อดีตสามีของนางลี บู-จิน ลูกสาวประธานบริษัทซัมซุง กรุ๊ป ฟ้องเรียกร้องแบ่งสินสมรสหลังหย่าขาดจากกันมูลค่าสูงที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในเกาหลีใต้ กว่า 2.4 หมื่นล้านบาท
เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2559 สำนักข่าวโชซัน ของเกาหลีใต้ รายงานข่าวความรักที่จบไม่สวยระหว่างนางลี บู-จิน (Lee Boo-jin) วัย 46 ปี ผู้บริหารโรงแรมเครือชิลลาและบุตรสาวคนโตของนายลี คุน-ฮี ท่านประธานแห่งซัมซุง กรุ๊ป หรือเรียกง่าย ๆ ว่าลูกสาวมหาเศรษฐีแห่งเกาหลี กับ นายอิม อู-แจ (Im Woo-jae) อายุ 48 ปี อดีตสามีซึ่งปัจจุบันตำรงตำแหน่งที่ปรึกษาบริษัท ซัมซุง อิเล็คโทร-แม็คคานิคส์ โดยรายงานอ้างอิงแหล่งข่าวด้านกฎหมายเผยว่า นายอิมได้ยื่นเรื่องต่อศาลครอบครัวกรุงโซลเมื่อวันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา ฟ้องร้องเรียกการแบ่งสินสมรสจากทายาทประธานซัมซุง เป็นเงินถึง 1.2 ล้านล้านวอน หรือประมาณ 2.4 หมื่นล้านบาท นับเป็นการฟ้องแบ่งสมบัติหลังหย่าที่มีมูลค่าสูงลิบลิ่วที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในเกาหลีใต้
กระทั่งเมื่อวันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา นายอิมได้ยื่นฟ้องแบ่งสมบัติสินสมรสมูลค่า 2.4 หมื่นล้าน อันนับเป็นมูลค่าครึ่งหนึ่งของทรัพย์สินที่อดีตภรรยาถือครอง ตามการประเมินจากทนายของตนเอง โดยนายอิมระบุว่ามันเป็นทรัพย์สินที่ตนพึงได้ แม้ว่าก่อนหน้านี้นายอิมจะยืนยันว่าตนไม่เคยมีความต้องการหย่าและไม่หวังทรัพย์สินใด ๆ ของนางลีเลยก็ตาม
ทั้งนี้ เกาหลีใต้เพิ่งประกาศใช้ข้อบังคับใหม่ในการฟ้องแบ่งสินสมรสเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา จากเดิมที่คิดค่าธรรมเนียมคงที่ 10,000 วอน ได้เปลี่ยนเป็นค่าธรรมเนียมคิดตามสัดส่วนมูลค่าทรัพย์สินที่ต้องการฟ้อง ซึ่งหมายความว่านายอิมจะต้องเสียค่าธรรมเนียนดำเนินการ 2.1 พันล้านวอน หากเขายื่นเรื่องฟ้องช้ากว่าเดิมเพียงไม่กี่วัน
แต่อย่างไรก็ตาม แม้จะยื่นเรื่องฟ้องร้องเรียกแบ่งสินสมรสเป็นเงินมหาศาล ก็ไม่ได้หมายความว่านายอิมจะได้เงินเต็มจำนวนตามที่เรียกร้องไป ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ว่าจำนวนเงินที่สูงถึง 2.4 หมื่นล้านบาทนี้อาจเพื่อเป็นฐานในการต่อรองกับอดีตภรรยาเท่านั้น
ขณะที่ทางเว็บไซต์ Korea Bizwire วิเคราะห์ว่า เป็นไปได้ว่าทางฝ่ายนางลี อาจอ้างว่าทรัพย์สินที่เธอมี ณ ปัจจุบัน เป็นความมั่งคั่งที่เธอมีมาตั้งแต่ก่อนสมรสกับนายอิม แต่กระนั้น การแต่งงานอยู่กินร่วมกันมานานกว่า 10 ปี ก็เป็นที่ปฏิเสธไม่ได้ว่านายอิมย่อมมีส่วนการหาและได้มาซึ่งสินทรัพย์ที่ เกิดขึ้นระหว่างแต่งงาน โดยคาดว่าอย่างน้อยที่สุด นายอิมน่าจะได้ไม่ต่ำกว่า 10 เปอร์เซ็นต์จากมูลค่าที่ฟ้องไป
นอกจากนี้ก็เป็นที่เชื่อว่า แม้ว่านางลีอาจไม่ปรารถนาที่จะเปิดเผยแจกแจงรายละเอียดสินทรัพย์ที่ตนครอบครอง แต่อย่างไรก็ตามรายละเอียดทุกอย่างจะต้องถูกนำเปิดเผยต่อศาล และก็จะเป็นที่ทราบถึงประชาชนในเวลาต่อมา ว่าลูกสาวตระกูลมหาเศรษฐีเบอร์ต้น ๆ ของเกาหลีใต้นั้นมั่งคั่งร่ำรวยเพียงใด
สำหรับเรื่องราวความรัก ของ ลี บู-จิน และ อิม อู-แจ ทั้งคู่พบกันจากการทำงานอาสาสมัครของ Samsung Foundation เมื่อปี 1995 ซึ่งขณะนั้นนายอิมเป็นเพียงพนักงานธรรมดาของ Samsung C&T Corporation ทั้งคู่ตกลงปลงใจแต่งงานกันในเวลาต่อมา แม้จะมีเสียงไม่เห็นด้วยจากครอบครัว โดยนางลี บู-จิน เป็นทายาทเครือซัมซุงคนแรก ที่แต่งงานกับคนที่ไม่ได้มาจากกลุ่มตระกูลแชโบล หรือกลุ่มครอบครัวเจ้าของเหล่าบริษัทยักษ์ใหญ่ต่าง ๆ ในเกาหลี
อย่างไรก็ตาม หลังเรื่องฟ้องร้องกันเป็นข่าวขึ้น ตามรายงานจาก Straits Times เผยว่า นายอิมได้ออกมาเปิดใจบอกเล่าเรื่องราวที่ซุกซ่อนไว้ว่า ที่จริงเขาไม่ได้เป็นพนักงานบริษัทแต่อย่างใด แต่ทำหน้าที่เป็นบอดี้การ์ดให้ท่านประธานลี คุน-ฮี ต่างหาก และยังกล่าวว่า หลังแต่งงานเขาถูกส่งให้ไปเรียนต่อที่สหรัฐอเมริกา ทั้ง ๆ ที่ไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ และเมื่อเรียนจบกลับมา จึงได้รับตำแหน่งเป็นรองประธานบริษัท Samsung Electro-Mechanics ความกดดันที่ต้องเผชิญหลังเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในตระกูลลี ทำให้เขาเคยคิดฆ่าตัวตายมาแล้วถึง 2 ครั้ง