
สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี พร้อมพวกขึ้นศาลฎีกานักการเมือง สู้คดีแปลงสัญญาสัมปทานดาวเทียม เอื้อประโยชน์ บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น ศาลนัดตรวจหลักฐาน 25 ธันวาคมนี้
วันที่ 13 พฤศจิกายน 2558 ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวน พร้อมองค์คณะรวม 9 คนได้ขึ้นบัลลังก์เพื่อพิจารณาคดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี หรือ หมอเลี๊ยบ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ (ไอซีที) สมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร, นายไกรสร พรสุธี อดีตปลัดกระทรวงไอซีที สมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร และนายไชยยันต์ พึ่งเกียรติไพโรจน์ อดีตผู้อำนวยการสำนักกิจการอวกาศแห่งชาติ และอดีตปลัดกระทรวงไอซีที ยุครัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นจำเลยที่ 1 3 ในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต กรณีที่มีการอนุมัติแก้ไขสัญญาสัมปทานโครงการดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศ (ฉบับที่ 5) เพื่อลดสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่ต้องถือในบริษัท ชินแซทเทลไลท์ จำกัด (มหาชน) จากไม่น้อยกว่า 51% เป็นไม่น้อยกว่า 40% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด โดยทราบดีอยู่แล้วว่า เหตุที่บริษัทขอลดสัดส่วนการถือหุ้น เพื่อต้องการหาพันธมิตรขยายศักยภาพในการแข่งขันให้มีความเข้มแข็งและมีเงินทุนเพียงพอในการดำเนินการโครงการดาวเทียมไอพีสตาร์
อย่างไรก็ตาม จำเลยทั้งสามคนให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา ซึ่งศาลได้กำหนดนัดตรวจหลักฐานคดี ในวันที่ 25 ธันวาคมนี้ เวลา 09.30 น.
ภายหลัง นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ตนให้การต่อศาลแล้ว จะยื่นคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษรอีก ซึ่งศาลกำหนดให้ยื่นภายใน 30 วัน นับจากวันนี้ โดยตนได้ประกันตัวซึ่งศาลมีเงื่อนไขเหมือนคดีที่ผ่านมา ที่ห้ามออกนอกประเทศ หลังจากนี้เตรียมตรวจหลักฐานเพื่อสู้คดี
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีดังกล่าว สืบเนื่องมาจาก ป.ป.ช. ได้ยื่นฟ้องจำเลยทั้ง 3 โดยระบุพฤติการณ์บางส่วนดังนี้ นพ.สุรพงษ์ ได้อนุมัติให้แก้สัญญาตามที่นายไกรสร เสนอ และมีการลงนามสัญญาแก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 5 เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2547 โดยไม่เสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มี นายทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรี ขณะนั้นให้ความเห็นชอบ ทั้งที่จำเลยทราบแล้วว่า อัยการสูงสุดมีข้อสังเกตว่าเดิมโครงการ ได้รับอนุมัติจาก ครม. เป็นโครงการของประเทศ ควรที่กระทรวงไอซีที ต้องนำเสนอ ครม. พิจารณา การกระทำของจำเลยทั้งสาม ที่มีหน้าที่ดูแลรักษาผลประโยชน์รัฐ จึงเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายกับ สำนักกิจการอวกาศแห่งชาติ กระทรวงไอซีที เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ผู้รับสัมปทานจากรัฐ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก







