x close

ชาวเลราไวย์ รวมตัวนั่งล้อมบ้านต้านเจ้าหน้าที่เข้ารื้อถอน รับแพ้คดีแต่ไม่มีที่ไป

ชาวเลราไวย์ รวมตัวนั่งล้อมบ้านต้านเจ้าหน้าที่เข้ารื้อถอน รับแพ้คดีแต่ไม่มีที่ไป

ชาวเลราไวย์ รวมตัวนั่งล้อมบ้านต้านเจ้าหน้าที่เข้ารื้อถอน รับแพ้คดีแต่ไม่มีที่ไป

          กลุ่มชาวเลราไวย์ถือพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวง ร.9 ล้อมบ้าน 2 หลัง กันไม่ให้เจ้าหน้าที่รื้อถอน วอนไม่ย้ายเพราะไม่มีที่ไป ด้านเจ้าของที่ยันไม่ใช่กลุ่มนายทุน

          เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2560 กลุ่มชาวเลราไวย์ทั้งชายหญิง และเด็ก ๆ จำนวนกว่า 200 คน ได้มานั่งล้อมบริเวณบ้านเลขที่ 123/5 และ 131 ซอยมุขดี หมู่ที่ 2 ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นบ้านของนายมะเหร็น บางจาก และนายอานัน บางจาก เพื่อป้องกันไม่ให้มีการรื้อถอนจากเจ้าหน้าที่บังคับคดีจังหวัดภูเก็ต หลังศาลมีคำพิพากษาให้ออกจากที่ดินดังกล่าว ตามคำพิพากษาลงวันที่ 30 ธันวาคม 2558
ชาวเลราไวย์ รวมตัวนั่งล้อมบ้านต้านเจ้าหน้าที่เข้ารื้อถอน รับแพ้คดีแต่ไม่มีที่ไป

          เวลาต่อมา เจ้าหน้าที่บังคับคดี สำนักงานบังคับคดีจังหวัดภูเก็ต ได้นำเอกสารบังคับคดีมาเพื่อชี้แจงกับทางชาวเลผู้เป็นเจ้าของบ้านทราบ แต่ปรากฏว่าทั้งสองคนไม่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าว นอกจากนี้ก็ไม่สามารถดำเนินการรื้อถอนได้ เพราะเกรงจะเกิดกระทบกระทั่งกับกลุ่มชาวเลที่นั่งล้อมบ้านพร้อมถือภาพพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชไว้ สุดท้ายผู้ถือครองเอกสารสิทธิ์ต้องยอมล่าถอยไปในท้ายที่สุด

           นางปวีณา นางขวัญใจ และนางจุรี บางจาก ชาวเลที่อาศัยอยู่ในบ้านดังกล่าว เปิดเผยว่า พวกตนอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้กับสมาชิกรวม 11 คน พร้อมยืนยันว่าจะไม่ยอมย้ายออกจากบ้านหลังนี้ แม้ว่าคดีจะถึงที่สุดแล้ว และแม้ว่าการอยู่อาศัยที่นี่ต่อไปจะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายแต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่น เพราะไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน

ชาวเลราไวย์ รวมตัวนั่งล้อมบ้านต้านเจ้าหน้าที่เข้ารื้อถอน รับแพ้คดีแต่ไม่มีที่ไป

ชาวเลราไวย์ รวมตัวนั่งล้อมบ้านต้านเจ้าหน้าที่เข้ารื้อถอน รับแพ้คดีแต่ไม่มีที่ไป

          ด้านนายสุเทพ มุขดี เจ้าที่ดิน ระบุว่า นี่เป็นมรดกที่ได้รับมาจากบิดา โดยในอดีตบิดาได้ให้ชาวเลทั้งสองรายเข้ามาปลูกบ้านอาศัยอยู่ชั่วคราว ซึ่งมีการทำสัญญาเป็นรายปี ปีละ 1,000 บาท แต่ก็ไม่เคยได้ค่าเช่า จนกระทั่งปี 2552 ตนจะเข้าใช้พื้นที่และได้แจ้งให้ผู้เช่าทั้ง 2 รายย้ายออกไป จนเกิดการฟ้องร้องกันมา 7 ปี สุดท้ายศาลได้สั่งให้มีการรื้อถอนบ้านทั้งสองหลังตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม 2559 ก่อนจะเลื่อนมาเป็น 23 กุมภาพันธ์ 2560 พร้อมยืนยันว่าตนเองเป็นประชาชนซึ่งถือโฉนดถูกต้อง ไม่ใช่กลุ่มนายทุนแต่อย่างใด

          ขณะที่ นายชโนทัย สุขเพ็ญ เจ้าหน้าที่บังคับคดีจังหวัดภูเก็ต ระบุว่า การเข้ารื้อถอนบ้านทั้งหลังดังกล่าวนั้นถูกต้องตามกฎหมาย โดยเจ้าหน้าที่ได้มีการนำหมายบังคับคดีมาแจ้งให้ชาวเลทั้ง 2 ครอบครัวทราบตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม 2559 อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่สามารถรื้อได้ ทางเจ้าของที่ดินก็สามารถเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่ขัดขวางได้


ภาพและข้อมูลจาก
 


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ชาวเลราไวย์ รวมตัวนั่งล้อมบ้านต้านเจ้าหน้าที่เข้ารื้อถอน รับแพ้คดีแต่ไม่มีที่ไป อัปเดตล่าสุด 25 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา 08:49:59 21,109 อ่าน
TOP