x close

เจ้าของฟอร์ดเล่านาที โดนสารวัตรกำนันไล่ยิง วอนตำรวจให้ความเป็นธรรม



         เจ้าของฟอร์ดเล่านาที โดนสารวัตรกำนันไล่ยิง วอนตำรวจให้ความเป็นธรรม เตือนผู้ใช้รถ-ใช้ถนน อย่าใจร้อน อยากให้เรื่องของตนเป็นกรณีสุดท้าย

         จากกรณีคลิปเหตุการณ์รถฟอร์ดป้ายแดงตกข้างทาง เมื่อชาวบ้านเข้าไปสอบถามชายคนที่ขับรถฟอร์ดได้บอกว่าโดนสารวัตรกำนันไล่ยิงและมีคนในรถเจ็บหนักจากเหตุการณ์นี้ [อ่านข่าว : เปิดคลิป หนุ่มใหญ่อ้างโดนสารวัตรกำนันไล่ยิง ทั้งที่ไม่ได้ทำอะไร โซเชียลซัดต้องฟังความสองข้าง คลิก]

         ล่าสุดวันที่ 19 กันยายน 2560 ผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์ ผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว ได้แก่ นายจตุรภัทร วงษ์วรนุช อายุ 36 ปี คนขับรถและเป็นผู้ที่ปรากฏภายในคลิปดังกล่าว, นางนันทยา แหยมชม้อย อายุ 27 ปี ภรรยาของนายจตุรภัทร, นางสาวดวงมณี วงษ์วรนุช อายุ 26 ปี น้องสาว, นางกาญจนา โบว์เลนแคร์ค อายุ 35 ปี, นายจรูญ วงษ์วรนุช อายุ 18 ปี น้องชาย และนายพลพงษ์ วงษ์วรนุช อายุ 16 ปี ลูกชาย

         โดย นายจตุรภัทร เล่าถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า ตนและครอบครัวทั้งหมด 6 คนทำงานอยู่ที่เดียวกัน เปิดเป็นบริษัทเกี่ยวกับจัดหาแรงงานต่างด้าวในอำเภอเมืองจังหวัดราชบุรี และกำลังเดินทางกลับบ้าน เมื่อผ่านเข้าถนนสายหลักเพชรเกษม ช่วงตีนสะพานทางยกระดับหน้าตลาดเบิร์ดคลองถม ตำบลโคกหม้อ อำเภอเมือง เห็นรถยี่ห้อ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ สีดำ หมายเลขทะเบียนป้ายแดง 8-5555 กรุงเทพมหานคร ได้ขับมาพร้อมกับตน ซึ่งตนก็ไม่ได้คิดอะไร และขับวิ่งตรงต่อไปทางช่องทางเดินรถซ้าย ตนก็สังเกตเห็นว่ารถคันดังกล่าวที่ขับอยู่ในช่องทางเดินรถด้านขวา พยายามไล่จี้และเปิดไฟสูงไล่รถคันที่อยู่ด้านหน้า เพื่อให้หลบเข้าทางเดินรถด้านซ้าย

โดนสารวัตรกำนันไล่ยิง

         นายจตุรภัทร กล่าวอีกว่า ตนก็ยังไม่ได้เอะใจอะไร จนขับผ่านสำนักงานขนส่งจังหวัดราชบุรี เริ่มสังเกตถึงความผิดปกติ เหมือนรถคันดังกล่าววิ่งรถด้วยความเร็วและพยายามที่จะไล่ให้คันที่อยู่ข้างหน้าของตัวเองหลบไปพ้นทางเสมือนไม่ให้ใครวิ่งนำหน้าตัวเอง และเมื่อมาถึงช่วงบริเวณหน้าศูนย์บริการ รถยนต์ยี่ห้อ เชฟโรเลต ตนเห็นว่าเริ่มมีทีท่าไม่ดีจึงได้ตัดสินใจแซงหน้าขึ้นไปเพื่อที่จะหลบทางให้และเป็นช่วงจังหวะที่รถบรรทุกสิบล้อหลบเพื่อเปิดทาง ปรากฏว่าชายคนที่ขับมาในรถยี่ห้อ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ สีดำ พยายามขับไล่ เปิดไฟสูงใส่และบีบแตร ตนก็คิดแล้วว่าต้องหาเรื่องเป็นแน่ ในตอนนั้นก็พยายามหลบหลีกให้เพื่อไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งจนได้ยินเสียงปืนดังขึ้น และตนได้เหลือบไปเห็นกระจกรถยนต์ด้านขวาเห็นชายคนดังกล่าวหันอาวุธปืนมาทางรถของตนและพยายามยิงเข้าใส่

         นายจตุภัทร เล่าว่า วินาทีนั้นตนพยายามควบคุมสติและคิดอย่างเดียวว่าต้องหาวิธีเอาชีวิตรอด จึงตะโกนบอกให้คนในรถก้มหมอบลง จากนั้นได้รีบเหยียบเร่งกำลังรถขึ้นด้วยความเร็ว 130-140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อที่จะหลบหนี แต่เนื่องจากบนถนนมีรถจำนวนมากเพราะเป็นช่วงเวลาเดินทางกลับบ้านของประชาชน

