x close

หมอหม่อง ฉะภาครัฐ ห่วงแต่ภาพลักษณ์ ไม่ห่วง ปชช. ปมไล่บี้รูป 3 กษัตริย์ใส่หน้ากากกันพิษ

หมอหม่อง

          หมอหม่อง โพสต์ฉะภาครัฐ ปมอนุสาวรีย์สามกษัตริย์สวมหน้ากาก ชี้ห่วงภาพลักษณ์มากกว่าสุขภาพประชาชน หวังให้ลุกขึ้นมาแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง เพราะมลพิษอันตรายกว่าที่หลายคนคิด

          จากกรณีที่ นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ มอบอำนาจให้นายศิริพงษ์ นำภา ป้องกันจังหวัดเชียงใหม่ เข้าร้องเรียนกับพนักงานสอบสวน สภ.ช้างเผือก หลังจากที่โลกออนไลน์ได้มีการเผยแพร่ภาพพระบรมราชานุสาวรีย์สามกษัตริย์  ผู้สร้างเมืองเชียงใหม่ คือ พญามังราย พญางำเมือง และพ่อขุนรามคำแหงมหาราช สวมหน้ากากปิดจมูกจากปัญหาหมอกควัน โดยกล่าวว่าเป็นภาพที่ไม่เหมาะสม และเป็นการย่่ำยีจิตใจของประชาชนชาวเชียงใหม่ นั้น (อ่านเพิ่มเติมที่ : ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ สั่งเอาผิดเพจลงภาพ 3 บูรพกษัตริย์สวม Mask ชี้ย่ำยีหัวใจประชาชน)
          ล่าสุด เมื่อวัน 30 มีนาคม 2561 นายแพทย์รังสฤษฎ์ กาญจนะวณิชย์ หรือ หมอหม่อง อาจารย์แพทย์โรคหัวใจ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผู้เป็นนักเคลื่อนไหวเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ ได้ออกมาโพสต์ข้อความถึงกรณีดังกล่าว ผ่านทางเฟซบุ๊ก Rungsrit Kanjanavanit ระบุว่า หลายคน ๆ อาจจะมองว่าการที่โซเชียลมีเดียเผยแพร่ภาพพระบรมราชานุสาวรีย์สามกษัตริย์สวมหน้ากากพิษนั้น เป็นเรื่องไม่เหมาะสมตามธรรมเนียม (แม้เป็นเรื่องปกติในสากล) แต่หากมองเจตนาของผู้เผยแพร่แล้ว จะพบว่ามันไม่ใช่การลบหลู่ แต่เป็นการสร้างความตระหนักให้กับสังคม เพื่อหวังให้เกิดการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่ในทุกภาคส่วน เพราะมลพิษทางอากาศในปัจจุบันนี้ส่งผลร้ายและเป็นอันตรายต่อประชาชน ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว และปัญหาที่สำคัญก็คือ คนส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจถึงความรุนแรงของปัญหานี้ ทัศนคติของภาครัฐต่อเรื่องนี้ก็เช่นกัน เพราะผู้บริการภาครัฐ ห่วงภาพลักษณ์ตัวเอง มากกว่าสุขภาพประชาชน

          โดย หมอหม่อง ยังได้สรุปความเห็นของตัวเอง ในประเด็นที่ประชาชนผู้รับชะตากรรม ไม่สบายใจกับปัญหา เอาไว้เป็นข้อ ๆ ดังต่อไปนี้

หมอหม่อง

          1. ประชาชนไม่อาจมีความเชื่อมั่นข้อมูลจากหน่วยงานของรัฐที่รายงานสถานการณ์มลพิษทางอากาศ จนต้องลุกขึ้นพึ่งพาตนเอง สร้างเครือข่ายติดตามสภาวะสภาพอากาศด้วยตัวเอง

          2. ผู้ที่เจตนาดี เสียสละลุกขึ้นช่วยรณรงค์สร้างความตระหนักให้ประชาชน ก็ถูกภาครัฐมองเป็นศัตรู ให้งดกิจกรรมรณรงค์ไม่พอ ยังทำเรื่องกล่าวโทษฟ้องร้องว่าทำเสื่อมเสียภาพลักษณ์

          3. จริงอยู่ว่าหลายคนอาจรู้สึกว่าการเผยแพร่ภาพ บรรพกษัตริย์ (แห่งอนุสาวรีย์สามกษัตริย์) สวมหน้ากากพิษเป็นเรื่องไม่เหมาะสม ตามธรรมเนียม (แม้เป็นเรื่องปกติในสากล) แต่หากมองเจตนาของผู้เผยแพร่ นั้นที่สุดไม่ใช่การลบหลู่ แต่ต้องการสร้างความตระหนักให้กับสังคม เพื่อหวังให้เกิดการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่ในทุกภาคส่วน

          4. ผู้บริหารภาครัฐ โดยเฉพาะทางจังหวัด เป็นห่วงแต่ภาพพจน์ของตนเอง มากกว่าสุขภาพประชาชน ประชาชนรู้สึกว่า เจ้าหน้าที่รัฐทำตัว เหมือนมีอำนาจล้นฟ้า ไม่ฟังเสียงประชาชน เอะอะก็บอกจะฟ้องร้อง มองประชาชนเป็นศัตรู

          5. หลายคนเกรงว่าหากสร้างความตระหนัก จะเกิดความตระหนก ส่งผลลบในด้านผลต่อบรรยากาศการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ ผมกลับมองว่า ในฐานะเจ้าบ้านผู้มีความรับชอบ เราควรแจ้งเตือนนักท่องเที่ยวผู้มาเยือนถึงสถานการณ์ความรุนแรงของสภาวะมลพิษทางอากาศอย่างตรงไปตรงมา อยากให้เขาเห็นว่าเราคำนึงถึงความปลอดภัยสุขภาพของเขามากกว่าเงินในกระเป๋าของเขา ผมเชื่อว่า โดยวิธีคิดแบบนี้แม้เราอาจสูญเสียรายได้ไปบ้างในระยะสั้น แต่ชื่อเสียงของเราในการเป็นเจ้าบ้านที่รับผิดชอบจะสร้างความเชื่อมั่น ความรู้สึกที่ดี ส่งผลดีต่อภาพลักษณ์และเศรษฐกิจท้องถิ่นของเราในระยะยาว

          6. ผมขอชื่นชม ผู้บริหารคณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่จะแจกหน้ากากให้กับบุคลากรทุกคน ในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ เป็นตัวอย่างหน่วยงานทางสุขภาพ ที่ชี้นำสังคม ในทางที่ถูกต้อง อยากให้หน่วยงานราชการอื่นทำบ้าง

          "แม้แทบจะสิ้นหวัง แต่ผมยังเชื่อว่า สังคมที่เจริญแล้ว คือสังคมที่ยอมรับความจริง ไม่หลีกเลี่ยงปัญหา ระดมสติปัญญาในการค้นหาต้นตอแท้จริง และวางแผนแก้ไขในระยะยาวอย่างเป็นระบบ โดยใช้หลักฐานทางวิทยาศาสตร์และขบวนทางสังคมที่มีส่วนร่วมจากทุก ๆ คน ด้วยความรักและหวังดีจริง ๆ ครับ" หมอหม่อง กล่าวทิ้งท้าย

หมอหม่อง

หมอหม่อง

หมอหม่อง

ภาพและข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Rungsrit Kanjanavanit, นวลคำ ขะยอมแดง สุภาพชนคนเมือง

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
หมอหม่อง ฉะภาครัฐ ห่วงแต่ภาพลักษณ์ ไม่ห่วง ปชช. ปมไล่บี้รูป 3 กษัตริย์ใส่หน้ากากกันพิษ โพสต์เมื่อ 31 มีนาคม 2561 เวลา 16:56:50 16,002 อ่าน
TOP