x close

ญาติเก๋งปาดหน้าแท็กซี่ รับเป็นฝ่ายผิด ชี้เป็นเรื่องคนมักง่ายกับคนใจแคบ !

เก๋งปาดหน้าแท็กซี่

           น้องชายเก๋งหัวร้อนปาดหน้าแท็กซี่ บอกเป็นเรื่องไร้สาระของคนมักง่ายกับคนใจแคบ แต่ยอมรับเป็นฝ่ายผิด ปัดพี่ชายเครียดจนอยากฆ่าตัวตาย เผยแท็กซี่เข้าแจ้งความเป็นเรื่องดี จะได้ดัดนิสัยเสียพี่ชายบ้าง

           จากกรณีที่รถแท็กซี่บีบแตรใส่รถยนต์โตโยต้า วีออส ที่ขับขึ้นสะพานบนเส้นทึบ ก่อนถูกขับรถปาด และคนขับลงมาชี้หน้าด่าว่าไม่มีน้ำใจ เป็นคนไทยหรือเปล่า จนกลายเป็นที่วิจารณ์กันเป็นวงกว้างนั้น (อ่านข่าว : เก๋งหัวร้อนปาดหน้าแท็กซี่ฉุนถูกบีบแตร ด่าลั่นไม่มีน้ำใจ คนไทยหรือเปล่า !?)
เก๋งปาดหน้าแท็กซี่

           ล่าสุด (25 กรกฎาคม 2560) นายฉัตรชัย ฉายฝาก คนขับรถแท็กซี่ที่ปรากฏในคลิป ได้เข้าแจ้งความเพื่อดำเนินดคีกับคนขับรถเก๋งคันดังกล่าวแล้ว โดยเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถแท็กซี่ไปตาม ถ.รัชดาภิเษก มุ่งหน้าแยกสวนพลู โดยขึ้นสะพานนางลิ้นจี่ จนพบกับรถคู่กรณีที่กำลังเบี่ยงเลนจะขึ้นสะพาน ตนขับมาทางตรงจึงตัดสินใจบีบแตรใส่ เพื่อเตือนเพราะอาจเกิดอุบัติเหตุได้ จากนั้นรถคู่กรณีได้ขับไล่ตาม พร้อมกับบีบแตรใส่และขับปาดหน้า ก่อนจอดรถลงมาด่าทอและทุบประตู ตนเกรงกลัวคำข่มขู่ของคู่กรณีจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความ

เก๋งปาดหน้าแท็กซี่

           ด้าน คนขับรถเก๋งคันดังกล่าว เปิดเผยว่า หลังจากที่คลิปถูกเผยแพร่ไป ทำให้ครอบครัวได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ทั้งที่ตนไม่ได้ทำร้ายร่างกายหรือทรัพย์สินของคู่กรณีเลย อีกทั้งจะเตรียมแจ้งความกับเพจเฟซบุ๊กที่มีการนำรูป และประวัติส่วนตัวของตนไปเผยแพร่

เก๋งปาดหน้าแท็กซี่

           ขณะที่น้องชายของคนขับรถเก๋ง ยอมรับว่าพี่ชายตนผิดจริงที่ไม่ทำตามกฎจราจร แต่แท็กซี่ก็ไม่ยอมให้ทาง และขับมาด้วยความเร็ว ซึ่งพี่ชายขับตามไปเพราะอาจโมโหคิดว่ารถโดนเฉี่ยว และแท็กซี่ก็ไม่ยอมหยุด ซึ่งวิธีที่จะทำให้จอดคือต้องขับเบียด ซึ่งตนมองว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่น่าจะเป็นข่าว เพราะเป็นเรื่องของคนมักง่ายกับคนใจแคบ ส่วนพี่สะใภ้ลงมาถ่ายรูปทะเบียนรถไว้ เพื่อเก็บไว้ใช้หากรถมีปัญหา ส่วนตัวคิดว่าการทำผิดกฎจราจรดังกล่าวเป็นเรื่องปกติที่สามารถเกิดได้บนท้องถนน และไม่เชื่อว่าคนขับแท็กซี่จะทำตามกฎหมายตลอด อีกทั้งพี่ชายตนก็ไม่ได้ใช้กำลังกับคู่กรณี


เก๋งปาดหน้าแท็กซี่

           นอกจากนี้ ยืนยันว่าพี่ชายไม่ได้เครียดจนอยากฆ่าตัวตายตามที่มีข่าว ตอนนี้เป็นห่วงหลานชายมากกว่า ที่อาจทราบข่าวจากสังคมออนไลน์ ส่วนคนขับแท็กซี่ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับพี่ชาย ตนคิดว่าเป็นเรื่องดี เพราะพี่ชายควรจะถูกดัดนิสัยเสียบ้าง และฝากถึงสังคมออนไลน์ว่า ควรมีวิจารณญาณในการเสพและแชร์ข่าวสาร และไม่ควรใช้ถ้อยคำหยาบคาย รวมถึงขุดคุ้ยประวัติครอบครัวเพื่อทำให้เสื่อมเสีย

           อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ. ภูษิต วิเศษคามินทร์ รองผู้บังคับการตำรวจจราจร เปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยว่า ผู้ขับขี่รถบนท้องถนน ไม่สามารถเปลี่ยนเลนจราจรหรือแซงในพื้นที่คับขัน เปลี่ยนเลนหรือแซงทับเส้นทึบไม่ได้ ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม โดยเฉพาะพฤติกรรมของรถเก๋งคันดังกล่าว ที่พยายามจะเปลี่ยนเลนบริเวณคอสะพาน ซึ่งเป็นพื้นที่ห้ามแซงและมีเครื่องหมายจราจรแสดงชัดเจน ผู้กระทำผิดนั้นมีโทษปรับ 400-1,000 บาท



ภาพและข้อมูลจาก




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ญาติเก๋งปาดหน้าแท็กซี่ รับเป็นฝ่ายผิด ชี้เป็นเรื่องคนมักง่ายกับคนใจแคบ ! โพสต์เมื่อ 26 กรกฎาคม 2560 เวลา 11:41:29 45,095 อ่าน
TOP