ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 รับห่วงปัญหาป่าแนวชายแดน คาด อาก้ายิงช้างป่าพนมดงรัก ฝีมือแก๊งมอดไม้บุกรุกตัดไม้ทำลายป่า ฆ่าสัตว์ ไม่เกรงกลัวทางการไทย เชื่อมีนายทุนใหญ่หนุนหลัง
ภาพจาก Workpoint News
อย่างไรก็ตาม ตนหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะมีการออกตระเวนร่วมกันทั้ง 3 ประเทศเพื่อรักษาป่าไม้และสัตว์ป่าไว้ให้ได้มากที่สุด
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
ภาพจาก Workpoint News
จากกรณีที่มีการพบซากช้างป่า เพศผู้ บริเวณน้ำตกห้วยทรายใหญ่ หรือน้ำตกแก่งอีเขียว เทือกเขาพนมดงรัก จ.อุบลราชธานี ถูกยิงด้วยกระสุนปืนอาก้า (AK47) และมีภาพคนแต่งกายคล้ายทหารพกอาวุธปืนและเครื่องจับพิกัด GPS ปรากฏอยู่ ซึ่งต่อมา พล.ต.อ. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. เผยว่า อาวุธปืนอาก้ารุ่นนี้ ไม่มีในไทย เร่งประสานประเทศเพื่อนบ้านร่วมตรวจสอบแล้วนั้น (อ่านข่าว : รอง ผบ.ตร. ชี้อาก้ายิงช้างป่าพนมดงรัก ไม่มีในไทย-ประสานเพื่อนบ้านตรวจสอบ)
เกี่ยวกับเรื่องนี้ (17 พฤศจิกายน 2561) เดลินิวส์ออนไลน์ รายงานบทสัมภาษณ์ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) ถึงการพบซากช้างป่าดังกล่าว ว่า ถือเป็นกรณีตัวอย่างที่เจ้าหน้าที่จะต้องดูแลป่าไม้และเข้มงวดในการลาดตระเวนมากขึ้น ไม่เช่นนั้นจะเกิดเหตุลักษณะแบบนี้อีกเรื่อย ๆ
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบกล้องที่จับภาพชายใส่ชุดทหาร ก็จะทราบทันทีว่า ชายคนที่ถูกถ่ายภาพรู้ตัวว่าโดนถ่าย แต่กลับไม่สนใจว่าอะไรจะเกิดขึ้น นั่นแสดงว่าคนเหล่านี้มีคนหนุนหลัง จึงไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น แต่หลังจากที่มีข่าวออกไป เชื่อว่าคนกลุ่มนี้คงระวังกล้องมากขึ้นอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ตนหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะมีการออกตระเวนร่วมกันทั้ง 3 ประเทศเพื่อรักษาป่าไม้และสัตว์ป่าไว้ให้ได้มากที่สุด
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก