
วันที่ 27 เมษายน 2561 เว็บไซต์ฟ็อกซ์นิวส์ รายงานว่า ครอบครัวชาวอเมริกันจากรัฐเซาท์แคโรไลนา เดินหน้าฟ้องร้องสายการบินอเมริกันแอร์ไลน์ส หลังจากที่ บริททานี ออสเวลล์ วัย 25 ปี ลูกสาวของพวกเขา มีอาการหัวใจล้มเหลวบนเครื่องบิน แต่กัปตันไม่ยอมนำเครื่องบินลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินใกล้เคียง ทั้งที่แพทย์และลูกเรือเอ่ยปากขอร้อง จนเป็นเหตุให้บริททานีเสียชีวิตในที่สุด

ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้น ขณะที่เครื่องบินบินอยู่เหนือท้องฟ้าเมืองแอลบูเคอร์กี ในรัฐนิวเม็กซิโก บริททานีก็มีอาการไม่ค่อยดีอีกครั้ง โครีจึงประคองเธอไปห้องน้ำ ซึ่งเธอก็ได้อาเจียนและอุจจาระรดตัวเอง หมอคนเดิมได้มาดูอาการเธออีกครั้ง เขาเห็นว่าท่าไม่ดีแล้ว จึงบอกให้ลูกเรือไปแจ้งกัปตันว่ามีผู้โดยสารไม่สบาย ขอให้ทำการลงจอดฉุกเฉิน เพื่อให้เธอได้รับการรักษา แต่กัปตันปฏิเสธ หมอท่านนี้จึงเข้าไปคุยกับกัปตันด้วยตัวเองและอธิบายว่าบริททานีอาการไม่สู้ดี กัปตันจึงปรึกษากับแพทย์ที่ภาคพื้นดินและตัดสินใจไม่นำเครื่องลงจอด โดยบินตรงไปยังสนามบินฟอร์ตดัลลัสตามจุดมุ่งหมายเดิม ซึ่งใช้เวลาเดินทาง 90 นาที

เมื่อกัปตันไม่นำเครื่องบินลงจอด หมอจึงกลับมาดูบริททานีและพยายามช่วยเหลือเธอเท่าที่เขาจะทำได้ แต่เขากลับพบว่าอุปกรณ์การแพทย์หลายชิ้นดันใช้งานไม่ได้ เครื่องวัดความดันก็เสียและหน้าจอก็ขึ้นข้อความว่าขัดข้อง ตอนนั้นชีพจรของบริททานีไม่เต้นแล้ว หมอรีบใช้เครื่องปั๊มหัวใจแบบไฟฟ้าเพื่อกู้ชีพบริททานี แต่หลังจากทำไป 3 ครั้ง ก็ไม่เป็นผล เขาและลูกเรือจึงช่วยกันทำ CPR ให้บริททานี แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเช่นกัน

ภาพจาก Art Konovalov / Shutterstock.com
บริททานีทำงานเป็นพยาบาล ส่วนโครี สามีของเธอเป็นทหาร พวกเขาเพิ่งแต่งงานกันได้ไม่นาน และการเสียชีวิตของเธอนำมาซึ่งความโศกเศร้าอย่างยิ่งแก่ครอบครัว และเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ไม่กี่วันหลังจากครบรอบ 2 ปี ของการจากไปของบริททานี ครอบครัวของเธอได้ยื่นเรื่องฟ้องร้องดำเนินคดีกับสายการบินอเมริกันแอร์ไลน์ส โทษฐานปล่อยปละละเลยจนเป็นเหตุให้บริททานีถึงแก่ความตาย โดย แบรด แครนชอว์ ทนายความของครอบครัวบริททานี กล่าวว่า "มันเป็นโศกนาฏกรรมที่เลวร้าย เราไม่สามารถเดินทางย้อนเวลาได้ สายการบินก็ชุบชีวิตภรรยาของโครีกลับมาไม่ได้เช่นกัน แต่สิ่งที่พวกเราต้องการรู้ก็คือ พวกเขาจะรับผิดชอบอย่างไร"
ด้านโฆษกของสายการบินอเมริกันแอร์ไลน์ส กล่าวว่า ความปลอดภัยของผู้โดยสารคือสิ่งที่สายการบินให้ความสำคัญอย่างยิ่งมาโดยตลอด และในขณะนี้ สายการบินกำลังตรวจสอบรายละเอียดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Brittany Jasmine