น้องชายเก๋งหัวร้อนปาดหน้าแท็กซี่ บอกเป็นเรื่องไร้สาระของคนมักง่ายกับคนใจแคบ แต่ยอมรับเป็นฝ่ายผิด ปัดพี่ชายเครียดจนอยากฆ่าตัวตาย เผยแท็กซี่เข้าแจ้งความเป็นเรื่องดี จะได้ดัดนิสัยเสียพี่ชายบ้าง
จากกรณีที่รถแท็กซี่บีบแตรใส่รถยนต์โตโยต้า วีออส ที่ขับขึ้นสะพานบนเส้นทึบ ก่อนถูกขับรถปาด และคนขับลงมาชี้หน้าด่าว่าไม่มีน้ำใจ เป็นคนไทยหรือเปล่า จนกลายเป็นที่วิจารณ์กันเป็นวงกว้างนั้น (อ่านข่าว : เก๋งหัวร้อนปาดหน้าแท็กซี่ฉุนถูกบีบแตร ด่าลั่นไม่มีน้ำใจ คนไทยหรือเปล่า !?)
ด้าน คนขับรถเก๋งคันดังกล่าว เปิดเผยว่า หลังจากที่คลิปถูกเผยแพร่ไป ทำให้ครอบครัวได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ทั้งที่ตนไม่ได้ทำร้ายร่างกายหรือทรัพย์สินของคู่กรณีเลย อีกทั้งจะเตรียมแจ้งความกับเพจเฟซบุ๊กที่มีการนำรูป และประวัติส่วนตัวของตนไปเผยแพร่
ขณะที่น้องชายของคนขับรถเก๋ง ยอมรับว่าพี่ชายตนผิดจริงที่ไม่ทำตามกฎจราจร แต่แท็กซี่ก็ไม่ยอมให้ทาง และขับมาด้วยความเร็ว ซึ่งพี่ชายขับตามไปเพราะอาจโมโหคิดว่ารถโดนเฉี่ยว และแท็กซี่ก็ไม่ยอมหยุด ซึ่งวิธีที่จะทำให้จอดคือต้องขับเบียด ซึ่งตนมองว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่น่าจะเป็นข่าว เพราะเป็นเรื่องของคนมักง่ายกับคนใจแคบ ส่วนพี่สะใภ้ลงมาถ่ายรูปทะเบียนรถไว้ เพื่อเก็บไว้ใช้หากรถมีปัญหา ส่วนตัวคิดว่าการทำผิดกฎจราจรดังกล่าวเป็นเรื่องปกติที่สามารถเกิดได้บนท้องถนน และไม่เชื่อว่าคนขับแท็กซี่จะทำตามกฎหมายตลอด อีกทั้งพี่ชายตนก็ไม่ได้ใช้กำลังกับคู่กรณี
อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ. ภูษิต วิเศษคามินทร์ รองผู้บังคับการตำรวจจราจร เปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยว่า ผู้ขับขี่รถบนท้องถนน ไม่สามารถเปลี่ยนเลนจราจรหรือแซงในพื้นที่คับขัน เปลี่ยนเลนหรือแซงทับเส้นทึบไม่ได้ ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม โดยเฉพาะพฤติกรรมของรถเก๋งคันดังกล่าว ที่พยายามจะเปลี่ยนเลนบริเวณคอสะพาน ซึ่งเป็นพื้นที่ห้ามแซงและมีเครื่องหมายจราจรแสดงชัดเจน ผู้กระทำผิดนั้นมีโทษปรับ 400-1,000 บาท
ภาพและข้อมูลจาก