จากกรณีนักวิจัยด้านความมั่นคงปลอดภัย Niall Merrigan ได้รายงานว่า True Move H ทำข้อมูลลูกค้ารั่วไหล 46,000 ไฟล์ ซึ่งต่อมา TRUE ได้ชี้แจงกับ กสทช. ว่า กรณีดังกล่าวเกิดจากการถูกเจาะข้อมูลด้วยเครื่องมือพิเศษ 3 ชั้น กระทบลูกค้า 11,400 เลขหมายนั้น (อ่านข่าว : ทรู แจงถูกเจาะข้อมูลลูกค้ากว่า 1.1 หมื่นเลขหมาย ด้วยเครื่องมือพิเศษ 3 ชั้น)
1. จัดให้มีมาตรการป้องกันและรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งทางด้านเทคนิคและการจัดการภายในองค์กรในรูปแบบที่เหมาะสมกับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยอย่างน้อยต้องปรับระดับรักษาความปลอดภัยให้เหมาะสมกับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นตามการพัฒนาทางเทคโนโลยี และให้มีการตรวจสอบระบบการรักษาความปลอดภัยจากผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยของข้อมูล
2. จัดให้มีช่องทางการตรวจสอบจากประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
3. ให้ บจ.เรียล มูฟฯ รับผิดชอบและเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อผู้ใช้บริการที่ได้รับผลกระทบ ทั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นในทางแพ่งและทางอาญา
4. ให้รายงานผลการดำเนินการตามคำสั่งตามข้อ 1. 2. และ 3. มายังสำนักงาน กสทช. ภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือฉบับนี้ และรายงานความคืบหน้าในการดำเนินการตามคำสั่งนี้เป็นระยะ ๆ ทุก 15 วัน
เลขาธิการ กสทช. เผยอีกว่า สำนักงาน กสทช. ได้มีหนังสือถึงผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รายอื่น ๆ ว่า ต้องจัดให้มีมาตรการป้องกันและและรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลทั้งทางด้านเทคนิคและการจัดการภายในองค์กรในรูปแบบที่เหมาะสมกับ ในเรื่อง มาตรการคุ้มครองสิทธิของผู้ใช้บริการโทรคมนาคมเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล สิทธิในความเป็นส่วนตัว และเสรีภาพในการสื่อสารถึงกัน หากเกิดกรณีที่ไม่เป็นไปตามที่ประกาศกำหนด ผู้รับใบอนุญาตต้องควบคุมดูแลให้ระงับการกระทำที่ฝ่าฝืน หรือแก้ไขปรับปรุงหรือปฏิบัติตามให้ถูกต้องเหมาะสม
ภาพจาก workpointnews.com
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก