สาวอ้างเคยร่วมสู้รบกับกลุ่ม ISIS แต่ไม่คาดจะถูกประเทศตัวเองมองเป็นผู้ก่อการร้าย

สาวเดนมาร์ก

สาวเดนมาร์ก

          สาวเดนมาร์ก เผยเคยเป็นสไนเปอร์สังหารกลุ่ม ISIS นับร้อยคน ในการต่อสู้ที่อิรักและซีเรีย แต่ไม่คาดจะถูกประเทศของตัวเองมองเป็นผู้ก่อการร้าย

          วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2560 เว็บไซต์เดลี่เมล มีรายงานถึงเรื่องราวของ โจแอนนา ปาลานิ สาวเดนมาร์ก วัย 23 ปี นักศึกษาด้านกฎหมาย ที่ยอมจะละทิ้งโอกาสในการศึกษาเพื่อไปต่อสู้กับกลุ่ม ISIS ระหว่างการสู้รบในอิรักและซีเรีย โดยเธออ้างว่าได้ทำหน้าที่เป็นสไนเปอร์สังหารกลุ่มนักรบ ISIS ไปแล้วกว่า 100 คน ทั้งยังเคยช่วยปลดปล่อยกลุ่มผู้หญิงและเด็กที่ถูกขังเป็นทาสกาม ให้ได้รับอิสรภาพอีกครั้ง รวมถึงฝึกสอนคนเหล่านั้นให้กลายเป็นนักรบเพื่อต่อสู้กลับด้วย แต่ไม่คาดว่าความพยายามทั้งหมดของเธอจะนำไปสู่ความสูญเสียครั้งใหญ่ที่ต้องเผชิญหลังจากกลับมาประเทศของตัวเอง
          โจแอนนา เผยว่า เธอมีเชื้อสาย อิหร่าน-เคิร์ด พ่อและปู่ของเธอก็เป็นนักรบของกองทัพเพชเมอร์กา เธอเกิดในค่ายผู้ลี้ภัยขององค์การสหประชาชาติ ก่อนจะย้ายมาอยู่ที่เมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ตั้งแต่อายุ 3 ขวบ จนได้สถานะพลเมือง เธอเริ่มเรียนวิธีการยิงปืนตั้งแต่อายุ 9 ขวบ และได้มีโอกาสเข้าร่วมสู้รบเพื่อต่อต้านกลุ่ม ISIS หลายครั้ง

สาวเดนมาร์ก

          จนกระทั่งในเดือนกันยายน 2558 หน่วยสืบราชการลับของเดนมาร์กก็เริ่มให้ความสนใจต่อการทำหน้าที่เป็นทหารของเธอ ก่อนที่จะให้ศาลออกคำสั่งห้ามเธอเดินทางออกนอกประเทศ เพื่อกันเธอไม่ให้เข้าร่วมการสู้รบในพื้นที่อิรักและซีเรียอีก ภายใต้กฎหมายต่อต้านการก่อการร้าย แต่สุดท้ายเธอก็ตัดสินใจฝ่าฝืนคำสั่งห้ามดังกล่าวเพื่อไปร่วมรบกับสหายสงครามที่ซีเรียในเดือนมิถุนายน-ตุลาคม 2559 เพราะเธอไม่สามารถทอดทิ้งกลุ่มผู้หญิงที่เธอฝึกฝนมากับมือได้

          และนั่นทำให้เมื่อเธอเดินทางกลับมายังเดนมาร์ก หน่วยสืบราชการลับของเดนมาร์กก็ได้เข้าจับกุมเธอในวันที่ 7 ธันวาคม จากการฝ่าฝืนคำสั่งห้ามเดินทางดังกล่าว โจแอนนาใช้ชีวิตอยู่ในที่คุมขังนาน 3 สัปดาห์ ก่อนที่ศาลจะสั่งปล่อยตัวเธอในวันที่ 23 ธันวาคม อย่างไรก็ตามนั่นยังไม่ใช่ความอึดอัดใจที่สุดของเธอในตอนนี้ เพราะโจแอนนายังถูกกลุ่ม ISIS ตั้งค่าหัวถึง 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เสี่ยงต่อการถูกลอบฆ่า อาจถูกจับไปล้างสมองเปลี่ยนเป็นกลุ่มหัวรุนแรง หรือแม้แต่ถูกส่งตัวไปเป็นทาสกามแก่กลุ่ม ISIS

          "ฉันยินดีทิ้งชีวิตและอิสระภาพเพื่อหยุด ISIS เพื่อให้ทุกคนในยุโรปได้ปลอดภัย มันเป็นตัวเลือกของฉัน แต่ฉันกลับถูกประเทศของตัวเองมองว่าเป็นผู้ก่อการร้าย" โจแอนนา กล่าว
          เธอเผยว่าแม้ตัวเองจะอยู่ในประเทศที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก แต่เธอยังต้องทนหิว ไร้ที่อาศัย ต้องทนต่อความหนาวเหน็บยามค่ำคืน สูญเสียเกือบทุกอย่างแม้แต่ครอบครัว ต้องดิ้นรนทำงานหาเงิน และยังไม่สามารถไว้วางใจใครได้อีก นอกจากนี้เธอยังต้องหลบซ่อนตัวและย้ายที่อยู่ทุก ๆ 3 วัน

          แม้ทางหน่วยราชการลับจะให้ข้อเสนอที่จะปกป้องเธอ หลังจากถูกตั้งค่าหัว แต่เธอไม่ไว้ใจพวกเขาอีกแล้ว แถมโจแอนนายังบอกด้วยว่าคนเหล่านี้พยายามใช้เธอเป็นเคสตัวอย่างในชั้นศาล และบอกกับสาธารณชนว่าเธอเป็นผู้ก่อการร้ายเหมือน ISIS แต่แม้ว่าจะถูกคุกคามจากหลายทาง เธอก็ยังไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ และจะเดินหน้าต่อไป ในขณะที่กรณีของเธอกลายมาเป็นที่สนใจของสื่อในวงกว้าง

          "ฉันเสียใจที่ละเมิดกฎหมาย ฉันไม่มีทางเลือกในตอนนั้น แต่คนที่ฉันยอมเสี่ยงชีวิตปกป้อง กลับย้อนมายึดอิสรภาพของฉันไป ฉันไม่คาดว่าจะสูญเสีญเกือบทุกอย่างไปในการต่อสู้เพื่ออิสรภาพและความปลอดภัยของเรา" โจแอนนา กล่าว

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Joanna Palani
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สาวอ้างเคยร่วมสู้รบกับกลุ่ม ISIS แต่ไม่คาดจะถูกประเทศตัวเองมองเป็นผู้ก่อการร้าย อัปเดตล่าสุด 9 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา 11:43:34 8,434 อ่าน
TOP
x close