กำลังเป็นข่าวที่สังคมให้ความสนใจ กรณี นายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหาร ชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตด้วยอาการหัวใจล้มเหลว แต่เมื่อครอบครัวนำศพไปผ่า พบว่าอวัยวะภายในหลายส่วนหายไป พร้อมตั้งข้อสงสัยว่าสาเหตุที่ร่างกายทรุดมาจากการถูกซ่อม จนทำมาซึ่งการชี้แจงจากหลายฝ่าย รวมไปถึง พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ระบุว่า การซ่อมนั้นเป็นเรื่องปกติของทหาร และสมัยก่อนตนก็เคยโดนมาจนสลบเหมือนกันนั้น (อ่านข่าว : บิ๊กป้อม ชี้ นักเรียนเตรียมทหารต้องพร้อมถูกซ่อม เผยเคยโดนจนสลบ แต่ไม่ตาย)
นายพิเชษฐ เปิดใจว่า ตนได้ทราบถึงการให้สัมภาษณ์ของ พล.อ. ประวิตร ส่วนตัวรู้สึกจิตใจห่อเหี่ยวมาก หลังได้ฟังประโยคที่ว่า เคยถูกลงโทษเหมือนกัน แต่ตนไม่ถึงกับสลบ และคงให้ประชาชนตัดสินจากคำพูดดังกล่าวเอง นอกจากนี้คำแถลงของ พล.อ. ธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ตนยิ่งรับไม่ได้อย่างยิ่ง เพราะไม่ให้ราคาลูกของตน ไม่นึกถึงหัวอกคนเป็นพ่ออย่างตนเลย
นายพิเชษฐ ระบุว่า ตนต้องขอขอบคุณ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่พูดให้ครอบครัวรู้สึกมีกำลังใจ ที่ท่านขอให้ไปพูดคุยกันเพื่อนำมาตรวจสอบอีกครั้ง และหากการเสียชีวิตในครั้งนี้ ไม่ใช่การเสียชีวิตโดยธรรมชาติ พล.อ. ประยุทธ์ บอกว่าก็ต้องลงโทษผู้ที่ทำผิด ซึ่งตนก็มีแนวทางที่คิดไว้คือ ยื่นร้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องการซ่อมไปยังคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนต่อไป
ขณะเดียวกันทางครอบครัวน้องเมย เผยถึงกรณีที่มีภาพจากกล้องวงจรปิดออกมา โดยระบุว่า ยังคงไม่กระจ่าง เพราะภาพที่ออกมามีบางช่วงเวลาที่ขาดหายไป ซึ่งตั้งข้อสงสัยว่าอาจเป็นไปได้ที่ช่วงเวลาดังกล่าวน้องเมยอาจถูกธำรงวินัย จนส่งผลให้ร่างกายทรุดและเสียชีวิตในเวลาไม่กี่ชั่วโมงถัดมา
ภาพและข้อมูลจาก