แฉแม่น้ำมนต์ ใส่ชุดข้าราชการอ้างฝากงานให้-เหยื่อสูญเงินแสน เชื่อรู้เห็นเป็นใจ

น้ำมนต์

          เหยื่อน้ำมนต์ ไม่เชื่อพ่อแม่ไม่รู้เห็น แฉใส่ชุดข้าราชการจนหลงเชื่อ หลังอ้างจะฝากเข้าทำงานเทศบาลจนสูญเงินแสน ด้านพ่อแม่น้ำมนต์ ยืนยันไม่ได้รู้เห็นเป็นใจ ถามในฐานะผู้ปกครองลูกแต่งงาน ถ้าไม่ไปแล้วใครจะไป

          ข่าวมหากาพย์เจ้าบ่าวกว่า 10 ราย ถูกนางสาวจริยาภรณ์ บัวใหญ่ หรือ น้ำมนต์ หรือพร สาวแสบหลอกแต่งงาน และเชิดเอาเงินสินสอดหลบหนีไป ก่อนจนมุมถูกจับกุมตัวได้เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2560 และถูกคุมตัวฝากขังยังศาลธัญบุรี นอกจากนี้ยังมีข้อมูลระบุเพิ่มเติมด้วยว่า พบว่ามีเหยื่ออีก 3 ราย โดนเชิดสินสอด 1 ราย ส่วนอีก 2 ราย เป็นหญิงสาวที่ถูกหลอกว่าจะฝากงานให้นั้น (อ่านข่าว : พบเหยื่อ น้ำมนต์ อีก 3 ราย ปมเชิดสินสอด แถมมีคนถูกหลอกเรื่องจัดหางาน !)

น้ำมนต์
          วันที่ 12 กันยายน 2560 รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่อง AMARIN TV รายงานว่า นางสาวสุกัญญา ปะระไทย หรือ ปู อายุ 30 ปี หนึ่งในผู้ที่ถูกนางสาวจริยาภรณ์ หลอกลวง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวอมรินทร์ว่า ประมาณเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม ปี 2555 นางสาวจริยาภรณ์ ได้ขอเบอร์โทรศัพท์ตนจากเพื่อนอีกคนที่ถูกหลอกเหมือนกับตนมา แล้วก็โทร. มาหา บอกว่าทำงานอยู่ที่สำนักงานเทศบาลตำบลแห่งหนึ่งในจังหวัดเลย ตำแหน่งนักพัสดุ อยากชวนให้ตนเข้าทำงานที่เทศบาลดังกล่าวในตำแหน่งเจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน ตนสนใจเพราะว่าตกงาน เมื่อตอบตกลง เขาก็บอกว่าต้องให้เงิน 100,000 บาท เป็นค่าเข้าทำงาน ตนก็ไม่ได้เอะใจอะไรเพราะอยากมีงานทำ แต่ตอนนั้นยังไม่มีเงินเลยไม่ได้โอนให้

น้ำมนต์

          หลังจากนั้นไม่ถึงสัปดาห์ เพื่อนตนที่ถูกนางสาวจริยาภรณ์หลอกเข้าทำงานด้วยก็ได้โทร. มานัดตนให้ไปหานางสาวจริยาภรณ์เป็นเพื่อน เพื่อจะให้เงิน 70,000 บาท เมื่อไปถึงก็เห็นว่านางสาวจริยาภรณ์อยู่กับพ่อแม่ โดยทุกคนใส่เครื่องแบบราชการ เลยเชื่อว่าไม่ถูกหลอก เมื่อเพื่อนตนให้เงินเสร็จ ตนก็บอกนางสาวจริยาภรณ์ว่าตนยังไม่มีเงินแล้วจะโอนเงินให้ภายหลัง

          หลังจากนั้นอีก 2-3 วัน นางสาวจริยาภรณ์ก็ได้โทร. มาหาตนให้นัดเจอกันเพื่อที่จะให้ตนนำสำเนาเอกสารบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน สำเนาวุฒิ ที่จำเป็นต้องใช้ในการสมัครงานมามอบให้ แต่ตนก็ยังไม่ได้ให้เงินอีกเพราะแม่ตนยังหากู้เงินไม่ได้ ต่อมานางสาวจริยาภรณ์ก็ได้โทร. นัดตนให้มาเจอที่อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย แต่ครั้งนั้นเป็นการนัดเจอกันเพื่อที่จะมอบเงิน ซึ่งตนก็ยังยืนยันว่าไม่มีเงินจะให้ ทางฝ่ายนั้นก็บอกว่าให้ตนรีบหามา แม่ตนจึงไปกู้ยืมคนอื่นมา 100,000 บาท แล้วก็โอนเงินเข้าบัญชีที่ใช้ชื่อว่า นางสาวจริยาภรณ์ สีโต ก่อนที่นางสาวจริยาภรณ์จะบอกอีกว่าให้โอนมาเพิ่มอีก 30,000 บาท ซึ่งตนก็โอนเงินไปให้

น้ำมนต์

          นางสาวสุกัญญา บอกด้วยว่า ภายหลังเพื่อนตนโทร. มาบอกว่า คิดว่าน่าจะถูกหลอกเลยตัดสินใจไปแจ้งความ และนางสาวจริยาภรณ์ก็ถูกจับ แต่เขามีคนเข้ามาประกันตัวซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ประกันตัวออกไป ทั้งนี้ นางสาวจริยาภรณ์ เป็นคนพูดจาดี ดูน่าเชื่อถือ ก็เลยเชื่อ ที่ออกมาพูดเพราะไม่เชื่อว่าพ่อแม่ของเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือไม่รู้ว่าลูกมีพฤติกรรมอย่างนี้ เพราะพ่อแม่เขาจะมาด้วยทุกครั้งเวลามีการส่งมอบเงิน

น้ำมนต์

          ขณะที่ นางสาวอาภาภรณ์ ทองปั้น อีกหนึ่งผู้เสียหายที่ถูกน้ำมนต์หลอก เผยว่า นางสาวจริยาภรณ์แอบอ้างว่าสามารถพาเข้าทำงานที่องค์การบริหารส่วนตำบลแห่งหนึ่งในจังหวัดเลย ในตำแหน่งพนักงานชั่วคราว สัญญาจ้าง 1 ปี แต่ต้องเสียค่าทำสัญญา 100,000 บาท แต่เมื่อจ่ายเงินครบกลับไม่สามารถติดต่อได้ จึงไปแจ้งความ แต่คราวนั้นนางสาวจริยาภรณ์ขอใช้เงินคืนเดือนละ 3,000 บาท แต่ทำได้เพียง 3 เดือน ก็หายไปไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย

          นางสาวอาภาภรณ์ บอกทิ้งท้ายเอาไว้ด้วยว่า จากที่เคยพบนางสาวจริยาภรณ์ และครอบครัว คือดูมีฐานะ น่าเชื่อถือ แต่พอรู้ว่าถูกหลอกก็เสียใจ เพราะเงิน 100,000 บาทที่ยืมมายังต้องใช้ดอกเบี้ย พอรู้ว่าเขาถูกจับก็ดีใจ และยังหวังว่าจะได้เงินคืนบ้าง

