไฟฟ้าดับ
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจของจีน เน้นไปที่การค้นหาผู้ได้รับบาดเจ็บและการกู้ภัย มากกว่าการดับไฟในที่เกิดเหตุระเบิด เนื่องจากต้องการให้สารเคมีในที่เกิดเหตุถูกเผาไหม้หมดสิ้นเสียก่อน นอกจากนี้ยังกังวลว่า กระแสลมที่พัดแรงในพื้นที่ อาจส่งผลให้เกิดเหตุระเบิดซ้ำขึ้นอีกได้
ภาพจาก CCTV / AFP
ขณะที่สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า นักผจญเพลิงเสียชีวิตอย่างน้อย 6 ราย จากเหตุระเบิดดังกล่าว
ด้าน นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีของจีน ได้ประกาศผ่านโทรทัศน์ท้องถิ่น สั่งให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการเต็มรูปแบบ ทั้งการช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บและปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ให้ได้รับความปลอดภัย
ทั้งนี้เมืองเทียนจิน เป็นหนึ่งในเมืองที่ใหญ่ที่สุดเมืองหนึ่งของประเทศจีน ซึ่งถือว่าเป็นเมืองอุตสาหกรรมขนาดใหญ่และเป็นศูนย์กลางการคมนาคมของประเทศ มีประชากรอาศัยอยู่ทั้งสิ้นราว 11.5 ล้านคน นอกจากนี้ยังมีรายงานอีกด้วยว่าโกดังสินค้าที่เกิดระเบิดใช้ในการกักเก็บสารเคมีและสินค้าอันตราย
ภาพจาก CCTV / AFP
ภาพจาก STR / AFP
ภาพจาก GREG BAKER / AFP
ภาพจาก Weibo.com
ภาพจาก Weibo.com
ภาพจาก STR / AFP
ภาพจาก STR / AFP
world_id:55cbf8974d265ad84f8b4588
world_id:55cbefb64d265a89168b456e
world_id:55cc01f34d265a42508b4584