พล.ร.ต. ส่งหนังสือแจง หลังถูกร้องเรียนทำทารุณกรรม-ล่ามโซ่พลทหาร ลั่นถูกใส่ร้าย เพราะตอนเกิดเหตุไม่อยู่บ้าน ชี้อีกฝ่ายขอมาอยู่ด้วยเอง และมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมหลายอย่าง ความคืบหน้ากรณีพลทหารสังกัดกองทัพเรือ เดินทางมาร้องทุกข์ที่ศูนย์บริการประชาชน ด้วยสภาพร่างกายถูกล่ามโซ่ติดกับยางรถยนต์ ว่าถูก "นายทหารนอกราชการ" ยศ พล.ร.ต. นายหนึ่ง ซึ่งตนถูกส่งไปทำงานบ้านให้ ลงโทษด้วยการเอาโซ่มาผูกเอว ล่ามไว้กับยางล้อรถยนต์ เพราะไม่พอใจที่ให้ทำงานไม้แต่ตนไม่ชำนาญ โดยทางกองทัพเรือได้ทราบเรื่อง และสั่งสืบสวนตามข้อเท็จจริงแล้ว ล่าสุด (22 สิงหาคม 2558) มีรายงานว่า พลเรือตรีรายดังกล่าว ได้ส่งหนังสือชี้แจงถึงเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว โดยยืนยันว่า เรื่องที่พลทหารร้องเรียนว่าถูกเขาทารุณกรรมและทำร้ายร่างกายนั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เชื่อว่ามีนายทหารเรือบางคนที่ไม่ประสงค์ดีกับเขาและกองทัพเรือคอยให้การสนับสนุนอยู่ โดยมีรายละเอียดคร่าว ๆ ดังนี้
1. สาเหตุที่ได้รู้จักกับพลทหารรายดังกล่าว เขาได้ขอกำลังพลจากศูนย์ฝึกทหารใหม่ไปทำความสะอาดโรงเรียนฝึกสอนกีฬาทางอากาศฯ ที่บางเสร่ พลทหารรายดังกล่าว เป็นหนึ่งในทหารที่ไปช่วยงาน ก่อนที่พลทหารฯ จะมากล่าวกับเขาต่อหน้าเพื่อน ๆ ว่า อยากขอไปอยู่ด้วย เขาจึงบอกว่า ถ้าจะมาคงมาได้ช่วงพัก 10 วัน ที่เขาปล่อย ซึ่งไม่ขัดกับระเบียบราชการ จากนั้นพลทหารฯ ก็มาอยู่บ้านของเขา 10 วัน ช่วงวันที่ 14-24 กรกฎาคม 2558 ซึ่งเป็นช่วงที่เขาและครอบครัวไปต่างประเทศ โดยเขาได้ให้เงินค่าตอบแทนวันละ 300 บาท เนื่องจากพลทหารฯ บอกว่าเคยทำงานร้านอาหารญี่ปุ่นเดือนละ 15,000 บาท แต่ตอนนี้เงินถูกตัด ไม่พอเลี้ยงลูก
2. วันเกิดเหตุ พลทหารฯ รับอาสามาอยู่บ้านเป็นครั้งที่ 2 ช่วงวันที่ 12-22 สิงหาคม 2558 คราวนี้เขาอยู่ประเทศไทย สังเกตเห็นการทำงานและพฤติกรรมที่ไม่ดีของพลทหารฯ และในช่วงที่เขาไม่อยู่ ภรรยาและลูกสาวอยู่กันเพียง 2 คน พลทหารฯ ดูไม่ค่อยให้ความเคารพยำเกรงภรรยาของเขา เขาจึงได้เรียกมาตักเตือน แต่ไม่ได้ลงโทษใด ๆ ต่อมาวันที่ 16 สิงหาคม พลทหารฯ มาบอกเขาว่า มีนายทหารเรือคนหนึ่งแนะนำมาว่า ให้เขาลองขอกับ จก.ยศ. ที่เป็นเพื่อน ให้พลทหารฯ มาอยู่ด้วยแบบถาวร แล้วพลทหารฯ จะยกเบี้ยเลี้ยงทั้งหมดให้เขา ส่วนตัวเองจะได้กลับไปทำงานร้านอาหารญี่ปุ่น เขาจึงได้ด่ากลับไป และบอกว่า เขาไม่เคยหากินกับเรื่องแบบนี้ มาอยู่กับเขาคือช่วยดูแลกัน หากไม่อยู่คือกลับไปกรมกอง จะเอาเงินเดือนมาให้เป็นแสนเขาก็ไม่เอา
