นักเรียนสาวอังกฤษ หนีมาอยู่ค่ายลี้ภัย ลั่นไม่เสียใจที่มาร่วมกลุ่ม ISIS แต่ตอนนี้อยากกลับบ้าน เพื่อลูก ขณะนี้ท้องแก่ 9 เดือน กลัวลูกตายเหมือนลูก 2 คนก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตามชะตากรรมของนักเรียนหญิงทั้ง 3 คน คือ ชามิมา เบกุม วัย 15 ปี อมิรา อาเบส วัย 15 ปี และคาดิซ่า ซัลตานา วัย 16 ปี อาจทำให้ครอบครัวของพวกเธอใจสลาย หลังจากที่เด็กสาว 1 ใน 3 คน ได้ออกมาอัปเดตเรื่องราวชีวิตของเธอ ผ่านการให้สัมภาษณ์กับ แอนโธนี่ ลอยด์ นักข่าวของหนังสือพิมพ์เดอะไทมส์ จากค่ายผู้ลี้ภัยในประเทศซีเรีย
โดยเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2562
สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า ชามิมา เบกุม ซึ่งขณะนี้มีอายุ 19 ปีแล้ว เปิดเผยว่า
แม้เธอจะไม่เคยเสียใจที่มาเข้าร่วมกับกลุ่มไอเอส แต่ตอนนี้เธออยากที่จะกลับบ้านในอังกฤษเหลือเกิน
เพื่อลูกที่กำลังจะลืมตาดูโลกของเธอ
ชามิมา เผยว่า หลังจากที่เธอกับเพื่อนข้ามพรมแดนมาประเทศซีเรีย ก็ได้เดินทางไปยังเมืองรักกา ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มไอเอส ในขณะนั้น พวกเธอถูกส่งตัวไปพักอยู่ในบ้านสำหรับว่าที่เจ้าสาวที่เพิ่งเดินทางมาใหม่ และเธอก็สมัครใจแต่งงานกับนักสู้ของกองกำลังที่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ จากแค็ตตาล็อกที่ทางกลุ่มนำมาให้เลือก
ชามิมา ยังเผยอีกว่า ครั้งแรกที่เธอได้เห็นหัวคนถูกตัดทิ้งไว้ในถังขยะนั้น
เธอไม่ได้รู้สึกกลัวอะไร เพราะคนที่ตายพวกนี้เป็นศัตรูของอิสลาม
เธอได้แต่คิดถึงสิ่งที่คนพวกนี้อาจจะทำกับหญิงมุสลิม ถ้าพวกเขามีโอกาส
"ฉันไม่ใช่เด็กนักเรียนหญิงไร้เดียงสา อายุ 15 ปี ที่หนีออกจากเบธนัล กรีน เมื่อ 4 ปีก่อนแล้ว ฉันไม่เคยเสียใจเลยที่ได้มาที่นี่" เบกุม กล่าว
อย่างไรก็ตาม เธอยอมรับว่าการได้เผชิญกับเรื่องการกดขี่และการคอร์รัปชันต่าง ๆ ทำให้เธอค่อนข้างช็อก และก็ไม่คิดว่าทางกองกำลังสมควรได้รับชัยชนะ แต่นั่นก็ยังไม่ใช่เหตุผลที่ทำให้เธอกับสามีตัดสินใจหนีออกมา เหตุผลเดียวของเธอก็คือ...ลูก
ชามิมา ตั้งครรภ์ได้ 9 เดือนแล้ว เด็กคนนี้เป็นลูกคนที่ 3 ของเธอ ส่วนลูกอีก 2 คนของเธอนั้นได้เสียชีวิตไปแล้ว โดยลูกคนที่ 2 เสียชีวิตตั้งแต่มีอายุได้ 8 เดือนเท่านั้น จากโรคที่เกิดขึ้นเพราะภาวะขาดสารอาหาร ส่วนลูกคนโต อายุ 1 ขวบ 9 เดือน ก็เพิ่งจะเสียชีวิตไปได้ไม่นาน โดยเธอเพิ่งฝังศพลูกไปเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา
"ฉันทำทุกอย่างแล้ว เพื่อร้องขอให้สามารถกลับบ้าน ไปใช้ชีวิตอยู่เงียบ ๆ กับลูกของฉัน" ชามิมา กล่าว
ภาพจาก AFP PHOTO / METROPOLITAN POLICE
เป็นหนึ่งในข่าวที่ทั่วโลกให้ความสนใจในช่วงหลายปีก่อน
เมื่อเด็กนักเรียนสาวชาวอังกฤษ 3 คน เลือกที่จะเดินทางออกจากประเทศอังกฤษ
เพื่อไปเข้าร่วมกองกำลังรัฐอิสลาม (ISIS) ที่ประเทศซีเรีย
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2558 ท่ามกลางเสียงวิจารณ์จากนานาชาติ
และครอบครัวของเธอที่ยังหวังอยู่เสมอว่าลูกสาวจะได้กลับบ้านในสักวัน
อย่างไรก็ตามชะตากรรมของนักเรียนหญิงทั้ง 3 คน คือ ชามิมา เบกุม วัย 15 ปี อมิรา อาเบส วัย 15 ปี และคาดิซ่า ซัลตานา วัย 16 ปี อาจทำให้ครอบครัวของพวกเธอใจสลาย หลังจากที่เด็กสาว 1 ใน 3 คน ได้ออกมาอัปเดตเรื่องราวชีวิตของเธอ ผ่านการให้สัมภาษณ์กับ แอนโธนี่ ลอยด์ นักข่าวของหนังสือพิมพ์เดอะไทมส์ จากค่ายผู้ลี้ภัยในประเทศซีเรีย
ชามิมา เผยว่า หลังจากที่เธอกับเพื่อนข้ามพรมแดนมาประเทศซีเรีย ก็ได้เดินทางไปยังเมืองรักกา ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มไอเอส ในขณะนั้น พวกเธอถูกส่งตัวไปพักอยู่ในบ้านสำหรับว่าที่เจ้าสาวที่เพิ่งเดินทางมาใหม่ และเธอก็สมัครใจแต่งงานกับนักสู้ของกองกำลังที่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ จากแค็ตตาล็อกที่ทางกลุ่มนำมาให้เลือก
10 วันหลังจากมาถึง
เธอก็ได้แต่งงานกับนักสู้หนุ่มชาวดัตช์ วัย 27 ปี
ซึ่งเปลี่ยนศาสนามาเป็นอิสลามแล้ว เธอใช้ชีวิตอยู่กับเขา จนกระทั่งเมื่อ 2
สัปดาห์ก่อน เธอกับสามีก็ตัดสินใจหนีออกมาจากเมืองแบกฮัซ
ที่มั่นสุดท้ายของกลุ่มทางตะวันออกของซีเรีย
แต่สามีของเธอถูกนักสู้ซีเรียจับตัวไว้ได้ ส่วนตัวเธอก็ได้มาเป็นหนึ่งในผู้ลี้ภัย 39,000 คน ในค่ายอพยพทางตอนเหนือของซีเรีย
คาดิซ่า ซัลตานา, อมิรา อาเบส และ ชามิมา เบกุม ขณะเดินทางออกจากอังกฤษ เมื่อปี 2558
ภาพจาก AFP PHOTO / METROPOLITAN POLICE
ภาพจาก AFP PHOTO / METROPOLITAN POLICE
"ฉันไม่ใช่เด็กนักเรียนหญิงไร้เดียงสา อายุ 15 ปี ที่หนีออกจากเบธนัล กรีน เมื่อ 4 ปีก่อนแล้ว ฉันไม่เคยเสียใจเลยที่ได้มาที่นี่" เบกุม กล่าว
อย่างไรก็ตาม เธอยอมรับว่าการได้เผชิญกับเรื่องการกดขี่และการคอร์รัปชันต่าง ๆ ทำให้เธอค่อนข้างช็อก และก็ไม่คิดว่าทางกองกำลังสมควรได้รับชัยชนะ แต่นั่นก็ยังไม่ใช่เหตุผลที่ทำให้เธอกับสามีตัดสินใจหนีออกมา เหตุผลเดียวของเธอก็คือ...ลูก
ชามิมา ตั้งครรภ์ได้ 9 เดือนแล้ว เด็กคนนี้เป็นลูกคนที่ 3 ของเธอ ส่วนลูกอีก 2 คนของเธอนั้นได้เสียชีวิตไปแล้ว โดยลูกคนที่ 2 เสียชีวิตตั้งแต่มีอายุได้ 8 เดือนเท่านั้น จากโรคที่เกิดขึ้นเพราะภาวะขาดสารอาหาร ส่วนลูกคนโต อายุ 1 ขวบ 9 เดือน ก็เพิ่งจะเสียชีวิตไปได้ไม่นาน โดยเธอเพิ่งฝังศพลูกไปเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา
เมื่อลูกล้มป่วย
บีกัมพยายามจะพาลูกไปโรงพยาบาลแล้ว แต่ก็ไม่มียาตัวใดสามารถใช้ได้
และไม่มีบุคลากรแพทย์เพียงพอ การเสียลูกไป 2 คนทำให้เธอช็อกหนัก
เธออยากที่จะปกป้องลูกที่ยังไม่เกิด
เธอกลัวว่าเด็กคนนี้จะป่วยแล้วจากไปเหมือนลูกอีก 2 คน
ถ้าเธอยังทนอยู่ที่ซีเรีย ตอนนี้ตัวเธอเองก็อ่อนแอมาก
นั่นทำให้เธออยากจะกลับไปอังกฤษ เพราะเธอรู้ว่าลูกจะได้รับการดูแลที่นั่น
อย่างน้อยลูกของเธอก็จะมีสุขภาพที่ดี
พี่สาวของ ชามิมา เบกุม เผยรูปน้องสาว ระหว่างให้สัมภาษณ์สื่อ เมื่อปี 2558
ภาพจาก LAURA LEAN / POOL / AFP
ภาพจาก LAURA LEAN / POOL / AFP
ในขณะที่ครอบครัวของชามิมา อาจจะยังไม่สูญเสียความหวังที่จะได้รับตัวเธอกลับมาอีกครั้ง
แต่สำหรับครอบครัวของเพื่อน ๆ ที่เดินทางมาซีเรียพร้อมกับเธอนั้น
ชามิมาได้เผยข่าวร้ายว่า เพื่อน 1 ใน 2 คนนั้น ได้เสียชีวิตแล้วจากเหตุระเบิด
ส่วนอีกคนหนึ่งไม่ทราบชะตากรรมที่แน่ชัด