ชายพิการอุ้มลูกขอทาน รับแล้วกดเงินบริจาคมาใช้เอง 5 พันบาท ปัดโกหกตำรวจ แค่ลืมบอก โต้ใช้เงินบริจาคซื้อตัวละครในเกม แต่ใช้เงินตัวเองซื้อ ชี้พาลูกกินร้านอาหารหรู เพราะคนเป็นพ่อต้องไม่อยู่เฉยถ้าลูกหิว
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
จากกรณีที่ นายขวัญ เผือกขวัญยืน
ชายพิการที่อุ้มลูกน้อยไปขอทานหน้าบีทีเอส
จนมีผู้เห็นใจช่วยเหลือบริจาคเงินให้กว่า 110,000 บาท ต่อมาไม่นาน
เจ้าตัวพบว่าเงินหายจากบัญชีเหลือเพียง 69 บาท ทั้งที่ไม่เคยกดเงินสักครั้ง
และคาดว่านายอิม คนสนิท เป็นผู้ขโมยไป
เนื่องจากอาจได้ยินรหัสบัตรเอทีเอ็มตอนที่คุยกับเจ้าหน้าที่ (อ่านข่าว : ชายพิการสุดช้ำ ถูกเพื่อนรักฉกเงินบริจาคนับแสนจากบัญชี รู้รหัสจากส้วม)
ทั้งนี้ นายอิม ออกมายืนยันว่าไม่ได้เอาเงินไป พร้อมแฉว่านายขวัญและลูกติดเกมมาก น่าจะกดเงินไปซื้อตัวละครในเกม ส่วนเจ้าของหอ ก็เผยว่านายขวัญยืมเงินไป 8,000 บาท และยังไม่ยอมคืนเงิน ขณะที่ภาพวงจรปิดจับภาพได้ว่านายขวัญเป็นคนไปกดเงินเองอีกด้วย (อ่านข่าว : ส่อพลิก ชายพิการแฉเพื่อนขโมยเงินบริจาคกว่าแสน ไหงวงจรปิดจับภาพ ย่องกดเงินเอง !!)
ล่าสุด (7 มกราคม 2562) รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่องอมรินทร์ ทีวี รายงานว่า นายขวัญ เผือกขวัญยืน ยอมรับว่า เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2561 ไปกดเงิน 5,000 บาท ตั้งใจว่าจะนำเงินไปซื้อพัดลม แต่ยังไม่ได้ซื้อเพราะนำไปใช้จ่ายอย่างอื่นก่อน ส่วนที่ไม่ได้บอกกับตำรวจว่าเคยกดเงินออกมา เป็นเพราะลืม และเพิ่งยอมรับกับตำรวจว่าเคยกดเงินออกมา เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2562 ซึ่งเป็นวันที่เจอกับตำรวจครั้งล่าสุด
นายขวัญ กล่าวอีกว่า เรื่องที่มีคนออกมาโจมตี กล่าวหาว่าลูกชายตนไม่ได้เรียนหนังสือ
ขอโต้กลับว่าลูกชายเรียนอยู่ชั้นเตรียมอนุบาล เพื่อที่จะเข้า ป.1 จริง ๆ
ถึงตนไม่ใช่คนดีอะไรมากมาย แต่ขอทำหน้าที่พ่อให้ดีที่สุด
และที่เพจเฟซบุ๊กนำรูปของตนมาแฉว่า ตนพาลูกไปกินอาหารร้านหรูนั้น
ขอชี้แจงว่า หากลูกอยากกิน ทำไมคนเป็นพ่อจะหาให้กินไม่ได้ ถ้าลูกหิว
คนเป็นพ่อต้องทำ ต้องให้ลูกกิน ไม่ใช่อยู่เฉย
หรือว่าถ้าลูกหิวแล้วทุกคนจะไม่ให้ลูกกินงั้นหรือ
ตอนนี้ตนไม่มีเงินใช้ เพราะไม่ได้ออกไปขอทานมา 2 วันแล้ว เนื่องจากโดนกระแสโจมตี ซึ่งตนไม่อยากให้ลูกชายได้ยิน กลัวเกิดเป็นปมด้อย หากว่าตนผิด ก็ด่าตนได้ แต่อย่าไปด่าลูกชาย ส่วนคอมเมนต์ต่าง ๆ ที่ว่าตนโกหกนั้น อยากบอกว่าทุกอย่างเป็นความจริง และจะไม่สนใจใครแล้ว เพราะเวลาที่ไม่มีเงิน ก็ไม่เคยมีใครนำเงินมาให้ และยืนยันว่าไม่เคยใช้เงินบริจาคไปซื้อเกม มีครั้งเดียวที่เคยให้ทีมข่าวดู ซึ่งใช้เงินของตัวเองซื้อ 350 บาท และไม่เคยคิดที่จะเอาเงินบริจาคไปซื้อเกมด้วย
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก รายการทุบโต๊ะข่าว