คืบคดี 5 โจ๋รุมโทรมเด็กหญิงวัย 12 ปี อบต.ผึ้งรวง โต้ไม่ใช่คนเสนอเงินจบคดี ด้านพ่อเด็กหญิงวัย 12 รับผิดที่กระทืบวัยรุ่นที่ก่อเหตุ ปฏิเสธเรียกเงินค่าเสียหายจากคู่กรณี เล่าเหตุการณ์ลูกสาว เผยบางคนข่มขืนไม่สำเร็จ ก็ใช้นิ้วชำเราแทน
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์คลิปพร้อมเล่าเรื่องราวสุดสะเทือนใจ
วอนสื่อและโซเชียลช่วยเหลือ เนื่องจากลูกสาววัย 12 ปี ถูกวัยรุ่นชาย 5 คน
ฉุดไปรุมโทรมข่มขืน ภายในร้านทุกอย่าง 10 บาท
โดยผู้เป็นพ่อเกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรม
เนื่องจากญาติผู้ต้องหารายหนึ่งอ้างตัวเป็น อบต. พยายามยัดเงินให้จบเรื่อง
แต่ไม่ได้รับ และยืนยันจะเอาเรื่องถึงที่สุด
ด้านเพื่อนของกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุ
ก็ได้ออกมาเปิดเผยแผนการก่อเหตุดังกล่าวด้วยนั้น (อ่านข่าว : เพื่อนแฉ
เล่าเหตุการณ์แก๊งโจ๋รุมโทรม ด.ญ. วางแผนก่อนช่วยกันจับขึงพืด)
วันที่ 18 ธันวาคม 2561 รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่องอมรินทร์ ทีวี รายงานว่า นายสังวาลย์ สิทธิปัญญา อบต.ผึ้งรวง
อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี เปิดเผยว่า
ตนอยู่ในเหตุการณ์ตามคลิปทำร้ายร่างกาย
เนื่องจากพ่อของกลุ่มวัยรุ่นคนหนึ่งบอกให้เดินทางไปบ้านผู้เสียหายเป็นเพื่อน
โดยที่ตนยังไม่ทราบเรื่องราวทั้งหมด เมื่อไปถึงบ้านผู้เสียหาย
จึงพยายามสอบถามกับเด็กหญิง แต่แม่ของเด็กหญิงไม่ยอมให้คุยด้วย
จากนั้นก็เกิดการทำร้ายร่างกายกันตามคลิป
ซึ่งตนเกือบจะถูกพ่อของเด็กทำร้ายด้วยเช่นกัน
โดยตนยืนยันว่า
เรื่องเรียกเงิน 30,000 บาท เพื่อจบคดีนั้น
เป็นความคิดผู้ปกครองของผู้เสียหาย ตนไม่ได้เป็นผู้เสนอความคิดนี้
ต่อมาทราบว่า พ่อของกลุ่มวัยรุ่นอีกคนหนึ่ง
อ้างว่าจะจัดการเรื่องดังกล่าวเอง ทั้งนี้
ตนรู้จักกับครอบครัวของวัยรุ่นผู้ก่อเหตุที่ชื่อว่า เบียร์
แต่ในวันดังกล่าว ตนไม่ได้เดินทางไปเพื่อจะช่วยกลุ่มผู้ก่อเหตุ
ไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใด หากใครผิดก็ว่ากันไปตามผิด
ซึ่งหลังเกิดเรื่องก็รู้สึกหนักใจเพราะได้รับความเสียหาย
ถูกกล่าวหาว่าใช้อิทธิพล
ทั้งที่ตนไม่ใช่ผู้เสนอว่าจะให้มีการจ่ายเงินเพื่อจบคดี
ส่วนที่มีคนอ้างว่า ทางครอบครัวตนเป็นคนเรียกค่าเสียหายนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ตนไม่เคยเสนอให้มีการจ่ายเงินเพื่อยุติคดี ทุกอย่างต้องเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
ทั้งนี้ ตนทราบว่า ลูกสาวได้ไปที่ร้านทุกอย่าง 10 บาท เป็นเพื่อนรุ่นพี่ เนื่องจากรุ่นพี่จะไปหาแฟน แต่เมื่อไปถึงไม่พบแฟนหนุ่มของรุ่นพี่ ต่อมาวัยรุ่นชายกลุ่มนี้ก็ร่วมกันอุ้มลูกสาวเข้าไปในห้อง แล้วผลัดกันกระทำชำเรา คนแรกไม่สำเร็จ คนที่ 2 สำเร็จ และคนที่ 3, 4 และ 5 ไม่สำเร็จ อีกทั้งคนเหล่านี้ยังใช้นิ้วกระทำชำเราแทน หลังจากนั้นลูกสาวก็ไม่กล้าเข้าบ้าน จึงไปอาศัยกับเพื่อน กระทั่งผู้เป็นแม่ไปตามกลับบ้าน เมื่อคาดคั้นจึงทราบเรื่องราวทั้งหมด ก่อนพาไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลสระบุรี พบว่าที่อวัยวะเพศติดเชื้อ มีหนองไหลออกมา มีอาการปวดท้องและเซื่องซึม
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ด้าน น.ส.ยู (นามสมมติ)
อายุ 18 ปี เพื่อนบ้านร้านทุกอย่าง 10 บาท เปิดเผยว่า
คืนเกิดเหตุไม่มีใครได้ยินหรือเห็นเหตุการณ์เลย
อาจเพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นกลางดึก ยอมรับว่าร้านนี้มักมีวัยรุ่นมามั่วสุมกันประจำ และส่วนใหญ่เป็นเด็กที่ไม่เรียนหนังสือ
ทั้งนี้
น้องชายเล่าให้ตนฟังว่า วันเกิดเหตุได้ออกไปขี่รถเล่น และแวะไปร้านทุกอย่าง
10 บาท เมื่อไปถึงก็พบเพื่อนกำลังข่มขืนเด็กหญิงอยู่
จึงอยู่ในจุดเกิดเหตุด้วย แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้ร่วมข่มขืน
ซึ่งครอบครัวก็ยังไม่รู้จะต่อสู้คดีอย่างไร
เพื่อพิสูจน์ว่าน้องชายไม่ได้ร่วมก่อเหตุในครั้งนี้
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
นอกจากนี้
นายณัชพล สุพัฒนะ หรือ มาร์ค พิทบูล ได้เดินทางไปที่ สภ.เมืองสระบุรี
พร้อมกับชาวบ้านจำนวนหนึ่ง ระบุว่า ตนมาในฐานะประชาชน
เพื่อทวงถามความยุติธรรมให้กับเด็กหญิงวัย 12 ปี ที่ถูกรุมข่มขืน
ซึ่งเป็นคดีเตือนภัยสังคม เหตุเกิดขึ้นกลางเมืองใหญ่
และเกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรม
เนื่องจากตำรวจไปเร่งรัดคดีที่พ่อของผู้เสียหายทำร้ายร่างกายวัยรุ่นที่ก่อเหตุ
ทั้งที่เป็นการบันดาลโทสะและไม่พอใจที่ลูกสาวถูกข่มขืน
แต่ไม่มีการเร่งรัดคดีที่เด็กหญิงถูกล่วงละเมิดทางเพศ และคดีกลับเงียบไป
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก