เจ้าของฟอร์ดเล่านาที โดนสารวัตรกำนันไล่ยิง วอนตำรวจให้ความเป็นธรรม เตือนผู้ใช้รถ-ใช้ถนน อย่าใจร้อน อยากให้เรื่องของตนเป็นกรณีสุดท้าย
จากกรณีคลิปเหตุการณ์รถฟอร์ดป้ายแดงตกข้างทาง เมื่อชาวบ้านเข้าไปสอบถามชายคนที่ขับรถฟอร์ดได้บอกว่าโดนสารวัตรกำนันไล่ยิงและมีคนในรถเจ็บหนักจากเหตุการณ์นี้ [อ่านข่าว : เปิดคลิป หนุ่มใหญ่อ้างโดนสารวัตรกำนันไล่ยิง ทั้งที่ไม่ได้ทำอะไร โซเชียลซัดต้องฟังความสองข้าง คลิก]
โดย นายจตุรภัทร เล่าถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า ตนและครอบครัวทั้งหมด 6 คนทำงานอยู่ที่เดียวกัน เปิดเป็นบริษัทเกี่ยวกับจัดหาแรงงานต่างด้าวในอำเภอเมืองจังหวัดราชบุรี และกำลังเดินทางกลับบ้าน เมื่อผ่านเข้าถนนสายหลักเพชรเกษม ช่วงตีนสะพานทางยกระดับหน้าตลาดเบิร์ดคลองถม ตำบลโคกหม้อ อำเภอเมือง เห็นรถยี่ห้อ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ สีดำ หมายเลขทะเบียนป้ายแดง 8-5555 กรุงเทพมหานคร ได้ขับมาพร้อมกับตน ซึ่งตนก็ไม่ได้คิดอะไร และขับวิ่งตรงต่อไปทางช่องทางเดินรถซ้าย ตนก็สังเกตเห็นว่ารถคันดังกล่าวที่ขับอยู่ในช่องทางเดินรถด้านขวา พยายามไล่จี้และเปิดไฟสูงไล่รถคันที่อยู่ด้านหน้า เพื่อให้หลบเข้าทางเดินรถด้านซ้าย
นายจตุรภัทร กล่าวอีกว่า ตนก็ยังไม่ได้เอะใจอะไร จนขับผ่านสำนักงานขนส่งจังหวัดราชบุรี เริ่มสังเกตถึงความผิดปกติ เหมือนรถคันดังกล่าววิ่งรถด้วยความเร็วและพยายามที่จะไล่ให้คันที่อยู่ข้างหน้าของตัวเองหลบไปพ้นทางเสมือนไม่ให้ใครวิ่งนำหน้าตัวเอง และเมื่อมาถึงช่วงบริเวณหน้าศูนย์บริการ รถยนต์ยี่ห้อ เชฟโรเลต ตนเห็นว่าเริ่มมีทีท่าไม่ดีจึงได้ตัดสินใจแซงหน้าขึ้นไปเพื่อที่จะหลบทางให้และเป็นช่วงจังหวะที่รถบรรทุกสิบล้อหลบเพื่อเปิดทาง ปรากฏว่าชายคนที่ขับมาในรถยี่ห้อ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ สีดำ พยายามขับไล่ เปิดไฟสูงใส่และบีบแตร ตนก็คิดแล้วว่าต้องหาเรื่องเป็นแน่ ในตอนนั้นก็พยายามหลบหลีกให้เพื่อไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งจนได้ยินเสียงปืนดังขึ้น และตนได้เหลือบไปเห็นกระจกรถยนต์ด้านขวาเห็นชายคนดังกล่าวหันอาวุธปืนมาทางรถของตนและพยายามยิงเข้าใส่
นายจตุภัทร เล่าว่า วินาทีนั้นตนพยายามควบคุมสติและคิดอย่างเดียวว่าต้องหาวิธีเอาชีวิตรอด จึงตะโกนบอกให้คนในรถก้มหมอบลง จากนั้นได้รีบเหยียบเร่งกำลังรถขึ้นด้วยความเร็ว 130-140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อที่จะหลบหนี แต่เนื่องจากบนถนนมีรถจำนวนมากเพราะเป็นช่วงเวลาเดินทางกลับบ้านของประชาชน
