INDRANIL MUKHERJEE / AFP
หญิงอินเดีย 2 คน โดนสามีขอหย่าผ่านทางแชท เพียงแค่บอกคำเดียว ซ้ำ ๆ 3 ครั้ง ก็เป็นอันจบ มีผลทางกฎหมาย แถมสามีไม่ต้องมาส่งเสียเลี้ยงดูใด ๆ
หญิงมุสลิมชาวอินเดีย 2 คน ออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมทางกฎหมาย หลังพวกเธอถูกสามีขอหย่า 3 ครั้ง โดยการส่งข้อความมาบอกผ่านแอพพลิเคชั่นวอทแอพ (WhatsApp) แบบไร้เยื่อใย ไม่ส่งเสียดูแลอีกต่อไป
หญิง 2 คนดังกล่าวมีชื่อว่า ไซอีด ฮีนา ฟาติมา และ เมห์รีม นูร์ พวกเธอเป็นญาติกันในทางสมรส โดยสามีของทั้งคู่คือไซอีด ฟายาซุดดิน ฮุสเซนนี และ โมฮัมหมัด อับดุล อาคีล นั้นเป็นพี่น้องกัน พวกเขาต่างก็หย่าภรรยาด้วยวิธีเดียวกันคือการส่งข้อความมาบอกในวอทแอพ
ฮีนาได้รับข้อความขอหย่าเมื่อ 6 เดือนก่อน ตอนที่เธอกำลังตั้งครรภ์ ส่วนเมห์รีนก็ได้รับข้อความในเวลาไล่เลี่ยกัน พวกเธอเห็นว่ากฎหมายหย่าร้างเช่นนี้ไร้ซึ่งความยุติธรรม จึงออกมาประท้วงเรียกร้องที่หน้าบ้านและแจ้งร้องทุกข์ไปยังตำรวจในไฮเดอราบัดให้ช่วยเหลือ
ด้วยความที่สามีของพวกเธอกล่าวคำหย่าตามหลักกฎหมายชารีอะห์ ภายใต้ศาสนาอิสลาม ไม่ได้ยื่นฟ้องหย่าที่ศาลตามหลักกฎหมายแพ่งของประเทศอินเดีย พวกเธอจึงไม่มีสิทธิได้รับสินสมรส ค่าเลี้ยงดู หรือเงินทองใด ๆ จากทางสามี อีกทั้งยังถูกขับไล่ออกจากบ้านอีกด้วย
"ฉันมีลูก 2 คนที่ต้องดูแล กฎหมายชารีอะห์อนุญาตให้สามีหย่าขาดจากฉันได้ แต่ใครจะเลี้ยงดูพวกเขาล่ะ กฎหมายได้ระบุข้อนี้ไว้ด้วยหรือไม่" ฮีนาบอกเล่าถึงสิ่งที่เธอต้องประสบพบเจอ
การหย่าขาดจากภรรยาโดยการพูดคำว่า ตาลัก เพียง 3 คำนั้นกำลังเป็นปัญหาที่สร้างความยุ่งยากวุ่นวายอย่างมากในสังคมชาวมุสลิมอินเดีย ในยุคปัจจุบันที่การสื่อสารมีความทันสมัยมากขึ้น ผู้ชายมุสลิมอินเดียจำนวนมากที่ต้องการหย่าขาดจากภรรยา พวกเขาสามารถทำได้โดยง่าย แค่เพียงส่งข้อความไปหาพวกเธอเท่านั้น และจำนวนสถิติการขอหย่าในลักษณะเช่นนี้ก็กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ถึงแม้ว่าจะมีการเรียกร้องต่อต้านมากมาย แต่หน่วยงานด้านกฎหมายมุสลิมที่มีอิทธิพลก็ได้ออกมาปกป้องกฎหมายหย่าร้างนี้ โดยกล่าวว่า ผู้หญิงถูกสามีหย่าขาด ย่อมดีกว่าถูกสามีฆ่าตาย และย้ำว่ากฎหมายหย่าร้างดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของกฎหมายชารีอะห์ ซึ่งถูกบัญญัติโดยศาสนา ดังนั้นจึงไม่มีสิทธิ์ที่จะตั้งคำถามหรือละเมิดได้