
วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2560 ศาลอาญา รัชดา ได้นัดตรวจพยานหลักฐาน 2 คดี คือ คดีแรก นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น กับพวก รวม 3 คน ในความผิดฐานสมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงินสหกรณ์ยูเนี่ยนคลองจั่น และคดีสอง นายศุภชัย ศรีศุภอักษร กับ พระเทพญาณมหามุนี หรือ พระธัมมชโย พร้อมพวก รวม 11 คน ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน กว่า 1.1 หมื่นล้านบาท โดยมิได้มีการกู้ยืมเงินกันจริงและร่วมกันทำบันทึกรายการทางการเงินอันเป็นเท็จ

ทั้งนี้เมื่อถึงเวลานัด เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้เบิกตัว นายศุภชัย จำเลยที่ 1 มาเรือนจำบางขวาง พร้อมกับพวกอีก 3 คน รวมทั้งจำเลยอื่นที่ได้รับการประกันตัวมาที่ศาลเช่นกัน โดยอัยการได้แถลงต่อศาล ว่า อัยการสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาบางราย ในคดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และขณะนี้เอกสารสำนวนทั้งหมดได้ส่งไปให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พิจารณาว่าจะมีความเห็นชอบหรือเห็นแย้ง จึงไม่มีเอกสารสำนวนมายื่นต่อศาลให้ตรวจพยานหลักฐาน รวมถึงคดีสมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงินสหกรณ์ยูเนี่ยนคลองจั่น ยังต้องรอเอกสารสำนวนจากคดีร่วมกันฉ้อโกงก่อน จึงขอศาลเลื่อนตรวจสอบพยานหลักฐานอีกครั้ง เป็นวันที่ 1 พฤษภาคม 2560 เวลา 09.00 น. และอนุญาตให้รวมคดีทั้งสองสำนวนเข้าด้วยกัน

ภายหลัง นายวันชัย บุนนาค ทนายความนายศุภชัย กล่าวถึงกรณีที่นายศุภชัย จะนำเงินมาชดใช้เป็นค่าเสียหายให้กับสหกรณ์ ว่า ในวันที่ 21 มีนาคมนี้ ศาลอาญาจะนัดคู่กรณีเพื่อสอบถามรายละเอียดดังกล่าว เพื่อจะเสนอให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาต่อไปว่าจะมีคำสั่งอย่างไร โดยการเสนอชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 34,752,150 บาท โดยเป็นเงินที่รวมกับดอกเบี้ยของเงินต้น 27 ล้านบาท ซึ่งเป็นความประสงค์ของนายศุภชัยเองที่เมื่อมีเงินแล้วจะนำมาชดใช้เพื่อเยียวยาสมาชิกสหกรณ์ และความผิดยักยอกทรัพย์นี้ถือเป็นความผิดอันยอมความกันได้ หากผู้เสียหายไม่ติดใจ แต่จะยังไม่มีการปล่อยตัวนายศุภชัย เนื่องจากยังมีคดีความอื่นอยู่และจะไม่ส่งผลต่อคดีอาญาอื่น รวมถึงคดีฟอกเงินอีก 9 สำนวน ซึ่งทางดีเอสไอส่งให้อัยการพิจารณา 3 สำนวน โดยอัยการได้ยื่นฟ้องมาแล้ว 1 สำนวน
ภาพจาก ทวิตเตอร์ @newsthaich8
ข้อมูลจาก สำนักข่าว INN
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
