จากกรณีวิศวกรชักปืนยิงวัยรุ่นดับที่บริเวณตลาดอ่างศิลา จ.ชลบุรี หลังทะเลาะกันเรื่องจอดรถขวาง-ขับตามประกบ และโดนรุมต่อย โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทั้งนี้ หลังเกิดเรื่องมารดาของผู้ตายนั้นบอกว่าลูกเป็นเด็กดี ไม่ใช่เด็กเกเร และไม่เข้าใจว่ามาเที่ยวพร้อมกับลูก เมีย แม่ ทำไมต้องพกปืนมาด้วย ตามที่สื่อได้นำเสนอไปก่อนหน้านี้นั้น
เหตุการณ์นี้ มีรถทั้งหมด 3 คัน คือ รถของวิศวะ รถตู้ของกลุ่มเด็ก และ รถวีออส (ไฟสีฟ้า) ของกลุ่มเด็ก
7.38 ในภาพ รถของวิศวะ ปาดรถเก๋งวีออส ไฟสีฟ้า ของกลุ่มผู้ตายก่อนจริง ๆ
- ฝ่ายวิศวะ อ้างว่า เป็นจุดปลอดภัย แต่ถ้าดูองศาการหักพวงมาลัย เขาหักเข้ามาเกือบ 60 องศาแบบทันทีทันใด ต่อให้เปิดไฟซ้าย แต่การหักเข้าแบบนี้ ก็ไม่น่าจะเรียกว่า จอด แต่น่าจะเรียกว่า ปาด มากกว่า หรือ ถ้าจะจอดจริง ทำไมไม่ชะลอแล้วเข้าซ้ายรอไว้ตั้งแต่แรก วิ่งกลางมาแล้วอยู่ดี ๆ ก็ตัดเลนซ้ายกระทันหันเพื่อเข้าจอด และลักษณะการจอด ก็ไม่ได้จอดชิดขอบทาง แต่เป็นการจอดตะแคงเพื่อขวางรถคู่กรณีไว้
7.44 รถของวิศวะ จอดขวางรถเก๋งวีออสไว้ระยะประชิด
7.49 รถตู้ของกลุ่มเด็กเห็นเหตุการณ์ ว่ารถเพื่อนอีกคันโดนปาดขวางอยู่ ก็เลยหักมาจอดด้านหน้าอีกที
- ระยะจอดของรถวิศวะ กับรถตู้ ห่างกันพอสมควร รถวิศวะสามารถขับออกมาได้แต่ก็ไม่ทำต่างกับของคันหลังที่โดนขวางไว้ชัดเจน
7.53 น่าจะเป็นแม่ของวิศวะ เปิดประตูลงมาเอง ไม่ได้ถูกลากออกจากรถ ย้ำว่า เดินลงมาเองไม่ได้ถูกลากลงมา
7.56 คนตายเดินไปถึงตัวแม่
ช่วง 7.56-7.59 ให้ลดความเร็วภาพลงเหลือแค่ 0.25 เพื่อดูภาพช้า ๆ เหตุการณ์ช่วงนี้จะเร็วมาก โดยเฉพาะช่วง 7.58 จับตาดูดี ๆ แล้วจะตกใจเพราะฝ่ายที่ถูกกระชากเข้าไปหา คือ ฝ่ายเด็ก จากในคลิปหลักฐานคุณแม่ กระชาก เด็กจริง ๆ ทั้งการตั้งท่าของฝ่ายเด็กที่เป็นการงอตัว และ การเคลื่อนที่ค่อนข้างชัดเจนว่า ฝ่ายเด็กเป็นฝ่ายถูกกระชากเข้าไปหาฝ่ายแม่จริง
