
จากกรณีที่ เฟซบุ๊ก Nattawuth Phutsadee ได้โพสต์ภาพและข้อความระบุว่า "ญาติใครครับเสียชีวิตที่เกาหลีใต้..หัวใจล้มเหลว ไม่มีวีซ่าไปแบบท่องเที่ยวแต่หลบทำงาน เพื่อน ๆ ช่วยประกาศบริจาคเงินหาค่าเครื่องบินส่งร่างกลับบ้านเกิด" พร้อมภาพพาสปอร์ตของผู้ตาย ปรากฏชื่อ นายประพันธ์ กำมณี อายุ 28 ปี ชาว จ.อุดรธานี นั้น
ด้าน นางยุทธศาสตร์ ทูลกลาง นักวิชาการแรงงานชำนาญการ สำนักงานจัดหางาน จ.อุดรธานี ได้เดินทางมาสอบถามนางจันทร์เพ็ญ เรื่องการเดินทางไปทำงานของผู้ตาย ทราบว่าผู้ตายไปทำงานโดยผิดกฎหมายถึง 3 ปี พร้อมนายเดือน กำมณี อายุ 54 ปี ผู้เป็นพ่อ ทั้งนี้ทางสำนักงานจัดหางานไม่สามารถช่วยเหลือได้ แต่ได้ให้คำแนะนำในการติดต่อรับศพกลับมาที่ประเทศไทย
นางจันทร์เพ็ญ เล่าทั้งน้ำตาว่า ครอบครัวมีอาชีพทำนาทำไร่ มีลูก 2 คน ผู้ตายเป็นลูกคนโต เป็นโสด ยังไม่มีครอบครัว หลังจากเรียนจบ ม.6 ได้ทำนาและค้าขายอยู่ในหมู่บ้าน กระทั่งอายุ 25 ปี ได้กู้เงินนอกระบบ 2 แสนบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 5 บาท ส่งผู้ตายไปทำงานโรงงานพลาสติกที่ประเทศไต้หวันกับน้องชาย ได้เงินเดือน 20,000 บาท หักค่าใช้จ่ายจะเหลือเงินส่งกลับบ้านเพียง 8,000 บาท ทำงานได้เพียงปีกว่าก็กลับบ้าน เพราะเงินเดือนน้อย ทำให้ใช้หนี้ไม่พอจึงแบ่งที่นาขายไปใช้หนี้
นางจันทร์เพ็ญ เล่าอีกว่า เมื่อ 3 ปี ก่อน สามีได้ชวนลูกชายไปทำงานโรงงานไก่ ที่ประเทศเกาหลีใต้ โดยไปแบบหลบหนีเข้าเมือง หรือชาวบ้านเรียกว่าไปแบบ "ผี" ซึ่งมีคนในหมู่บ้านทำงานอยู่ก่อนแล้ว ได้ชักชวนไปได้ยืมเงินกู้นอกระบบอีก 3 แสนบาท ให้สามีกับลูกเดินทางไปเสี่ยงโชคที่เกาหลีใต้ โชคดีที่ได้เงินเดือน 4-5 หมื่นบาท สองคนส่งเงินกลับมาบ้านรวมกัน 6 หมื่น ตนนำใช้หนี้จนหมด และยังได้สร้างบ้านใหม่ 1 หลัง ลูกยังซื้อรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ไว้ 1 คัน
กระทั่งต่อมา ลูกชายได้โทร. มาหา บอกว่าเหนื่อยมาก หายใจไม่ออก ไม่รู้ว่าเขาจะอนุญาตให้ขึ้นเครื่องกลับบ้านหรือไม่ จากนั้นก็ได้ยินเสียงลูกไอและโทรศัพท์หลุดมือ แต่ยังไม่ตัดสาย ตนจึงเรียกลูก แต่ไม่ตอบ กระทั่งสามีกลับจากทำงาน เห็นลูกไอเป็นเลือด นอนหมดสติบนที่นอน จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล ซึ่งหมอบอกว่าเสียชีวิตแล้ว เพราะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน จึงได้ให้นายจ้างโทรศัพท์มาแจ้งข่าวร้ายกับตน
นางจันทร์เพ็ญ บอกด้วยว่า หากรู้ว่าลูกไปแล้วจะตาย จะไม่ยอมให้ลูกไปเด็ดขาด แม้จะทุกข์ยากอย่างไรก็จะอดทนทำมาหากินอยู่บ้าน หากแลกชีวิตกับลูกได้ก็จะขอแลกให้ลูกกลับมา ทั้งนี้สามีของตนกำลังดำเนินเรื่องส่งตัวลูกชายกลับบ้าน โดยมีแรงงานชาวไทยในเกาหลี ประกาศทางเพจเปิดรับบริจาคส่งลูกชายกลับมาบ้าน ซึ่งนายจ้างบอกว่าจะช่วยเหลือทุกอย่าง อาจจะเป็นการนำศพกลับมาบ้าน แต่ต้องใช้เงินจำนวนมาก 4-5 แสนบาท หรืออาจจะทำพิธีฌาปนกิจที่เกาหลี แล้วนำเถ้ากระดูกกลับมาก็ได้
ด้านนางยุทธศาสตร์ เปิดเผยว่า ทราบว่า ผู้ตายไปทำงานที่เกาหลีใต้แบบผิดกฎหมาย หรือที่เรียกว่าแรงงานผี ไม่ผ่านทางกรมการจัดหางาน โดยไปทำงานพร้อมกับนายเดือนผู้เป็นพ่อ เบื้องต้นทาง สำนักงานจัดหางานจังหวัด ไม่สามารถให้ความช่วยเหลืออะไรได้ เพราะเป็นการลักลอบไปทำงานแบบผิดกฎหมาย จึงให้ทางครอบครัวประสานไปยังสถานกงสุล ในการติดต่อรับศพกลับมา และทราบว่าทางนายจ้างชาวเกาหลี พร้อมให้ความช่วยเหลือในการนำร่างกลับบ้าน แต่ค่าใช้จ่ายจะสูงมาก หากนำเป็นเถ้ากระดูกกลับมา ค่าใช้จ่ายจะถูกลง และยังจะเหลือเงินสำหรับดำเนินการต่าง ๆ ได้ ซึ่งทั้งนี้ทราบว่าผู้เป็นพ่อ จะเป็นผู้นำนายประพันธ์ กลับมาเอง
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Nattawuth Phutsadee, ประพันธ์ กำมณี
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก







