x close

ฟัง เรืองฤทธิ์ - ผู้จัดการทีม สอยคนละหมัด แบบหนังคนละม้วน ดราม่าตัดตัวทีมชาติ

          ผู้จัดการทีมฟันดาบชุดเอเชียนเกมส์ เผยเหตุผลที่ต้องเปลี่ยนตัวเรืองฤทธิ์ อิงจากอันดับ Rankings การแข่งขันเวิลด์แชมเปี้ยนชิพ 2018 ยันทุกการตัดสินใจทำเพื่อส่วนรวม ด้านเรืองฤทธิ์ แหเกิด นักกีฬาฟันดาบทีมชาติไทย ออกมาแย้ง อันดับที่อ้างถึงเป็นเพียงลำดับชื่อนักกีฬาเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับคะแนนการแข่งขัน ชี้อยากให้ออกมาแก้ไขมากกว่าแก้ต่าง..
เอเชียนเกมส์ 2018
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Thai PBS

           จากกรณีที่ เรืองฤทธิ์ แหเกิด หรือ โอ๊ต นักกีฬาฟันดาบทีมชาติไทย ได้มีการโพสต์ระบายลงในเฟซบุ๊ก FasTer Fog Haekerd ถึงความไม่ชอบธรรม หลังโดนผู้จัดการทีมฟันดาบตัดชื่อไม่ให้ลงแข่ง เอเชียนเกมส์ 2018 กะทันหัน ทั้งที่เก็บ Rankings จนเป็นที่ 1 ของประเทศ และยังคัดตัวได้ที่ 1 อีกเช่นกัน พร้อมกับเผยว่า ตนไม่เข้าใจว่าทำไมถึงถูกตัดชื่อออก และยืนยันว่าไม่ได้ทำอะไรผิดกฎระเบียบของสมาคมแน่นอน (อ่านข่าว : นักกีฬาฟันดาบมือ 1 ของไทย เปิดใจ หลังโดนตัดชื่อแข่งเอเชียนเกมส์ 2018)

           วันที่ 21 สิงหาคม 2561 เฟซบุ๊ก Thai PBS ได้ถ่ายทอดสดสัมภาษณ์ นายชัยณภนท์ อเนกเวียง ผู้จัดการทีมฟันดาบชุดเอเชียนเกมส์ เปิดเผยว่า การเปลี่ยนตัวนักกีฬาเป็นอำนาจของผู้จัดการทีม และไม่ได้เปลี่ยนตามใจตัวเอง แต่ใช้คะแนนจัดอันดับของโลกเป็นหลัก โดยนักกีฬาที่เปลี่ยนให้ลงแข่งแทนคือ สรวิศ กิจศิริบุญ ซึ่งอยู่ที่อันดับที่ 74 ส่วนเรืองฤทธิ์ แหเกิด อยู่อันดับที่ 93 ของการแข่งขันชิงแชมป์โลก World Fencing Championships Wuxi 2018 ที่ประเทศจีน เมื่อเดือนกรกฎาคม 2561 ตนจำเป็นต้องเปลี่ยนตัวเพื่อให้นักกีฬามีความกระตือรือร้นที่จะฝึกซ้อมมากขึ้น ไม่ใช่ติดทีมชาติ แล้วก็ไม่ฝึกซ้อมอะไรเลย ซึ่งตนบอกนักกีฬาเสมอว่า ทุกการแข่งขันมีผลกับแมตช์หน้า ถ้าแมตช์นี้ทำได้ไม่ดี แมตช์หน้าก็อาจไม่ได้ลงแข่ง ส่วนเรืองฤทธิ์คงไม่ค่อยพอใจตน เพราะเขาเสียประโยชน์กับเรื่องนี้ และตนก็ถูกสังคมประณามว่าเป็นผู้ใหญ่รังแกเด็ก ซึ่งตนขอยืนยันว่าทุกอย่างที่ทำไปนั้น ยึดเอาประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก

เอเชียนเกมส์ 2018
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Thai PBS

           นอกจากนี้ นายชัยณภนท์ ยังบอกอีกว่า เรืองฤทธิ์เป็นนักกีฬาที่น่ารัก ส่วนตัวไม่เคยมีปัญหาอะไรต่อกัน แต่หากดูจากอันดับโลกแล้ว ตนก็ต้องทำเช่นนี้ ถึงแม้ว่าตนจะเสียความรู้สึกก็ตาม จากข่าวที่เป็นกระแสอยู่นี้ ทำให้ครอบครัวของตนถึงกับร้องไห้เรื่องที่ตนเปลี่ยนตัวนักกีฬา จนทำให้สังคมต่อว่าตนไปต่าง ๆ นานา ตนจึงต้องออกมาอธิบายเพื่อปกป้องตัวเอง ซึ่งตนมั่นใจว่าสิ่งที่ทำไปทำเพื่อส่วนรวม และทำถูกต้องแล้ว ซึ่งไม่มีเรื่องเส้นสายเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างแน่นอน โดยเรื่องนี้มีผู้ใหญ่ออกมาตำหนิตนที่ไม่ปรึกษาก่อนตัดสินใจ แต่ตนยืนยันว่ามีการปรึกษาผู้ใหญ่แล้ว แต่ไม่ทุกคนเท่านั้นเอง ส่วนใครที่สงสัยเรื่องอันดับ Rankings สามารถเข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์ Fencingtimelive.com ซึ่งตนใช้อันดับจากตรงนี้เป็นหลักในการเปลี่ยนแปลง