น้ำมนต์

          ด้านนายปรเมศร์ นะโส ผู้เสียหายคนล่าสุด ที่ถูกนางสาวจริยาภรณ์หลอกให้แต่งงาน และขอสินสอดเป็นเงิน 250,000 บาท ทองคำ 2 บาท โดยอ้างว่าท้อง หลังรู้จักกันได้ไม่นาน เผยว่า ตนรู้จักกับนางสาวจริยาภรณ์ผ่านเฟซบุ๊ก เมื่อช่วงวันลอยกระทงปีที่ผ่านมา ซึ่งนางสาวจริยาภรณ์ได้มาหาตนที่จังหวัดชลบุรี และมีความสัมพันธ์กัน แล้วนางสาวจริยาภรณ์ยังได้พาไปดูไร่แก้วมังกร ที่จังหวัดนครราชสีมา โดยอ้างว่าต่อไปจะเป็นธุรกิจของครอบครัวและชวนร่วมลงทุน แต่ตนยังไม่ตัดสินใจว่าจะลงทุน จากนั้นเขาก็มาบอกว่าท้อง และต้องการให้รับผิดชอบ โดยให้หาเงินมาแต่งงานในวันที่ 10 มีนาคม ที่ผ่านมา พอตนโอนเงินทั้งหมดให้ กลับติดต่อไม่ได้อีกเลย

          นายปรเมศร์ บอกอีกว่า พอว่าที่เจ้าสาวหายตัวไปตนก็สงสัย จึงเริ่มสืบหาจากเฟซบุ๊ก กระทั่งพบว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งโพสต์ข้อความถึงพี่สะใภ้ซึ่งก็คือนางสาวจริยาภรณ์ ตนจึงทักข้อความไปหา พอทราบความจริงทั้งหมดก็เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเจ็บใจที่ถูกนางสาวจริยาภรณ์พูดต่อหน้าสื่อว่าพวกผู้ชายที่ถูกหลอกนั้นโง่ และหวังในทรัพย์ของนางสาวจริยาภรณ์เอง

น้ำมนต์

          อย่างไรก็ตาม ล่าสุด วันนี้ (12 กันยายน) มีรายงานว่า พ่อแม่ของนางสาวจริยาภรณ์ ได้เดินทางมายังกองปราบปราม เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ โดยบอกว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับลูกที่ไปทำอย่างนั้น ภาพที่เห็นว่าไปร่วมงานแต่งคือ ฝ่ายชายพาญาติมาขอกับพ่อแม่ พ่อแม่ไม่ได้ไปเรียกร้องสินสอด แค่มาเป็นสักขีพยาน ก็สงสัยว่าทำไมแต่งงานหลายครั้ง แต่พอถามเขาก็บอกว่าเลิกราไปแล้ว อยู่ด้วยกันไม่ได้ แต่งหลายครั้งก็ถามแบบนี้ ลูกโตกันหมดแล้วพ่อไม่จำเป็นต้องพูดทุกอย่าง ในฐานะผู้ปกครองถ้าไม่ไปแล้วใครจะไป

          ส่วนที่บอกว่าทางตนเป็นฝ่ายเรียกค่าสินสอดก็ไม่ใช่ ไม่ได้เสนอเลย ทุกอย่างเจ้าบ่าวเจ้าสาวคุยกันเอง จัดงานกันเอง แค่วันแต่งก็มาทำพิธี ฝ่ายเขาก็นั่ง ฝ่ายพ่อก็นั่ง เวลาออกข่าวก็เอาแต่ฝ่ายเดียวไปด่า ด่าทั้งตระกูลมันก็น่าเกลียด ตนเลยมาแสดงความบริสุทธิ์ว่าไม่ได้รู้เห็นเป็นใจ ไปร่วมงานแต่งงานแค่ 4 ครั้ง ก่อนจะไปก็ไม่ได้ไปส่งเดช พ่อ ญาติฝ่ายชายก็มาหาถึงบ้าน



คลิปพ่อน้ำมนต์ เข้ากองปราบปราม


ภาพและข้อมูลจาก


เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
แฉแม่น้ำมนต์ ใส่ชุดข้าราชการอ้างฝากงานให้-เหยื่อสูญเงินแสน เชื่อรู้เห็นเป็นใจ อัปเดตล่าสุด 12 กันยายน 2560 เวลา 13:52:21 44,367 อ่าน
TOP
x close