ฉงน วาฬ 337 ตัวเกยตื้นตายที่ชิลี เชื่อเป็นการตายหมู่ครั้งใหญ่สุดของวาฬ



ฉงน วาฬ 337 ตัวเกยตื้นตายที่ชิลี

            นักวิทยาศาสตร์พบซากวาฬเซ 337 ตัว เกยหาดตายที่ชิลี เชื่อเป็นเหตุการณ์วาฬเกยตื้นตายหมู่ครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยบันทึก ด้านสาเหตุการตายยังไม่ทราบแน่ชัด
 
            เว็บไซต์ ibtimes  รายงานในวันที่ 23 พฤศจิกายน 2558 ว่า การเกยตื้นตายหมู่ของกลุ่มวาฬ 337 ตัว ซึ่งแบ่งเป็นซากวาฬ 305 ซากและโครงกระดูกอีก 32 โครง ถูกค้นพบเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาโดยกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ชาวชิลี จากมหาวิทยาลัย Universidad de Chile and Consejo de Monumentos Nacionales ระหว่างทำการสำรวจทางอากาศพื้นที่ทางตอนใต้ของประเทศ จนพบกลุ่มซากวาฬเกยหาดตายเป็นจำนวนมากในพื้นที่นอกฝั่งแคว้นปาตาโกเนีย ในบริเวณระหว่างอ่าวเปนาสและเมืองเปอร์โต นาตาเลส

            ด้านข้อมูลจาก ABC News รายงานว่า กลุ่มซากวาฬ 37 ตัวแรกถูกพบก่อนในเดือนเมษายน 2557 โดยทีมสำรวจของ เรนนิ ฮอสเซอร์แมน นักชีววิทยา และนำมาซึ่งการสำรวจร่วมกับนักวิทยาศาสตร์ชิลีครั้งต่อมาในเดือนมิถุนายนและสิงหาคม

            แคโรไลนา ไซมอน กุทสไตน์ ผู้นำกลุ่มวิจัย เชื่อว่าวาฬทั้งหมดนี้น่าจะเป็นวาฬเซ (Sei whale) อยู่ในตระกูลเดียวกับวาฬบาลีนหรือวาฬกรองกิน ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่กำลังเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ด้วย เธอเชื่อว่าพวกมันไม่ได้ตายจากการเกยหาด แต่ตายแล้วตั้งแต่อยู่ในทะเล แต่อย่างไรก็ตามยังไม่สามารถสรุปสาเหตุที่แน่ชัดได้ เนื่องจากพื้นที่ซึ่งพบซากวาฬมีคลื่นลมแรง เป็นอุปสรรคต่อการลงจอดของเฮลิคอปเตอร์ ทำให้ยังไม่สามารถชันสูตรซากหรือลงไปศึกษาอย่างใกล้ชิดได้

            ทั้งนี้ วาฬเซ เมื่อโตเต็มที่มีขนาดได้ถึง 20 เมตร น้ำหนักกว่า 28 ตัน ปกติอาศัยในน้ำลึก และจะอพยพจากความหนาวเย็นเข้ามายังเขตที่มีน้ำอบอุ่นกว่าในหน้าหนาว


            เดวิด ลุสโซ ศาสตราจารย์อาวุโสจากด้านชีววิทยาทางทะเลจากมหาวิทยาลัยแอเบอร์ดีน ของสกอตแลนด์ กล่าวว่า นี่เป็นการเกยตื้นตายหมู่ของวาฬครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยพบเห็นมา จำนวนวาฬที่เสียชีวิตอาจยังมีมากกว่านี้ แต่ไม่ถูกพัดเข้าฝั่ง มันน่าจะเผชิญปัญหาอะไรสักอย่างในแหล่งน้ำนอกฝั่ง แล้วจึงถูกพัดเข้ามาเกยหาด นอกจากนี้แล้ว วาฬเซไม่มีพฤติกรรมการรวมหมู่กันใกล้หาดด้วยเหตุผลทางสังคม การตายหมู่ของพวกมันครั้งนี้จึงน่าจะเกิดจากเผชิญสภาพปัญหาอะไรบางอย่าง

            ศาสตราจารย์ลุสโซยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า มหาสมุทรแปซิฟิกในบริเวณดังกล่าวมีอากาศอุ่นมากกว่าปีอื่น ๆ และในเดือนมิถุนายน ก็นับว่าเป็นฤดูหนาวของทางซีกโลกใต้ การที่วาฬกลุ่มนี้ยังคงอยู่ทางตอนใต้ทั้งที่ควรจะอพยพมาหาพื้นที่ที่อุ่นกว่าจึงเป็นเรื่องผิดปกติ นี่น่าจะเป็นปัญหาด้านสภาพภูมิอากาศ ที่ส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อชีวิตสัตว์น้ำ

            ทั้งนี้ กรณีการเกยหาดตายหมู่เป็นจำนวนมากของวาฬเคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อระหว่างปี 2542-2544 วาฬสีเทาราว 600 ตัว เกยหาดตายที่แนวชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกในภูมิภาคอเมริกาเหนือ ตั้งแต่อะแลสกาลงมาจนถึงเม็กซิโก แต่เป็นเป็นเหตุการณ์ที่เกิดในช่วงระยะเวลาค่อนข้างนานและกินพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง ต่างจากเหตุการณ์ล่าสุดนี้

            ในตอนนี้กลุ่มนักวิทยาศาสตร์กำลังวางแผนที่จะลงสำรวจพื้นที่ดังกล่าว เพื่อพิสูจน์หาสาเหตุการตายของหมู่วาฬ แต่อาจไม่ใช่งานง่ายนัก เพราะนอกจากปัญหาเรื่องสภาพพื้นที่ไม่เอื้ออำนวยแล้ว ยังไม่มีซากที่เพิ่งตายใหม่ ๆ ให้ศึกษาด้วย

ภาพจาก  CAROLINA SIMON GUTSTEIN / wordpress
VRENI HAUSSERMANN / HUINAY SCIENTIFIC FIELD STATION / AFP

เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ฉงน วาฬ 337 ตัวเกยตื้นตายที่ชิลี เชื่อเป็นการตายหมู่ครั้งใหญ่สุดของวาฬ อัปเดตล่าสุด 3 ธันวาคม 2558 เวลา 13:24:17 20,478 อ่าน
TOP
x close