- หลาย ๆ ความเห็นในเว็บต่าง ๆ ส่วนใหญ่จะบอกว่าเด็กโกหก คนแก่จะทำอย่างนั้นได้ไง แต่จากภาพถ้าค่อย ๆ ดูก็จะเห็นว่าเกิดอะไร
8.00 ผู้ตาย ไม่ได้สนใจจะมีเรื่องกับแม่เลย แต่เขาวิ่งไปอีกฝั่ง เพื่อจะเคลียร์กับคนขับ
- จะอ้างว่าปกป้อง แม่กับเมีย ก็คงพูดได้ไม่เต็มปาก เพราะเห็นอยู่ชัด ๆ ว่า ขนาดแม่โดนกระชาก เขายังไม่สนใจแม่เลย จะคุยกับคนขับอย่างเดียว
8.02 แม่เดินตามไปดูเด็กที่เดินไปอีกฝั่งนึง
8.05 กลุ่มผู้ตาย พยายามเปิดประตูรถฝั่งคนขับ (กลุ่มเด็ก เริ่มจับประตูรถฝั่งคนขับ ณ วินาทีนี้)
8.06 ประตูล็อคเปิดไม่ออก
8.08 สังเกตุดี ๆ จะเหมือนว่า กลุ่มผู้ตายเดินไปเปิดประตูหลัง และน่าจะเป็นจังหวะเดียวกับที่ ยิงผู้ตาย ช่วง 8.09-8.11 น่าจะเป็นช่วงที่ผู้ตายโดนยิง
สรุปคือ กลุ่มผู้ตายเริ่มแตะประตูคนขับ ตอน 8.05 และยังไม่ทันจะเปิดประตูฝั่งคนขับได้ แต่ผู้ตายโดนยิงตอน 8.10 ฝั่งวิศวะใช้เวลาทั้งสิ้น 5 วินาที ในการตัดสินใจยิงผู้ตายที่ไม่มีอาวุธ โดยที่ ณ ตอนนั้น น่าจะยังไม่มีใครแตะต้องตัวเขาเลย หรือ กรณีเลวร้ายที่สุด ในเวลา 1-2 วินาทีที่เห็น ก็น่าจะแค่ยื้อกันอยู่ในรถ
ช่วง 8.10 ให้จำภาพมอเตอร์ไซค์บริเวณด้านล่างที่เหมือนกำลังจะขับย้อนศร เพื่อเปรียบเทียบเวลากับคลิปนี้
0.38 กลุ่มผู้ตาย วิ่งกรูกันไปช่วยผู้ตาย
0.43 ผู้ตายล้มลงเป็นครั้งที่ 2
0.45 จากภาพ ไม่มีกลุ่มของผู้ตายอยู่ที่รถคันที่ยิงเลยแม้แต่คนเดียว มีแต่ประตูหลังที่เปิดอยู่
ลองนับเวลาดูดี ๆ ครับ แล้วลองถามใจตัวเองดูครับ การตัดสินใจ ยิงปืนใส่คน ๆ หนึ่ง มันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ ถ้าเป็นคุณ คุณจะใช้เวลาทำใจขนาดไหนก่อนที่จะเหนี่ยวไก และจากคลิป จริง ๆ แล้วใครเป็นฝ่ายเริ่มก่อน นี่คือ การป้องกันตัว หรือ แค่ขาดสติ ?
