พล.อ. ประวิตร ยอมรับว่า มีการกักตัวอดีตพระพรหมเมธี ที่เยอรมนีจริง - ตำรวจไทยยังไม่เจอหน้า

กรณีข่าวทุจริตเงินทอนวัด ที่มีพระเถระผู้ใหญ่ 5 รูป
จากวัดดังถูกออกหมายจับ หนึ่งในนั้นคือ อดีตพระพรหมเมธี
อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร
ที่ก่อนหน้านี้อยู่ระหว่างการหลบหนี ก่อนถูกจับที่ประเทศเยอรมนี
เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2561 โดยรายงานระบุว่า สาเหตุที่อดีตพระพรหมเมธี
ตัดสินใจหลบหนีเดินทางเข้าประเทศเยอรมนีนั้น
มีเป้าหมายไปยังสำนักงานผู้อพยพและผู้ลี้ภัย
เพื่อขอยื่นเรื่องเป็นผู้ลี้ภัย
ล่าสุด (4 มิถุนายน 2561) เดลินิวส์ รายงานความเคลื่อนไหวที่เมืองแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี ว่า พล.ต.อ.
จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พร้อมคณะ
อยู่ระหว่างประสานความร่วมมือกับทางการเยอรมนี
ในการขอตัวอดีตพระพรหมเมธีกลับไปดำเนินคดี
ซึ่งทันทีที่อดีตพระพรหมเมธีลงเครื่องบิน
ได้ยื่นขอลี้ภัยกับทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองภายในสนามบิน
ก่อนพบว่า
อดีตพระพรหมเมธี เป็นบุคคลตามหมายจับของประเทศไทย
จึงประสานมายังประเทศไทยให้ทราบถึงการเดินทาง
แต่ขั้นตอนการขอลี้ภัยยังคงอยู่ระหว่างการพิจารณาของหน่วยงานที่รับผิดชอบของเยอรมนี
ว่าจะพิจารณาให้สิทธิรับรองสถานะผู้ลี้ภัยกับอดีตพระพรหมเมธีหรือไม่
หากไม่ให้สิทธิ ทางการไทยสามารถรับตัวกลับไปดำเนินคดีทันที

ด้าน
พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
กล่าวว่า ทางการเยอรมนี ได้กักตัวอดีตพระพรหมเมธี ไว้จริง
แต่ทางเรายังไม่เจอตัว ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า ผบ.ตร.
จะนำตัวอดีตพระพรหมเมธีกลับประเทศไทยวันที่ 6 มิถุนายน ตนไม่รู้

ขณะที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็เผยว่า ยังไม่ได้รับรายงานเรื่องนี้
สำหรับการขอลี้ภัยนั้น
กระทรวงการต่างประเทศ แจงว่า เป็นสิทธิของบุคคล
ที่จะขอรัฐบาลของประเทศใดประเทศหนึ่งเพื่อลี้ภัย
โดยจะต้องยื่นแบบฟอร์มตามที่กฎหมายของประเทศปลายทางกำหนด
ขณะที่มีการเข้าประเทศนั้น ๆ
ส่วนรัฐบาลของประเทศที่บุคคลผู้นั้นเป็นพลเมืองอยู่
ไม่สามารถห้ามคำขอดังกล่าวได้

ซึ่งรัฐบาลของประเทศที่ถูกร้องขอลี้ภัยมีสิทธิ์ที่จะให้หรือไม่ให้ก็ได้ ขึ้นอยู่กับนโยบายหรือกฎหมายของประเทศนั้น ๆ ว่ามีหลักเกณฑ์การรับคำขอลี้ภัยทางการเมืองเป็นอย่างไร รวมถึงปัจจัยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ หรือความสัมพันธ์ระหว่างประเทศด้วย ซึ่งผู้ร้องไม่สามารถเอาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของประเทศบ้านเกิด ไปต่อรองกับประเทศปลายทางได้ เนื่องจากการขอลี้ภัยเป็นการกระทำโดยส่วนตัว
อย่างไรก็ตาม
รายงานระบุว่า ทางเจ้าหน้าที่ไทยจะยื่นต่อศาลประเทศเยอรมนี ว่า
เป็นคดีฟอกเงิน และทางศาลจะต้องใช้เวลาพิจารณาอย่างน้อย 3 เดือน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก