เด็กชายชาวจีน วัย 12 ปี ใช้มีดกระหน่ำแทงแม่กว่า 20 แผล หลังจากแม่จับได้ว่าสูบบุหรี่ แล้วทุบตีลงโทษ ทางด้านพ่อไม่รู้เรื่อง กลับบ้านมาอีกที เจอภรรยานอนเสียชีวิตจมกองเลือด
วันที่ 14 ธันวาคม 2561 เว็บไซต์อินดิเพนเดนท์ รายงานว่า อู๋ (สงวนนาม) เด็กชายชาวจีน วัย 12 ปี ได้ก่อเหตุฆาตกรรม นางเฉิน ซิน แม่แท้ ๆ ของเขา หลังจากที่เธอจับได้ว่าเขาแอบสูบบุหรี่ โดยก่อนเกิดเหตุ ทั้งสองคนได้มีปากเสียงทะเลาะกันอย่างรุนแรงมาก แม่ได้ตีลูกชายเป็นการสั่งสอนหลายครั้ง เด็กชายไม่พอใจมาก และคว้ามีดมากระหน่ำแทงแม่จนเสียชีวิต หลังจากนั้นก็ทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น อีกทั้งยังโทร. ไปลาป่วยที่โรงเรียน
เหตุการณ์สะเทือนขวัญดังกล่าว เกิดขึ้นที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในเมืองหวนเจียง มณฑลหูหนาน ทางตอนใต้ของประเทศจีน โดยในวันเกิดเหตุ ซินอยู่บ้านกับลูกแค่ 2 คน ส่วนสามีออกไปทำธุระข้างนอก เธอบังเอิญเห็นลูกชายกำลังสูบบุหรี่ เธอตกใจและไม่พอใจอย่างมาก ลากตัวเขาไปว่ากล่าวอย่างรุนแรง เด็กชายอู๋ไม่พอใจที่โดนแม่ต่อว่า จึงได้โต้เถียงกลับไป ซินโกรธมากและคว้าเข็มขัดมาฟาดลูกซ้ำ ๆ หลายครั้ง
อู๋โกรธแค้นที่ถูกแม่ตี เขาหยิบมีดมาจ้วงแทงแม่ และกระหน่ำแทงไปหลายครั้งจนเธอเสียชีวิต หลังจากแม่แน่นิ่งไปแล้ว อู๋ก็ตั้งสติ ใช้โทรศัพท์ของแม่ติดต่อไปที่โรงเรียน บอกครูว่าวันนี้เขาขอลาป่วย เพราะไม่สบาย เป็นไข้หวัด
ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นภายในบ้านหลังนี้ เด็กชายก็ไม่ได้หนีไปไหนหลังก่อเหตุ ยังคงอยู่ในบ้านกับศพแม่ จนกระทั่งในวันต่อมา พ่อของเด็กชาย เดินทางกลับมาถึงบ้าน เขาต้องตกตะลึงอย่างยิ่งที่เห็นศพภรรยานอนจมกองเลือดอยู่บนพื้น เขารีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจทันที และเจ้าหน้าที่ก็มาถึงในเวลาไม่นาน ตำรวจได้ทำการสอบสวนเด็กชายอู๋ ลูกชายของผู้เสียชีวิต เด็กชายบอกตำรวจไปว่าแม่ของเขาฆ่าตัวตาย ซึ่งเป็นการให้การที่ขัดต่อหลักฐาน เพราะสภาพศพของเธอเต็มไปด้วยบาดแผลถูกแทง รวมแล้วมากกว่า 20 แผล
อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่กระบวนการสืบสวนดำเนินไป เด็กชายก็ยอมรับสารภาพว่าเขาได้ลงมือฆ่าแม่เอง และเล่าเรื่องทุกอย่างให้ตำรวจฟังว่ามันเกิดอะไรขึ้น เขาถูกควบคุมตัวอยู่ 9 วัน และถูกปล่อยตัวเป็นอิสระโดยไม่ได้ถูกแจ้งข้อหา หรือดำเนินคดีใด ๆ เนื่องจากตามกฎหมายจีนนั้น เยาวชนอายุต่ำกว่า 13 ปี จะได้รับการยกเว้นจากการกระทำผิดทางอาญา ไม่สามารถเข้ารับการดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรมได้ และจะไม่ถูกส่งตัวเข้าสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน
แม้ว่าเด็กชายอู๋จะไม่ได้รับการลงโทษตามกฎหมาย แต่นั่นก็ไม่สามารถลบล้างสิ่งที่เขาทำได้ เหล่าพ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กนักเรียนที่โรงเรียนเดียวกับเขา ต่างก็หวาดกลัวและกังวลใจ ไม่อยากให้เขากลับมาเข้าเรียนร่วมกับบุตรหลานของพวกเขาอีก

วันที่ 14 ธันวาคม 2561 เว็บไซต์อินดิเพนเดนท์ รายงานว่า อู๋ (สงวนนาม) เด็กชายชาวจีน วัย 12 ปี ได้ก่อเหตุฆาตกรรม นางเฉิน ซิน แม่แท้ ๆ ของเขา หลังจากที่เธอจับได้ว่าเขาแอบสูบบุหรี่ โดยก่อนเกิดเหตุ ทั้งสองคนได้มีปากเสียงทะเลาะกันอย่างรุนแรงมาก แม่ได้ตีลูกชายเป็นการสั่งสอนหลายครั้ง เด็กชายไม่พอใจมาก และคว้ามีดมากระหน่ำแทงแม่จนเสียชีวิต หลังจากนั้นก็ทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น อีกทั้งยังโทร. ไปลาป่วยที่โรงเรียน
เหตุการณ์สะเทือนขวัญดังกล่าว เกิดขึ้นที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในเมืองหวนเจียง มณฑลหูหนาน ทางตอนใต้ของประเทศจีน โดยในวันเกิดเหตุ ซินอยู่บ้านกับลูกแค่ 2 คน ส่วนสามีออกไปทำธุระข้างนอก เธอบังเอิญเห็นลูกชายกำลังสูบบุหรี่ เธอตกใจและไม่พอใจอย่างมาก ลากตัวเขาไปว่ากล่าวอย่างรุนแรง เด็กชายอู๋ไม่พอใจที่โดนแม่ต่อว่า จึงได้โต้เถียงกลับไป ซินโกรธมากและคว้าเข็มขัดมาฟาดลูกซ้ำ ๆ หลายครั้ง
อู๋โกรธแค้นที่ถูกแม่ตี เขาหยิบมีดมาจ้วงแทงแม่ และกระหน่ำแทงไปหลายครั้งจนเธอเสียชีวิต หลังจากแม่แน่นิ่งไปแล้ว อู๋ก็ตั้งสติ ใช้โทรศัพท์ของแม่ติดต่อไปที่โรงเรียน บอกครูว่าวันนี้เขาขอลาป่วย เพราะไม่สบาย เป็นไข้หวัด

ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นภายในบ้านหลังนี้ เด็กชายก็ไม่ได้หนีไปไหนหลังก่อเหตุ ยังคงอยู่ในบ้านกับศพแม่ จนกระทั่งในวันต่อมา พ่อของเด็กชาย เดินทางกลับมาถึงบ้าน เขาต้องตกตะลึงอย่างยิ่งที่เห็นศพภรรยานอนจมกองเลือดอยู่บนพื้น เขารีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจทันที และเจ้าหน้าที่ก็มาถึงในเวลาไม่นาน ตำรวจได้ทำการสอบสวนเด็กชายอู๋ ลูกชายของผู้เสียชีวิต เด็กชายบอกตำรวจไปว่าแม่ของเขาฆ่าตัวตาย ซึ่งเป็นการให้การที่ขัดต่อหลักฐาน เพราะสภาพศพของเธอเต็มไปด้วยบาดแผลถูกแทง รวมแล้วมากกว่า 20 แผล
อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่กระบวนการสืบสวนดำเนินไป เด็กชายก็ยอมรับสารภาพว่าเขาได้ลงมือฆ่าแม่เอง และเล่าเรื่องทุกอย่างให้ตำรวจฟังว่ามันเกิดอะไรขึ้น เขาถูกควบคุมตัวอยู่ 9 วัน และถูกปล่อยตัวเป็นอิสระโดยไม่ได้ถูกแจ้งข้อหา หรือดำเนินคดีใด ๆ เนื่องจากตามกฎหมายจีนนั้น เยาวชนอายุต่ำกว่า 13 ปี จะได้รับการยกเว้นจากการกระทำผิดทางอาญา ไม่สามารถเข้ารับการดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรมได้ และจะไม่ถูกส่งตัวเข้าสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน

แม้ว่าเด็กชายอู๋จะไม่ได้รับการลงโทษตามกฎหมาย แต่นั่นก็ไม่สามารถลบล้างสิ่งที่เขาทำได้ เหล่าพ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กนักเรียนที่โรงเรียนเดียวกับเขา ต่างก็หวาดกลัวและกังวลใจ ไม่อยากให้เขากลับมาเข้าเรียนร่วมกับบุตรหลานของพวกเขาอีก