x close

ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์รายใหญ่ ขยายผลยึดเงินได้กว่า 120 ล้าน เตรียมคืนผู้เสียหาย




           สาวแบงค์ไลฟ์แฉพฤติกรรมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เข้าแจ้งความเอาผิดคนร้ายฐานร่วมกันพยายามฉ้อโกง ด้านตำรวจขยายผลทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์รายใหญ่ได้ ยึดเงินได้กว่า 120 ล้าน เตรียมคืนผู้เสียหาย 

           จากคลิปสาวพนักงานธนาคาร เผยแพร่คลิปถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โทร. หา หลอกให้โอนเงิน แต่กลับเสียท่าถูกตลบหลัง ล้วงเอาชื่อ และเลขบัญชีแฉกลับกลางไลฟ์สด จนทางตำรวจตามสืบหาเจ้าของบัญชีเจอ พบว่าเป็นผู้รับจ้างเปิดบัญชี โดยได้รับค่าจ้าง 1,000 บาท นั้น (อ่านข่าว : พบแล้ว ! หนุ่มลำปางโดนสาวแบงก์ล้วงข้อมูลตลบหลัง ปัดเอี่ยวแก๊งคอลเซ็นเตอร์)

           ความคืบหน้าเรื่องนี้ ล่าสุด (4 ธันวาคม 2560) ตำรวจนครบาลและเจ้าหน้าที่สายงานป้องกันอาชญากรรมทางการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ พานางสาวมารีนา พนักงานสาวแบงค์ที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ หลอกโอนเงิน เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.ท. ธีระศักดิ์ ยิ้มนัย พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองราชบุรี โดยได้นำหลักฐาน คลิปการสนทนา facebook Live ระหว่าง น.ส.มารีนา กับกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ และภาพจากหน้าจอโทรศัพท์ที่มีเบอร์ของ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ มาเป็นพยานและหลักฐาน พร้อมทั้งให้ปากคำเพื่อลงบันทึกการแจ้งความ โดยที่พนักงานสอบสอนได้ตั้งข้อหา ร่วมกันพยายามฉ้อโกง จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลจึงได้ทำการอายัดผู้ต้องหาทั้งหมดไว้เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป และจะทำการขยายผลผู้ร่วมขบวนการทั้งหมดต่อไปฃ

แก๊งคอลเซ็นเตอร์
แก๊งคอลเซ็นเตอร์

           ด้าน น.ส.มารีนา เปิดเผยว่า ตอนนี้ตนเองได้ถูกปรับเปลี่ยนให้ไปอยู่สาขาใหม่ เพื่อความปลอดภัย และจากที่มีข่าวปรากฏตามสื่อต่าง ๆ ว่าตนเองถูกไล่ออกนั้น ตนเองขอยืนยันว่า ไม่ได้ถูกไล่ออกแต่อย่างใด โดยหลังจากที่เป็นข่าวได้มีผู้ให้กำลังใจตนเองเป็นอย่างมาก และต้องขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วง ส่วนกรณีที่มีการติดตามจับกุมเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์รายใหญ่ได้ถึง 80 คน ตนเองก็รู้สึกดีใจ ไม่คิดว่าจะสามารถจับคนร้ายและขยายผลได้เร็วขนาดนี้ ขอบคุณทุกหน่วยงานเลยที่ช่วยกันติดตามในเรื่องนี้

           น.ส.มารีนา ยังกล่าวถึงกรณีที่ทนายดังท่านหนึ่งออกมาแสดงความเห็นว่าเรื่องที่ตนทำเป็นความผิด ซึ่งตนนี้ตนเองก็คิดว่าไม่เป็นอะไรต่างคนก็ต่างมีความคิด แต่ก็ต้องขอบคุณทุก ๆ คำแนะนำทุกความเห็น

            ด้าน พ.ต.อ. อภิชาต พุทธบุญ ผกก.สภ.เมืองราชบุรี ได้เปิดเผยว่าในคดีดังกล่าว ทาง พล.ต.ต. อนุภาพ ศรีนวล ผบก.ภ.จว.ราชบุรี ได้ให้ความสนใจและมอบหมายให้ทาง สภ.เมืองราชบุรี ดูแลเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมให้ความดูแลช่วยเหลือ น.ส.มารีนา อย่างเต็มที่ ถ้ามีข่าวอะไรหรือถูกข่มขู่ให้รีบแจ้งหรือจะให้ตำรวจไปพบก็สามารถแจ้งได้ทันที

          ขณะที่วันที่ 5 ธันวาคม 2560 พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมตัวแทนจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้ร่วมกันแถลงผลการทลายเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์รายใหญ่ พบว่าที่ผ่านมาสามารถออกหมายจับผู้กระทำผิดได้ 113 หมายจับ ซึ่งตามจับได้แล้ว 80 ราย หลบหนีไปต่างประเทศแล้ว 7 ราย พร้อมกันนี้ยังยึดเงินได้แล้วกว่า 120 ล้านบาท โดยคืนเงินกับผู้เสียหายได้ 4 ราย และจะทยอยคืนผู้เสียหายทั้งหมดใน 2 สัปดาห์

          นอกจากนี้ยังสามารถจับเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์รายใหญ่ได้อีก 8 ราย โดยมีรายล่าสุดคือ นายทอมมี่ วู สัญชาติอินโดนีเซีย ที่ร่วมกับชาวไทยในการก่อเหตุ ใช้ประเทศฟิลิปปินส์เป็นฐานกระทำผิด ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบความเชื่อมโยงทางคอมพิวเตอร์

***หมายเหตุ : อัปเดตข้อมูลล่าสุดเมื่อเวลา 14.06 น. วันที่ 5 ธันวาคม 2560

ภาพและข้อมูลจาก WorkpointNews
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์รายใหญ่ ขยายผลยึดเงินได้กว่า 120 ล้าน เตรียมคืนผู้เสียหาย อัปเดตล่าสุด 5 ธันวาคม 2560 เวลา 14:21:45 10,164 อ่าน
TOP