เอเชียนเกมส์ 2018
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Thai PBS

           ความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับเรื่องนี้ (21 สิงหาคม 2561) นายเรืองฤทธิ์ แหเกิด หรือ โอ๊ต ก็ได้ให้สัมภาษณ์ผ่าน เฟซบุ๊ก Thai PBS เปิดเผยว่า ตนเพิ่งทราบเรื่องที่ผู้จัดการทีมได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ และยังมีหลายประเด็นที่ยังไม่ชัดเจน ซึ่งการที่ผู้จัดการทีมบอกว่าอ้างอิงอันดับจาก World Fencing Championships Wuxi 2018 นั้น ความจริงแล้ว ตนซึ่งอยู่ในมือวางอันดับ 1 ของตาราง สมาคมนักกีฬาฟันดาบของไทย กับสรวิศ กิจศิริบุญ ซึ่งอยู่อันดับที่ 44 ตกรอบเดียวกันคือรอบ 128 คน และมีคะแนนเท่ากัน ส่วนตารางอันดับที่ผู้จัดการได้นำมาชี้แจงต่อสื่อนั้น เป็นเพียงลำดับของนักกีฬา ไม่ได้เรียงตามคะแนนการแข่งขัน ตนจึงไม่เข้าใจว่าถ้าผู้จัดการทีมจะใช้การแข่งขัน World Fencing Championships ในการตัดสิน จะจัดให้มีการคัดเลือกตัวนักกีฬาเอเชียนเกมส์เพื่อหานักกีฬาตัวจริง และตัวสำรองเพื่ออะไร


           อีกทั้งผู้จัดการทีมไม่มีการแจ้งนักกีฬาล่วงหน้าว่าจะใช้การแข่งขันที่จีนเป็นการตัดสินคัดเลือกนักกีฬา นอกจากนี้ ตนยังรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมสุด ๆ เนื่องจากมีการเปลี่ยนตัวนักกีฬาก่อนที่จะแจ้งให้ตนทราบ และตนทราบเรื่องในเวลาไม่ถึง 12 ชั่วโมงก่อนการแข่งขันเท่านั้น ทำให้บั่นทอนจิตใจตนอย่างมาก แต่ตนก็ได้รับกำลังใจที่ดีจากคนรอบข้าง และยังมีเป้าหมายที่จะต้องลงแข่งขันประเภททีม จึงจะพยายามทำสภาพจิตใจตัวเองให้ดีขึ้น และจะพยายามแข่งขันให้ดีที่สุด

           นอกจากนี้ โอ๊ต ยังบอกอีกว่า ทางโค้ชได้บอกตนว่าผู้จัดการทีมไม่ได้มีการปรึกษาเรื่องที่จะเปลี่ยนตัวนักกีฬามาก่อน ทุกคนก็งงกับเรื่องที่เกิดขึ้นมาก และโค้ชเพิ่งทราบเรื่องพร้อมกับตน โดยโอ๊ตยืนยันว่า ไม่เคยมีปัญหากับผู้จัดการทีม เพียงแต่อยากทราบเหตุผลที่แท้จริงเท่านั้น และเรื่องที่ผู้จัดการทีมออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อ ตนก็มีหลักฐานที่จะโต้แย้ง เพราะการแข่งขันทุกอย่างมีลายลักษณ์อักษรชัดเจน

           ทั้งนี้ ตนต้องการมาแข่งขันในฐานะนักกีฬาเท่านั้น ไม่ได้ต้องการต่อสู้หรือเอาชนะ ตนเชื่อในความสามารถของตัวเอง และเชื่อในความถูกต้อง จึงอยากให้ทุกคนแก้ไขเรื่องที่เกิดขึ้นมากกว่าแก้ต่าง

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
,

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ฟัง เรืองฤทธิ์ - ผู้จัดการทีม สอยคนละหมัด แบบหนังคนละม้วน ดราม่าตัดตัวทีมชาติ อัปเดตล่าสุด 23 สิงหาคม 2561 เวลา 15:32:53 29,755 อ่าน
TOP