ทุจริตเงินทอนวัด เฟส 3 พบกระทำผิดเกือบ 20 วัด มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท เผยมีทั้ง ข้าราชการ-พระสงฆ์ ร่วมเอี่ยว ชี้ 3 วัด อยู่ในเครือข่ายอดีต ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ จากกรณีเจ้าหน้าที่รัฐและพระสงฆ์ ร่วมกันใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบร่วมกันทุจริตเงินงบประมาณอุดหนุนของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ทั้ง 3 ประเภท คือ งบอุดหนุนบูรณปฏิสังขรณ์วัดและพัฒนาวัด งบอุดหนุนส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนา และงบอุดหนุนการศึกษาพระปริยัติธรรม ซึ่ง ปปป. ได้สอบสวนวัดที่เข้าข่ายกระทำผิดไปแล้วถึง 2 ครั้ง นั้น
ล่าสุด (11 เมษายน 2561) สำนักข่าวสปริงนิวส์ รายงานว่า พ.ต.ท. พงศ์พร
พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (ผอ.พศ.)
เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน ปปป.
เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมเอาผิดผู้ที่อยู่ในเครือข่ายทุจริตเงินทอนวัดในเฟสที่
3 พบว่ามีการกระทำความผิดแล้วเกือบ 20 วัด กระจายอยู่ทั่วประเทศ
มูลค่าความเสียหายมากกว่า 100 ล้านบาท โดยผู้กระทำความผิด
มีทั้งในกลุ่มข้าราชการที่ยังไม่ได้ถูกดำเนินคดี
และข้าราชการที่ถูกดำเนินคดีไปแล้ว แต่ยังไม่ถูกยึดทรัพย์
รวมถึงผู้ที่อยู่ในเครือข่ายทั้งพลเรือนและพระสงฆ์
สำหรับพฤติกรรมมีการกระทำความผิดทั้งในรูปแบบเดิม
คือ ให้ข้าราชการเป็นผู้ติดต่อหารายชื่อวัด
แล้วทำเรื่องขอเงินงบอุดหนุนเพื่อโอนไปยังวัด และไปขอเงินทอนคืน
รวมถึงกรณีวัดเป็นผู้ดำเนินการของบประมาณเอง
แล้วมีการจ่ายคืนให้ข้าราชการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
นอกจากนี้ ใน 3 วัด
พบว่าผู้กระทำผิดอยู่ในเครือข่ายของ นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์
อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และนายพนม ศรศิลป์
อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดยเป็นการทุจริตในงบประมาณเผยแพร่พระพุทธศาสนา และงบศึกษาพระปริยัติธรรม
ซึ่งพบว่าเป็นวัดดังอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร
ภาพและข้อมูลจาก
springnews