เผยภาพหมอ-ชาวบ้าน ช่วยวาฬเกยตื้น เชื่อแม้ป่วยวิกฤต แต่ยังมีโอกาสรอด แต่ความหวังดับลง เมื่อมันตาย แถมพบถุงพลาสติกในกระเพาะกว่า 8 กิโลกรัม วอนมนุษย์หยุดมักง่าย
ด้านสมาชิกเฟซบุ๊กรายอื่น ๆ ต่างแสดงความคิดเห็นเศร้าสลด และตั้งคำถามว่าเมื่อไรจะมีการลดใช้พลาสติก หรือเมื่อไร มนุษย์จะเห็นความสำคัญของการกำจัดขยะพลาสติก ทำให้สิ่งแวดล้อมเสื่อมโทรม และสัตว์หลายชนิดต้องตายเพราะความมักง่ายของมนุษย์
วันที่ 2 มิถุนายน 2561 เฟซบุ๊ก Watchara Sakornwimon ได้โพสต์ภาพและข้อความระบุว่า...
"ตั้งแต่เป็นหมอมาไม่เคยรู้สึกแย่เท่านี้เลยทุกครั้งที่มีโลมาหรือวาฬเกยตื้นเราจะทำใจแล้วว่าอาการสัตว์เหล่านี้คือวิกฤตโอกาสรอดน้อย ทุกครั้งมันคือความท้าทายที่จะช่วยมันให้รอดแม้ว่าบางครั้งจะจบด้วยการชันสูตรก็ตามที ครั้งนี้เป็นครั้งที่ปวดใจที่สุดเมื่อก่อนตายมันขย้อนเอาถุงพลาสติกออกมา 5 ชิ้น แต่ที่ปวดใจยิ่งกว่าคือการเจอขยะในกระเพาะ 8 กิโลกรัมหรือขยะกว่า 80 ชิ้น ถึงแม้ว่าเจ้าวาฬนำร่องครีบสั้นจะป่วยแต่ถ้าไม่กินขยะเข้าไปด้วยโอกาสรอดคงเพิ่มขึ้น เศร้าว่ะเมื่อคนยังเป็นผู้ฆ่าสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ด้วยความมักง่าย
#ขอบคุณทุกคนจริง ๆ ที่อดหลับอดนอนเฝ้ากันและช่วยกันผ่าซากจนข้ามวัน และชาวบ้านและคนในพื้นที่ที่ช่วยอำนวยความสะดวกทุกอย่าง #ขอโทษด้วยนะวาฬนำร่องตัวแรกในชีวิต"
"ตั้งแต่เป็นหมอมาไม่เคยรู้สึกแย่เท่านี้เลยทุกครั้งที่มีโลมาหรือวาฬเกยตื้นเราจะทำใจแล้วว่าอาการสัตว์เหล่านี้คือวิกฤตโอกาสรอดน้อย ทุกครั้งมันคือความท้าทายที่จะช่วยมันให้รอดแม้ว่าบางครั้งจะจบด้วยการชันสูตรก็ตามที ครั้งนี้เป็นครั้งที่ปวดใจที่สุดเมื่อก่อนตายมันขย้อนเอาถุงพลาสติกออกมา 5 ชิ้น แต่ที่ปวดใจยิ่งกว่าคือการเจอขยะในกระเพาะ 8 กิโลกรัมหรือขยะกว่า 80 ชิ้น ถึงแม้ว่าเจ้าวาฬนำร่องครีบสั้นจะป่วยแต่ถ้าไม่กินขยะเข้าไปด้วยโอกาสรอดคงเพิ่มขึ้น เศร้าว่ะเมื่อคนยังเป็นผู้ฆ่าสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ด้วยความมักง่าย
#ขอบคุณทุกคนจริง ๆ ที่อดหลับอดนอนเฝ้ากันและช่วยกันผ่าซากจนข้ามวัน และชาวบ้านและคนในพื้นที่ที่ช่วยอำนวยความสะดวกทุกอย่าง #ขอโทษด้วยนะวาฬนำร่องตัวแรกในชีวิต"
ขณะที่เพจ Drama-addict ได้แชร์โพสต์ดังกล่าว พร้อมระบุว่า ในขณะที่ตอนนี้สื่อตีข่าวขยะพลาสติกที่นำเข้ามากำจัดในไทยแบบผิดกฎหมาย จากภาพดังกล่าวนี้ชี้ให้เห็นแล้วว่า ปัญหาขยะพลาสติกในท้องทะเลก็วิกฤตไม่แพ้กันเลย
ด้าน ผศ. ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat ระบุเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวว่า ความตายของวาฬเกิดจากความไม่ใส่ใจของเรา สิ่งที่ต้องมีตอนนี้คือความเปลี่ยนแปลงจากกระแสสังคมที่ไม่ใช่แค่ความสงสาร ถุงพลาสติก 80 ใบ น้ำหนักรวม 8 กิโลกรัมนี้เองคือสาเหตุที่ฆ่าวาฬตัวนี้ แม้ว่าตนจะพยายามทำทุกวิถีทางในการยกระดับการช่วยสัตว์ทะเล แต่ตนหรือโครงการใด ๆ ก็ไม่มีทางช่วยสัตว์หายากที่ตายเพราะขยะพลาสติกเต็มทะเลไทยได้
ด้าน ผศ. ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat ระบุเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวว่า ความตายของวาฬเกิดจากความไม่ใส่ใจของเรา สิ่งที่ต้องมีตอนนี้คือความเปลี่ยนแปลงจากกระแสสังคมที่ไม่ใช่แค่ความสงสาร ถุงพลาสติก 80 ใบ น้ำหนักรวม 8 กิโลกรัมนี้เองคือสาเหตุที่ฆ่าวาฬตัวนี้ แม้ว่าตนจะพยายามทำทุกวิถีทางในการยกระดับการช่วยสัตว์ทะเล แต่ตนหรือโครงการใด ๆ ก็ไม่มีทางช่วยสัตว์หายากที่ตายเพราะขยะพลาสติกเต็มทะเลไทยได้
ด้านสมาชิกเฟซบุ๊กรายอื่น ๆ ต่างแสดงความคิดเห็นเศร้าสลด และตั้งคำถามว่าเมื่อไรจะมีการลดใช้พลาสติก หรือเมื่อไร มนุษย์จะเห็นความสำคัญของการกำจัดขยะพลาสติก ทำให้สิ่งแวดล้อมเสื่อมโทรม และสัตว์หลายชนิดต้องตายเพราะความมักง่ายของมนุษย์