กรณีข่าว น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารที่เสียชีวิต ได้กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมเกี่ยวกับการซ่อม หรือ ธำรงวินัย ซึ่งหลายเสียงได้ออกมาระบุว่าเป็นการกระทำที่รุนแรงเกินกว่าจะรับได้ โดยการเสียชีวิตของ น้องเมย ก็ไม่ใช่รายแรก เมื่อย้อนกลับไปประมาณ 10 ปี มีรายงานว่า นตท. กรัณฑ์ อรชร ได้ถูกรุ่นพี่ธำรงวินัยด้วยการให้ดื่มน้ำ 40 ลิตร จนเกิดภาวะน้ำเป็นพิษ จนเสียชีวิตนั้น (อ่านข่าว : ชี้ น้องเมย ไม่ใช่รายแรกที่เสียชีวิต - รุ่นพี่วัย ม.ปลาย เหมาะสมกับอำนาจหรือ)
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2560 พ.ต.อ. ณธีพัฒน์ อัครพงศ์ธิติ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 5 ผู้เป็นพ่อของ นตท. กรัณฑ์ ซึ่งเสียชีวิตเมื่อปี 2550 เล่าว่า ตอนนั้นลูกชายเรียนอยู่ชั้นปีที่ 2 อายุ 17 ปี ถูกรุ่นพี่ 6 คน ลงโทษตามกฎธำรงวินัย ซึ่งแพทย์ระบุว่าเสียชีวิตเนื่องจากกินน้ำถึง 40 ลิตร
พ.ต.อ. ณธีพัฒน์ ระบุว่า หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวก็ไม่เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ส่วนในขั้นตอนทางกฎหมายนั้น ทางครอบครัวได้ฟ้องดำเนินคดีกับรุ่นพี่ 6 คน กระทั่งผ่านไป 3 ปี 6 เดือน จึงตัดสินใจยุติการดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญา เนื่องจากสงสารภรรยาของตัวเองที่ต้องทนทุกข์ทรมานเพราะสูญเสียบุตรชายจึงไม่อยากไปฟังคำพิพากษา ขณะเดียวกันศาลมีก็มีคำตัดสินรอลงอาญา 5 ปีกับรุ่นพี่ทั้ง 6 คน ส่วนการดำเนินการทางวินัยกับรุ่นพี่ทั้ง 6 คน ทราบว่า ถูกให้ออกจากโรงเรียนเตรียมทหาร 1 คน, ซ้ำชั้น 2 คน และอีก 3 คนถูกตัดคะแนน
อย่างไรก็ตาม ตนมีความเห็นว่าการซ่อมนั้นมีอยู่แล้วในโรงเรียนของตำรวจและทหาร แต่การซ่อมนั้นต้องมีคุณภาพและคนที่ดำเนินการ เพราะทุกครั้งที่เกิดเหตุไม่ใช่ผู้หมวดหรือผู้กอง แต่เป็นนักเรียนรุ่นพี่ที่เป็นผู้ดำเนินการ เช่นเดียวกับกรณีของลูกชายตน และล่าสุดกรณีของ น้องเมย ที่คิดว่าคนเป็นรุ่นพี่จะรวมหัวกันขึ้นมา 1 กลุ่ม เพื่อดำเนินการซ่อมหรือจวกรุ่นน้อง เหตุที่เกิดขึ้นมาก็จากรุ่นพี่บางคนหากไปเทียบดูแล้วรุ่นพี่เหล่านี้ก็เคยถูกซ่อมหนัก ๆ มาก่อน
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของน้องเมยนั้น แม่ของน้องเมยก็ได้โทร. มาปรึกษาทางครอบครัวของตน ซึ่งตนก็ได้ให้กำลังใจ และบอกให้ทำใจให้ว่าง ปล่อยวาง เพราะกระบวนการต่าง ๆ อาจใช้เวลานานหลายปี ตนนั้นเข้าใจหัวอกของพ่อ-แม่เป็นอย่างดี เพราะหลังจากสูญเสียลูกชายไป ตนยังต้องขับรถไปทำงานพร้อมร้องไห้ ต้องใช้เวลา 3-4 ปี ถึงจะดีขึ้น ซึ่งทุกวันนี้ตนยังรู้สึกเจ็บปวดอยู่ ก็พยายามทำบุญปล่อยวางไม่คิดมาก
ทั้งนี้ ส่วนตัวอยากให้ทางโรงเรียนและผู้ปกครองหันหน้าคุยกัน เพราะตอนนี้น้องเมยก็เสียชีวิตไปแล้ว โรงเรียนเตรียมทหารก็มีกฎและระเบียบที่ดีอยู่แล้ว ยกเว้นตัวบุคคล เพราะมีรุ่นพี่บางคนลุแก่อำนาจ ขณะที่ครูอาจารย์และผู้ดูแลนักเรียนเตรียมทหารอาจไม่ทราบ จึงขอวิงวอนให้โรงเรียนเตรียมทหารตรวจสอบและหาทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์สูญเสียซ้ำรอยขึ้นอีก
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