นายจตุรภัทร เล่าต่อว่า แม้ตนจะพยายามหลบหนีแล้ว แต่ชายคนดังกล่าวก็พยายามขับรถตามมาและใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง จนมาถึงช่วงที่เกิดเหตุเป็นทางแยกเข้าตำบลเจ็ดเสมียน และมีรถจอดติดไฟแดงอยู่หลายคัน ในวินาทีนั้นตนคิดว่าถ้าวิ่งตรงต่อไปจะต้องเกิดโศกนาฏกรรมแน่นอน เพราะรถวิ่งมาด้วยความเร็วสูงตนจึงตัดสินใจเอาชีวิตรอดด้วยการพุ่งตรงตกไปชนเข้ากับกอพงหญ้าปอข้างทาง และมีแอ่งน้ำช่วยลดแรงกระแทกจนทุกคนที่นั่งมาในรถรอดชีวิตทั้งหมด ได้รับบาดเจ็บจากแรงกระแทกและแรงยึดจากเข็มขัดนิรภัย แต่คู่กรณีกลับไม่ลดละพยายามขับรถตามเข้ามาชนหรือหวังที่จะเอาชีวิตตนและครอบครัว โชคดีที่รถยนต์ของคู่กรณีชนติดกับเสาปักกันถนนจนรถได้รับความเสียหายและไม่ยอมลงมาจากรถคันดังกล่าว ขณะนั้นมีพลเมืองดีจะเข้ามาช่วยเหลือพวกตน ตนก็ได้ตะโกนไปว่า "อย่าเพิ่งเข้ามาครับ ในรถยนต์คันนั้นมีปืน" ทำให้ทุกคนเกิดความหวาดกลัวและระวังตัวกันและช่วยกันโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้มาช่วยเหลือ
และอยากขอความเป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่ช่วยดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา เพราะเท่าที่ทราบชายคนดังกล่าวเป็นสารวัตรกำนันคนดังในจังหวัดนครปฐม กลัวว่าการดำเนินคดีจะไม่ได้รับความเป็นเป็นธรรมได้ และจากคำให้การชายคนดังกล่าวกลับให้การว่ายิงขึ้นฟ้าเท่านั้น
นอกจากนี้จากการตรวจสอบรถยนต์คันดังกล่าวที่โลกโซเชียลได้มีการนำภาพออกมาเผยแพร่ พบว่า สภาพด้านหน้าฝั่งคนขับพังเสียหายที่เกิดจากแรงกระแทก ที่ฝากระโปรงมีขวดเบียร์ยี่ห้อหนึ่งตั้งอยู่ ส่วนภายในรถยนต์ที่เบาะด้านหลังพบกระติกสี่เหลี่ยมแช่น้ำแข็ง และมีขวดเบียร์กองอยู่ที่บริเวณที่พักเท้าหลังที่นั่งคนขับ นอกจากนี้ที่บริเวณหลังรถยังพบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนซุกซ่อนไว้อยู่ด้วย
สำหรับแนวทางการดำเนินคดีนั้น นายจตุรภัทร กล่าวว่า เบื้องต้น พนักงานสอบสวน สภ.โพธาราม ได้ทำการควบคุมตัวชายคนดังกล่าว ทราบชื่อเพียงแค่ว่า "อาร์ท" เป็นสารวัตรกำนันในจังหวัดนครปฐม พร้อมทั้งได้ตั้งข้อกล่าวหาไว้ คือพยายามฆ่า ที่ตนเองได้เซ็นรับทราบไว้ และเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งไว้ว่าจะแจ้งไว้อีก 4 ข้อหา คือ พกพาอาวุธปืนไว้โดยไม่ได้รับอนุญาต ข้อหายิงปืนในที่สาธารณะ ข้อหาเมาแล้วขับเพราะมีปริมาณแอลกอฮอล์ 175 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ และข้อหาขับรถด้วยความหวาดเสียว