
สื่อบันเทิงขั้นเทพสำหรับครัวเรือนอย่างเครื่องเล่นวิดีโอเทปเดินมาถึงกาลอวสานแล้ว เมื่อบริษัทผู้ผลิตเจ้าสุดท้ายตัดสินใจทำสินค้าล็อตสั่งลาในเดือนนี้ หลังยอดขายตกต่ำสุดขีด
เชื่อว่าหลาย ๆ คนที่เกิดในยุค 80 เป็นต้นมา คงจะเติบโตขึ้นมาด้วยความคุ้นเคยกับวีดีโอเทปและเครื่องเล่นวิดีโอเทป ที่หากใครมีครอบครองละก็ เปรียบได้เหมือนมีสื่อบันเทิงขั้นเทพประจำบ้านกันเลยทีเดียว แต่ทุกสิ่งที่รุ่งโรจน์ได้ก็ย่อมมีวันเสื่อมถอยลงเช่นกัน ตอนนี้เครื่องเล่นวิดีโอเทป หรือ VRC (videocassette recorders) ได้เดินทางมาถึงจุดอวสานเสียแล้ว เมื่อ ฟุนาอิ อิเล็กทริกส์ บริษัทญี่ปุ่นซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องเล่นวิดีโอเทปเจ้าสุดท้ายที่เหลืออยู่ ประกาศจะผลิต VRC เป็นล็อตสุดท้ายแล้วในเดือนกรกฎาคมนี้ ตามรายงานจากเว็บไซต์ฟอร์บส์ เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2559

การตัดสินใจของบริษัท ฟุนาอิ อิเล็กทริกส์ ซึ่งมีโรงงานในจีนเพื่อผลิตให้กับบริษัท ซันโย เกิดขึ้นหลังยอดขายปีที่ผ่านมาตกต่ำถึงขีดสุด ขายได้เพียง 750,000 เครื่อง จากยอดขายที่เคยทำได้ทะลุทะลวงถึง 15 ล้านเครื่องต่อปี โดยยอดขายที่ส่งผลถึงจำนวนการผลิตที่ลดต่ำลงเรื่อย ๆ ทุกปี ก็ทำให้ต้นทุนในการผลิตแต่ละชิ้นส่วนเพิ่มขึ้นด้วย นำมาซึ่งการตัดสินใจเด็ดขาด ปิดตำนานการผลิตเครื่องเล่นวิดีโอเทป
ต้นกำเนิดวิดีโอเทปสู่จุดจบเครื่องเล่นวิดีโอ
การถือกำเนิดของวิดีโอเทประบบ VHS (Video Home System) ของ JVC ที่ผลิตออกมาเมื่อปี 1977 ทำให้เกิดสงครามแย่งชิงตลาดกับวิดีโอเทประบบ Betamax ของ Sony ที่ผลิตออกมาก่อนแล้วตั้งแต่ปี 1975 ซึ่งในที่สุด สงครามครั้งนี้จบลงด้วยชัยชนะอย่างท่วมท้มของ VHS ที่จับตลาดสื่อลามกได้อยู่หมัด (หนังโป๊นั่นเอง) ขณะที่ Sony ผดุงจริยธรรมหนักแน่น ห้ามผู้ผลิตสื่อบันเทิงผู้ใหญ่ใช้ระบบวิดีโอ Betamax อัดหนังโป๊ขาย และมันกลายเป็นการฆ่าตัวตายในท้ายที่สุด
เพียงในปี 1987 VHS ก็สามารถครองตลาดเครื่องเล่นวิดีโอเทปได้กว่า 90% และทะยานขึ้นเป็นสื่อบันเทิงประจำบ้านยอดฮิตต่อเนื่องเรื่อยมายาวนานร่วม 2 ทศวรรษด้วยกัน

ตัดกลับมาที่ Sony ในปี 1994 ก็ได้คลอดนวัตกรมใหม่อย่างเครื่องเล่น DVD ออกมา แต่กว่าจะมีวางขายในสหรัฐฯ ก็ปาเข้าไปเป็นปี 1997 แถมด้วยปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์จากสตูดิโอภาพยนตร์ต่าง ๆ ตลอดจนราคาเครื่องเล่นที่ยังแสนแพง ทำให้เครื่องเล่นวิดีโอเทปยังคงเป็นระบบความบันเทิงในครัวเรือนที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่งในสหรัฐฯ เรื่อยมาจนเข้าสู่ช่วงต้นยุคมิลเลนเนียมราวกลางปี 2003
หลังจากนั้น สื่อบันเทิงในรูปแบบอื่น ๆ ก็เข้ามาแทรกแซงมีอิทธิพลเหนือว่าวิดีโอเทปอย่างเห็นได้ชัด จนในปี 2006 ได้กลายเป็นปีสั่งลาวิดีโอเทปอย่างเป็นทางการ (สำหรับสหรัฐฯ) เมื่อ A History Of Violence กลายเป็นหนังฮอลลีวูดเรื่องสุดท้ายที่มีการอัดจำหน่ายในรูปแบบวิดีโอ และการล้มหายตายจากไปของตัววิดีโอเทป สุดท้ายแล้วก็นำมาซึ่งกาลอวสานของเครื่องเล่นวิดีโอเทป ที่สิ้นสุดลงในเดือนนี้ด้วยนั่นเอง