เปิดใจ สาวใช้ครีมจนนมแตกลาย รับอาย...แต่ไม่ยอมให้เรื่องเงียบ


ครีมผิวขาว

ครีมผิวขาว

             เปิดใจ สาวโพสต์แฉครีมกระปุก ใช้แล้วแตกลายยับทั้งตัว ยันไม่ได้อ้วน ไม่เคยผ่านการมีบุตร รับอายแต่ไม่ยอมให้เรื่องเงียบ เผยมีเหยื่อโดนอีกเพียบ ชี้เป็นบทเรียนคนชอบความขาว

             จากกรณีหญิงรายหนึ่งออกมาโพสต์ว่า เธอได้สั่งซื้อครีมกระปุกที่อวดอ้างสรรพคุณใช้แล้วผิวจะขาว พอได้ใช้ระยะแรกก็รู้สึกว่าขาวดี จึงใช้ต่อมาเรื่อย ๆ แถมสมัครเป็นตัวแทนจำหน่าย แต่สักพักปรากฏว่าหายนะบังเกิด นมแตก ขาแตก ก้นแตก ผิวบาง คันตัวตลอดเวลา ทรมานมาก ขณะที่ทางแบรนด์ก็ปัดความรับผิดชอบอีกนั้น (อ่านข่าว : เตือนใช้ครีมผิวขาว สุดท้ายพังพินาศ ผิวแตกเป็นทาง-ทรมานเหมือนตายทั้งเป็น !)

             เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ล่าสุด (2 กุมภาพันธ์ 2561) สาวเจ้าของโพสต์ดังกล่าว ได้เปิดใจผ่านเพจเฟซบุ๊ก ห้องสืบสวย-สยอง กล่าวว่า จากการที่ตนออกมาโพสต์เรื่องดังกล่าว ไม่ได้จะมาโจมตีแบรนด์แต่อย่างใด แค่มาเตือนคนที่อยากจะผิวขาวไวว่า เมื่อใช้แล้วผลลัพธ์จะเป็นแบบนี้ เพราะมีลูกค้าหลายรายประสบปัญหาเดียวกันกับตน แต่ไม่กล้าออกมาพูดแบบนี้ ตนก็อยากให้มาเป็นบทเรียน
ครีมผิวขาว

             สำหรับประเด็นที่มีคนบอกว่า ผิวที่แตกลายนั้นเป็นเพราะตนอ้วน ผิวแห้ง เคยผ่านการมีบุตรหรือเปล่านั้น ตนยืนยันว่ายังไม่ได้ผ่านการมีบุตรแต่อย่างใด อีกทั้งผิวที่แตกอยู่ตอนนี้แตกต่างจากรอยแตกหลังการมีบุตร ซึ่งตนก็ทักไปสอบถามตัวแทนจำหน่ายหลัก ก็ได้รับคำตอบมาว่า พักผิวบ้างหรือเปล่า ครีมตัวนี้ห้ามทาหน้าอก แต่ข้างกระปุกกลับระบุเพียงแค่ว่า "ใช้ทาผิวกายเป็นประจำก่อนนอน เพื่อผลลัพธ์ที่ดีทาครีมเปียกหมาด ๆ" เท่านั้น ซึ่งคล้ายกับปัดความรับผิดชอบนั่นเอง

             ทั้งนี้ สำหรับกระปุกครีมดังกล่าวเป็นสีเขียว ส่วนเนื้อครีมมีลักษณะสีขาวอมเขียว แต่ตนไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นครีมของแบรนด์อะไร เพราะกลัวว่าทางเจ้าของแบรนด์จะฟ้องร้อง จึงขอเตือนสาว ๆ ที่ชอบความขาวแบบเร่งด่วน ไม่อยากให้มาเป็นแบบตน อีกทั้งต้องขอบคุณทุกคนที่เข้ามาให้กำลังใจ เพราะการที่ออกมาโพสต์ภาพแบบนี้ ตนก็อายเหมือนกัน แต่ก็ต้องรักษาสิทธิของตัวเอง และเพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับคนอื่นอีกด้วย

ครีมผิวขาว

ภาพและข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก ห้องสืบสวย-สยอง, Saowalak Makkhayan
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เปิดใจ สาวใช้ครีมจนนมแตกลาย รับอาย...แต่ไม่ยอมให้เรื่องเงียบ อัปเดตล่าสุด 6 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา 15:02:05 28,280 อ่าน
TOP
x close