ส่วนเหตุการณ์ก่อนหน้าที่บอกว่า ฝ่ายเด็กบีบแตรไล่ หรือ ฝ่ายวิศวะตำเบรคเพื่อให้อีกฝ่ายชน ผมมองว่า เกิดขึ้นได้ทั้ง 2 กรณี และมีโอกาสเกิดมากพอ ๆ กัน อย่าคิดว่าอีกฝ่ายอายุมากแล้ว เขาคงไม่ทำอะไรแบบนี้หรอก อยากจะบอกว่า ผมเคยเจอมาเยอะครับ คนแก่ ๆ ที่อารมณ์ร้อน และ อีโก้สูง ความคิดแทบไม่ต่างจากวัยรุ่นคึกคะนองเลยครับ
จุดเริ่มจริง ๆ ก็คงมาจาก ต่างฝ่ายต่างด่ากันไปมา ตรงจุดที่แวะจอดซื้อของกัน ฝ่ายวิศวะก็คงรู้สึกว่า ตัวเองวัยวุฒิสูงกว่าปล่อยให้เด็กมันด่าสวนแบบนี้ได้ยังไง ปืนก็มีจะกลัวอะไรต้องเอาคืนบ้าง ฝ่ายเด็ก ก็คงคิดเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แค่นี้ พูดกันดี ๆ ก็ได้ ทำไมต้องมาด่ากันแรง ๆ ด้วย ก็กวนคืนไปบ้าง
ผมเชื่อว่า ถ้าเหตุการณ์นี้ ต่างฝ่ายต่างพูดคุยกันดี ๆ ตั้งแต่แรก และ ไม่มีอาวุธ มันจะไม่มีเรื่องมากมายขนาดนี้ครับ
ย้ำอีกครั้งว่า ไม่ได้เข้าข้างฝ่ายไหน เพราะ ดูจากลักษณะแล้ว ต่างฝ่าย ต่างยั่วยุกันไปมาทั้งคู่ แต่ไม่อยากให้สังคมมองว่า การยกปืนยิงใส่ใครสักคน มันต้องมีเหตุที่เหมาะสมจริง ๆ หรือ หลีกเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ
ผมอ่านแล้วรู้สึกขนลุกมาก คนที่พิมพ์เขาคิดแบบนี้จริง ๆ เหรอ เราเข้าสู่ยุคที่ศาลเตี้ย คือ เรื่องธรรมดาไปแล้วใช่ไหม อยากให้ลองถามใจตัวเองดูว่า ทำไมคุณถึงคิดแบบนี้ มันเพราะอีกฝ่ายดูน่าเชื่อถือ และ อีกฝ่ายเป็นเด็ก ดูเป็นอันธพาล หรือเปล่า ลองสมมติกลับกันว่า ถ้าในคลิปที่เห็นคนที่ยิง คือ วัยรุ่น แล้วกลุ่มวัยรุ่น คือ พนักงาน office แต่งตัวเรียบร้อย คุณยังคิดแบบเดิมไหม ?
ถ้าคุณคิดว่าโดนไล่ล่า หรือ โดนรังแกจริง ๆ และ ยังขับหนีได้ อย่าคิดจะใช้อาวุธเลยครับ หรือให้ดีอย่าพกพาอาวุธเลยครับ ทันทีที่คุณพกมัน มันจะทำให้สมองคุณคิดออกอยู่วิธีเดียว คือ คุณสู้ได้ยิงมันซะ โดยไม่คิดถึงวิธีอื่นเลย สถานีตำรวจ โรงพยาบาล หรือแม้แต่สถานีดับเพลิง คุณขอความช่วยเหลือได้ทั้งนั้นครับ อย่าจอดเพราะคิดว่าคุณมีอาวุธ คุณเหนือกว่า คุณสู้ได้ ไม่เห็นต้องกลัว เพราะสุดท้าย มันจะจบด้วยการสูญเสียแน่นอน จากเหตุการณ์นี้ ผมมองว่ามันหลีกเลี่ยงได้ครับ มันอยู่ที่ว่าคุณคิดจะหลีกเลี่ยงมันจริง ๆ หรือเปล่า แค่นั้นเองครับ
อย่างไรก็ดี กระทู้ดังกล่าวได้มีสมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม เข้ามาแสเงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก โดยบอกว่า วิ่งกรูเข้าไปเป็นหมู่แบบนี้ คุณว่าพวกเขาจะเข้าไปเล่นเป่ายิงฉุบเหรอ แล้วจะให้ทำยังไงถ้าครอบครัวคุณเจอเหตุการณ์แบบนี้ ทั้งยังมองว่า ไม่อยู่ในเหตุการณ์ ขอฟังคำสอบสวนจากเจ้าหน้าที่ กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย ไม่ใช่ใช้ความเห็นหรือกระแสสังคมชี้นำ นอกจากนี้ยังมีความเห็นที่ว่า เมื่อได้อ่านกระทู้นี้แล้วรู้สึกว่าเจ้าของกระทู้ก็ไม่ได้มีความเป็นกลางเลย