รุ่นพี่เผย นศ.หญิง รมควันตัวเองดับคาหอพัก เป็นดาวคณะ รู้เป็นซึมเศร้า ตกใจข่าวเหตุ 2 วันก่อนยังเห็นยิ้มแย้ม พบแม่ห่วงติดต่อไม่ได้ ลูกบอกกินยาหลับ ก่อนคิดสั้นฆ่าตัวตาย
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2562 รายการทุบโต๊ะข่าว ได้สอบถาม นายวทัญญู ฉางแก้ว รุ่นพี่ที่สนิทกับ น.ส.เตย เปิดเผยว่า
ตนเองรู้จักกับ น.ส.เตย มาตั้งแต่ 2-3 ปีก่อน โดยผู้ตายเป็นดาวคณะ
เป็นคนสนุกสนาน แต่เมื่อช่วงภาคเรียนที่ผ่านมา เจ้าตัวได้พักการเรียนไป 1
เทอม เมื่อกลับมาเรียนปกติ เจ้าตัวจึงเล่าให้ฟังว่า
ที่หยุดเรียนไปเนื่องจากมีอาการป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ต้องกินยาประจำ
และช่วงนี้อาการก็ดีขึ้นแล้ว
และบอกว่าเคยคิดทำร้ายตัวเองเวลาอยู่เพียงลำพัง ซึ่งเมื่อ 2-3 วันก่อน
ตนยังเห็นน้องมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส
ตนทักแซวเรื่องรองเท้าที่ซื้อใหม่ว่าสวย จึงไม่คาดคิดว่า จะคิดสั้นแบบนี้
นอกจากนี้ ตนพบว่าในเฟซบุ๊ก น.ส.เตย
โพสต์รูปภาพสุดท้าย มีข้อความว่า "Have a good dream"
พร้อมภาพประกอบลักษณะนอนหลับตา ส่วนตัวก็คิดว่าโพสต์เล่น ๆ
ไม่คิดว่าจะเป็นการบอกลา ที่ผ่านมาน้องไม่เคยปรึกษาปัญหาอะไรหนัก ๆ
ซึ่งแฟนของ น.ส.เตย ก็เคยบอกว่า ความรักตอนนี้ไม่มีปัญหา ยอมรับว่า
เห็นข่าวแล้วตกใจ ไม่คิดว่าเป็นเรื่องจริง หลายคนที่รักเขา ทุกคนเสียใจ
และไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
และหากไปดูในโพสต์ของ น.ส.เตย จะเห็นได้ว่า มีการโพสต์ข้อความหลายอย่างที่บ่งบอกว่าเธอเองเป็นโรคซึมเศร้า ทั้งภาพยาแก้ซึมเศร้าที่ทาน รวมไปถึงการบอกว่า ตนจะมีชีวิตอยู่รอดทันดูภาพยนตร์เรื่อง กัปตันมาร์เวลหรือเปล่า และแฮชแท็กว่า จะบ้าตาย
ด้าน แม่ของ น.ส.เตย เผยว่า ตอนนี้ครอบครัวยังทำใจไม่ได้ ก่อนเกิดเหตุวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ตนไม่สามารถติดต่อลูกได้ จึงให้เพื่อนลูกช่วยไปดูที่หอพัก ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ พบว่าลูกไม่ยอมเปิดประตู แต่พูดบอกเพื่อนว่า ไม่ได้เป็นอะไร เพียงกินยาโรคซึมเศร้าไปแล้วหลับสนิท กระทั่งช่วงค่ำวันเดียวกัน ตนโทร. หาลูกก็ไม่รับสายอีก จึงชวนแฟนลูกมาดูด้วยกันที่หอพัก ก็พบว่าลูกสาวเสียชีวิตในห้องแล้ว
และหากไปดูในโพสต์ของ น.ส.เตย จะเห็นได้ว่า มีการโพสต์ข้อความหลายอย่างที่บ่งบอกว่าเธอเองเป็นโรคซึมเศร้า ทั้งภาพยาแก้ซึมเศร้าที่ทาน รวมไปถึงการบอกว่า ตนจะมีชีวิตอยู่รอดทันดูภาพยนตร์เรื่อง กัปตันมาร์เวลหรือเปล่า และแฮชแท็กว่า จะบ้าตาย
ด้าน แม่ของ น.ส.เตย เผยว่า ตอนนี้ครอบครัวยังทำใจไม่ได้ ก่อนเกิดเหตุวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ตนไม่สามารถติดต่อลูกได้ จึงให้เพื่อนลูกช่วยไปดูที่หอพัก ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ พบว่าลูกไม่ยอมเปิดประตู แต่พูดบอกเพื่อนว่า ไม่ได้เป็นอะไร เพียงกินยาโรคซึมเศร้าไปแล้วหลับสนิท กระทั่งช่วงค่ำวันเดียวกัน ตนโทร. หาลูกก็ไม่รับสายอีก จึงชวนแฟนลูกมาดูด้วยกันที่หอพัก ก็พบว่าลูกสาวเสียชีวิตในห้องแล้ว
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