3. พลทหารรายดังกล่าว ร้องเพลงชาติไม่เป็น ที่บ้านของเขา หากอยู่ในช่วงเพลงชาติหรือเพลงสรรเสริญพระบารมีดังขึ้น ทุกคนต้องหยุดทำกิจกรรมอื่น ๆ ต้องยืนตรงหรือนั่งกอดอกร้องเพลงนั้น ๆ ตามจนจบ แต่เขาพบว่า พลทหารฯ ร้องเพลงชาติไม่ได้ เมื่อสอบถามไปยังพ่อของอีกฝ่าย ก็บอกว่า เพราะลูกชายเป็นคนความจำสั้น เขาจึงได้ให้ฝึกร้องเพลงชาติ อีกฝ่ายไม่ตั้งใจ จึงสั่งให้วิ่งรอบบ้าน 10 รอบ และมอบหมายให้ภรรยาสอนร้องเพลงให้ได้ใน 2 วัน เนื่องจากเขาต้องไปทำธุระที่หัวหินกับลูกสาว โดยออกเดินทางในช่วงเช้ามืด วันที่ 17 สิงหาคม
4. พลทหารฯ ตั้งใจสำเร็จความใคร่ให้ภรรยาของเขาเห็น โดยเมื่อช่วงเช้าวันที่ 18 สิงหาคม ภรรยาเล่าว่า พลทหารฯ ได้ยืนสำเร็จความใคร่อยู่ใต้ต้นมะรุม ซึ่งสามารถมองลงมาจากห้องนอนของภรรยาและลูกสาวที่อยู่ชั้น 2 ขณะนั้นภรรยาเขากำลังแต่งตัวอยู่ในห้องนอน ภรรยาตะโกนถามว่าทำอะไร พลทหารฯ บอกว่า กำลังปัสสาวะ ทั้งที่ห้องน้ำอยู่ห่างจากตรงนั้นไม่ถึง 10 เมตร ภรรยาเขาจึงบอกว่า รู้ว่าทำอะไรและคิดอะไรอยู่ ขืนทำตัวแบบนี้กลับไปศูนย์ฝึกฯ ติดคุกแน่
5. เวลาที่หลบหนี หลังจากเหตุข้างต้น ภรรยาของเขาได้ออกไปทำงานเมื่อเวลา 10.30 น. ทิ้งให้พลทหารฯ เฝ้าบ้านเพียงคนเดียวและกลับมาในตอนเย็น จึงเห็นว่าพลทหารฯ ไม่อยู่บ้านแล้ว สอบถามไปยังพ่อ แม่ และภรรยาอีกฝ่าย ตามเบอร์ที่ให้ไว้ ก็ได้คำตอบว่า ยังไม่เจอตัวพลทหารฯ จากนั้นในวันที่ 18 สิงหาคม ภรรยาเขาได้โทร. แจ้งมาที่หัวหินถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เขาบอกไปว่า มันคงกลัวติดคุก เลยหนีไป เมื่อเขากลับมาถึงบ้านในช่วงดึกของวันเดียวกัน ตรวจสอบพบว่าอุปกรณ์เครื่องขัดอเนกประสงค์และเครื่องมือบางส่วนได้หายไปจากห้องเก็บของ และทราบข่าวว่าพลทหารฯ ได้ไปร้องเรียนดังกล่าว เขาและภรรยาก็ได้ไปแจ้งความที่ สภ.โพธิ์แก้ว ในข้อหาลักทรัพย์ ทั้งนี้ พลเรือโท ได้ชี้ถึงข้อสังเกตว่า เขาไม่เคยใช้ให้พลทหารฯ ทำงานช่างไม้ เพราะทราบดีว่าอีกฝ่ายทำอะไรไม่เป็น แต่ที่ให้มาช่วยงานที่บ้าน เพราะเป็นการร้องขอของอีกฝ่ายเอง ที่อยากหารายได้พิเศษช่วยเหลือครอบครัว จึงคิดว่าเป็นการช่วยเหลือกัน ทั้งที่เขาสามารถจ้างคนอื่นก็ได้ สำหรับเรื่องโซ่ที่คล้องเอวพลทหารฯ อยู่นั้น ที่บ้านเขาไม่มีโซ่แบบนี้ มีแต่โซ่ล่ามสุนัข แต่โซ่นี้สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายวัสดุก่อสร้างทั่วไป หน้าปากซอยบ้านเขาก็มีอยู่ 3 ร้าน การเอาโซ่มาคล้องเอวตัวเองแล้วล็อกด้วยกุญแจก็ไม่ใช่เรื่องยาก
ส่วนเสื้อยืดแขนยาวสีชมพูที่พลทหารใส่ มีอยู่ตัวเดียว เมื่อช่วงเย็นวันที่ 17 สิงหาคม ก็ยังสะอาดเรียบร้อยดีอยู่ แต่ทำไมวันรุ่งขึ้น 18 สิงหาคม ขณะไปร้องเรียน เสื้อถึงได้สกปรก มอมแมม หากเขาล่ามโซ่ ทำทารุณกรรมจริง ที่บ้านเขาก็มีเครื่องมือตัดเหล็กที่สามารถตัดโซ่และกุญแจขนาดใหญ่ได้ สามารถตัดออกได้ในเวลาไม่นาน มีความจำเป็นอะไรที่ต้องลากโซ่และยางรถยนต์ไปตามที่ต่าง ๆ เพื่อประจานกองทัพเรือ อีกทั้งวัน เวลา ที่พลทหารฯ กล่าวหาว่าถูกกระทำ ล่ามโซ่ และทารุณกรรมนั้น เขาไม่ได้อยู่ที่บ้าน แต่อยู่ที่หัวหิน
ภาพจาก
ครอบครัวข่าว 3 อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

