Thailand Web Stat

พยาบาลสาวดับสลดบนเครื่อง หลังกัปตันไม่ยอมลงจอดฉุกเฉิน แม้แพทย์ขอร้อง


ผู้โดยสารเสียชีวิตบนเครื่องบิน

           สุดเศร้า พยาบาลและเจ้าสาวป้ายแดง วัย 25 ปี หมดสติและหัวใจหยุดเต้นบนเครื่องบินอเมริกันแอร์ไลน์ส แต่กัปตันไม่ยอมนำเครื่องลงจอดฉุกเฉิน แม้แพทย์ขอร้อง จนสุดท้ายเสียชีวิต ด้านครอบครัวเดินหน้าฟ้องร้องแล้ว โทษฐานปล่อยปละละเลย จนชีวิตหนึ่งต้องจากไป

           วันที่ 27 เมษายน 2561 เว็บไซต์ฟ็อกซ์นิวส์ รายงานว่า ครอบครัวชาวอเมริกันจากรัฐเซาท์แคโรไลนา เดินหน้าฟ้องร้องสายการบินอเมริกันแอร์ไลน์ส หลังจากที่ บริททานี ออสเวลล์ วัย 25 ปี ลูกสาวของพวกเขา มีอาการหัวใจล้มเหลวบนเครื่องบิน แต่กัปตันไม่ยอมนำเครื่องบินลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินใกล้เคียง ทั้งที่แพทย์และลูกเรือเอ่ยปากขอร้อง จนเป็นเหตุให้บริททานีเสียชีวิตในที่สุด

ผู้โดยสารเสียชีวิตบนเครื่องบิน
           เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 เมษายน 2559 โดย บริททานี และ โครี ออสเวลล์ สามีของเธอ โดยสารเครื่องบินของสายการบินอเมริกันแอร์ไลน์ส เที่ยวบินที่ A102 ออกจากรัฐฮาวาย มุ่งหน้าสู่เมืองดัลลัส รัฐเทกซัส ซึ่งหลังจากที่ออกเดินทางได้ไม่นาน บริททานีก็มีอาการหน้ามืด เวียนศีรษะ และเป็นลม บนเที่ยวบินดังกล่าวมีหมอเดินทางไปด้วย เขามาช่วยดูแลอาการของบริททานี เมื่อเธอได้สติ เขาก็พูดคุยสอบถามเธอว่าเป็นอย่างไรบ้าง และคิดว่าอาการของเธอมีผลมาจากความตื่นตระหนกนั่นเอง

           ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้น ขณะที่เครื่องบินบินอยู่เหนือท้องฟ้าเมืองแอลบูเคอร์กี ในรัฐนิวเม็กซิโก บริททานีก็มีอาการไม่ค่อยดีอีกครั้ง โครีจึงประคองเธอไปห้องน้ำ ซึ่งเธอก็ได้อาเจียนและอุจจาระรดตัวเอง หมอคนเดิมได้มาดูอาการเธออีกครั้ง เขาเห็นว่าท่าไม่ดีแล้ว จึงบอกให้ลูกเรือไปแจ้งกัปตันว่ามีผู้โดยสารไม่สบาย ขอให้ทำการลงจอดฉุกเฉิน เพื่อให้เธอได้รับการรักษา แต่กัปตันปฏิเสธ หมอท่านนี้จึงเข้าไปคุยกับกัปตันด้วยตัวเองและอธิบายว่าบริททานีอาการไม่สู้ดี กัปตันจึงปรึกษากับแพทย์ที่ภาคพื้นดินและตัดสินใจไม่นำเครื่องลงจอด โดยบินตรงไปยังสนามบินฟอร์ตดัลลัสตามจุดมุ่งหมายเดิม ซึ่งใช้เวลาเดินทาง 90 นาที

ผู้โดยสารเสียชีวิตบนเครื่องบิน

           เมื่อกัปตันไม่นำเครื่องบินลงจอด หมอจึงกลับมาดูบริททานีและพยายามช่วยเหลือเธอเท่าที่เขาจะทำได้ แต่เขากลับพบว่าอุปกรณ์การแพทย์หลายชิ้นดันใช้งานไม่ได้ เครื่องวัดความดันก็เสียและหน้าจอก็ขึ้นข้อความว่าขัดข้อง ตอนนั้นชีพจรของบริททานีไม่เต้นแล้ว หมอรีบใช้เครื่องปั๊มหัวใจแบบไฟฟ้าเพื่อกู้ชีพบริททานี แต่หลังจากทำไป 3 ครั้ง ก็ไม่เป็นผล เขาและลูกเรือจึงช่วยกันทำ CPR ให้บริททานี แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเช่นกัน


           หลังจากเครื่องบินลงจอดที่ดัลลัส บริททานีถูกนำตัวไปรักษาที่ศูนย์การแพทย์เบย์เลอร์ และ 3 วันหลังจากนั้น แพทย์พบว่าบริททานีมีอาการสมองตาย พวกเขาจึงทำการถอดเครื่องช่วยหายใจออก สำหรับสาเหตุการเสียชีวิตของเธอ แพทย์ระบุว่าเกิดจากอาการลิ่มเลือดอุดตันในปอด (Pulmonary Embolism) และ กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด (Cardiogenic Shock)

ผู้โดยสารเสียชีวิตบนเครื่องบิน
ภาพจาก Art Konovalov / Shutterstock.com

           บริททานีทำงานเป็นพยาบาล ส่วนโครี สามีของเธอเป็นทหาร พวกเขาเพิ่งแต่งงานกันได้ไม่นาน และการเสียชีวิตของเธอนำมาซึ่งความโศกเศร้าอย่างยิ่งแก่ครอบครัว และเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ไม่กี่วันหลังจากครบรอบ 2 ปี ของการจากไปของบริททานี ครอบครัวของเธอได้ยื่นเรื่องฟ้องร้องดำเนินคดีกับสายการบินอเมริกันแอร์ไลน์ส โทษฐานปล่อยปละละเลยจนเป็นเหตุให้บริททานีถึงแก่ความตาย โดย แบรด แครนชอว์ ทนายความของครอบครัวบริททานี กล่าวว่า "มันเป็นโศกนาฏกรรมที่เลวร้าย เราไม่สามารถเดินทางย้อนเวลาได้ สายการบินก็ชุบชีวิตภรรยาของโครีกลับมาไม่ได้เช่นกัน แต่สิ่งที่พวกเราต้องการรู้ก็คือ พวกเขาจะรับผิดชอบอย่างไร"

           ด้านโฆษกของสายการบินอเมริกันแอร์ไลน์ส กล่าวว่า ความปลอดภัยของผู้โดยสารคือสิ่งที่สายการบินให้ความสำคัญอย่างยิ่งมาโดยตลอด และในขณะนี้ สายการบินกำลังตรวจสอบรายละเอียดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Brittany Jasmine

 
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
พยาบาลสาวดับสลดบนเครื่อง หลังกัปตันไม่ยอมลงจอดฉุกเฉิน แม้แพทย์ขอร้อง อัปเดตล่าสุด 27 เมษายน 2561 เวลา 16:58:53 52,189 อ่าน
TOP
x close