
จากกรณีที่ น้องแอล หรือ น.ส.อินทุอร อายุ 21 ปี ถูกโชเฟอร์แท็กซี่พาเข้าโรงแรมหลังจากที่เธอเผลอหลับไปบนรถ ก่อนที่ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถจับกุม นายอดิเรก อายุ 41 ปี คนขับแท็กซี่ได้ โดยเจ้าตัวอ้างว่าที่พาน้องแอลเข้าโรงแรมมีเจตนาบริสุทธิ์ เห็นว่าเมาหลับไป ไม่ได้มีเจตนาข่มขืน และยังบอกด้วยว่าฝ่ายน้องแอลนั่นแหละที่บอกให้พาเข้าโรงแรมเอง ก่อนที่ต่อมา น้องแอล จะออกมายืนยันว่าไม่ได้บอกให้แท็กซี่พาเข้าโรงแรม พร้อมถามกลับหากหวังดีจริงทำไมไม่พาไปที่อื่น (อ่านเพิ่มเติม : แอล ฉะแท็กซี่ หวังดีแต่พาเข้าม่านรูด โต้เอาตัวแลกเพราะอยากดัง)

ทั้งนี้คดีดังกล่าวถือว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้อย่างรวดเร็วเลยทีเดียว โดยเพจ Drama-addict ได้ให้ข้อมูลถึงการเข้าจับกุมไว้เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2561 โดยระบุว่า

หลังทราบเรื่อง ทางตำรวจก็ได้ติดต่อทางบริษัทที่รับผิดชอบระบบ GPS ของ TAXI OK ไล่หาข้อมูลจนเจอคนขับในที่สุด
โดยเพจ Drama-addict มองว่า ระบบนี้ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าดีกับผู้โดยสารจริง ๆ
- GPS Tracking
- CCTV แบบ Snap Shot
- จอ Digital
- App : DLT Taxi Ok
- Emergency Push Button
โดยอุปกรณ์ Emergency Push Button นี้ จะเอาไว้กดเวลาเกิดเหตุฉุกเฉินหรือเหตุร้าย ทั้งกับฝั่งผู้โดยสารที่ถูกแท็กซี่ทำร้าย และฝั่งแท็กซี่ที่ถูกผู้โดยสารทำร้าย (อ่านเพิ่มเติม : เปิดตัว TAXI OK ชูฟังก์ชั่นปุ่มฉุกเฉิน กดทันทีเมื่อเกิดเหตุร้าย)
ซึ่งรถแท็กซี่ที่เข้าร่วมโครงการจะต้องติดตั้งอุปกรณ์เหล่านี้ ในราคาประมาณ 10,000 บาทต่อชุด ทำให้มีเสียงบ่นจากฝั่งคนขับแท็กซี่ถึงเรื่องค่าใช้จ่ายในการติดตั้งตามมา

ข้อมูลจาก เพจ Drama-addict