โดนสารวัตรกำนันไล่ยิง

         นายจตุรภัทร เล่าต่อว่า แม้ตนจะพยายามหลบหนีแล้ว แต่ชายคนดังกล่าวก็พยายามขับรถตามมาและใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง จนมาถึงช่วงที่เกิดเหตุเป็นทางแยกเข้าตำบลเจ็ดเสมียน และมีรถจอดติดไฟแดงอยู่หลายคัน ในวินาทีนั้นตนคิดว่าถ้าวิ่งตรงต่อไปจะต้องเกิดโศกนาฏกรรมแน่นอน เพราะรถวิ่งมาด้วยความเร็วสูงตนจึงตัดสินใจเอาชีวิตรอดด้วยการพุ่งตรงตกไปชนเข้ากับกอพงหญ้าปอข้างทาง และมีแอ่งน้ำช่วยลดแรงกระแทกจนทุกคนที่นั่งมาในรถรอดชีวิตทั้งหมด ได้รับบาดเจ็บจากแรงกระแทกและแรงยึดจากเข็มขัดนิรภัย แต่คู่กรณีกลับไม่ลดละพยายามขับรถตามเข้ามาชนหรือหวังที่จะเอาชีวิตตนและครอบครัว โชคดีที่รถยนต์ของคู่กรณีชนติดกับเสาปักกันถนนจนรถได้รับความเสียหายและไม่ยอมลงมาจากรถคันดังกล่าว ขณะนั้นมีพลเมืองดีจะเข้ามาช่วยเหลือพวกตน ตนก็ได้ตะโกนไปว่า "อย่าเพิ่งเข้ามาครับ ในรถยนต์คันนั้นมีปืน" ทำให้ทุกคนเกิดความหวาดกลัวและระวังตัวกันและช่วยกันโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้มาช่วยเหลือ


         อย่างไรก็ดี นายจตุรภัทร กล่าวอีกว่า เหตุการณ์ครั้งนี้นับว่าเป็นเหตุการณ์ที่เหมือนฝันร้ายที่เกิดกับครอบครัวของตน ซึ่งตนและครอบครัวไม่เคยไปหาเรื่องใคร ใช้ชีวิตกันแบบครอบครัวไปไหนเที่ยวไหนก็จะไปกันเป็นครอบครัว แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองก็ไม่ได้ไปหาเรื่องคู่กรณีเลยแม้แต่น้อย เพียงแค่เร่งเครื่องเพื่อจะแซงหลบไปให้พ้นทางเขา แต่ก็ยอมรับว่ารถของตนอาจจะท่อเสียงดัง แต่ก็ไม่น่าจะถึงขั้นเอาชีวิต และอยากฝากถึงผู้ใช้รถใช้ถนน ขับรถยนต์กันด้วยความไม่ใจร้อนอยากให้กรณีของตนเป็นเหตุการณ์สุดท้ายที่จะสะท้อนให้เกิดขึ้น เพราะถ้าใจร้อนอาจเกิดโศกนาฏกรรมขึ้นได้เพราะบางคนไปกันแบบครอบครัวเหมือนครอบครัวของตนในครั้งนี้ และอยากวอนขอคนที่ขับรถยนต์ตามมาและเห็นเหตุการณ์และมีกล้องวงจรปิดหน้ารถยนต์ที่บันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ช่วยส่งมาให้ตนด้วย

โดนสารวัตรกำนันไล่ยิง

         และอยากขอความเป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่ช่วยดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา เพราะเท่าที่ทราบชายคนดังกล่าวเป็นสารวัตรกำนันคนดังในจังหวัดนครปฐม กลัวว่าการดำเนินคดีจะไม่ได้รับความเป็นเป็นธรรมได้ และจากคำให้การชายคนดังกล่าวกลับให้การว่ายิงขึ้นฟ้าเท่านั้น

         นอกจากนี้จากการตรวจสอบรถยนต์คันดังกล่าวที่โลกโซเชียลได้มีการนำภาพออกมาเผยแพร่ พบว่า สภาพด้านหน้าฝั่งคนขับพังเสียหายที่เกิดจากแรงกระแทก ที่ฝากระโปรงมีขวดเบียร์ยี่ห้อหนึ่งตั้งอยู่ ส่วนภายในรถยนต์ที่เบาะด้านหลังพบกระติกสี่เหลี่ยมแช่น้ำแข็ง และมีขวดเบียร์กองอยู่ที่บริเวณที่พักเท้าหลังที่นั่งคนขับ นอกจากนี้ที่บริเวณหลังรถยังพบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนซุกซ่อนไว้อยู่ด้วย

         สำหรับแนวทางการดำเนินคดีนั้น นายจตุรภัทร กล่าวว่า เบื้องต้น พนักงานสอบสวน สภ.โพธาราม ได้ทำการควบคุมตัวชายคนดังกล่าว ทราบชื่อเพียงแค่ว่า "อาร์ท" เป็นสารวัตรกำนันในจังหวัดนครปฐม พร้อมทั้งได้ตั้งข้อกล่าวหาไว้ คือพยายามฆ่า ที่ตนเองได้เซ็นรับทราบไว้ และเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งไว้ว่าจะแจ้งไว้อีก 4 ข้อหา คือ พกพาอาวุธปืนไว้โดยไม่ได้รับอนุญาต ข้อหายิงปืนในที่สาธารณะ ข้อหาเมาแล้วขับเพราะมีปริมาณแอลกอฮอล์ 175 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ และข้อหาขับรถด้วยความหวาดเสียว

โดนสารวัตรกำนันไล่ยิง


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เจ้าของฟอร์ดเล่านาที โดนสารวัตรกำนันไล่ยิง วอนตำรวจให้ความเป็นธรรม อัปเดตล่าสุด 20 กันยายน 2560 เวลา 15:32:06 13,209 อ่าน
TOP