แม่หม้ายลูกหนึ่งชาวบราซิล วัย 57 ปี พบรักหนุ่มดีกรีนักเรียนกฎหมาย วัย 27 ปี ทางออนไลน์ ตัดสินใจนัดเดตครั้งแรก แต่โดนทำร้ายสาหัสปางตาย เผยสุดช้ำ คิดว่าคุยมานาน จะรู้จักเขาดีพอ
![ทำร้ายร่างกาย ทำร้ายร่างกาย]()
เอเลน การ์ปาร์โรซ คือแม่หม้ายชาวบราซิล วัย 57 ปี ที่ยังคงดูดีแม้ใกล้วัยเกษียณ เนื่องจากเป็นคนชื่นชอบการออกกำลังกายและดูแลตัวเองอยู่เสมอ เธอเลิกรากับสามีไปนานหลายปีแล้ว และทุกวันนี้เป็นนักธุรกิจ มีกิจการจัดสวนเป็นของตัวเอง เธอป็นสาวโสดอย่างมีความสุขมานาน กระทั่งหลายเดือนก่อน เอเลนได้รู้จักกับชายหนุ่มคนหนึ่งบนสังคมออนไลน์ เขาเป็นหนุ่มหล่อหน้าตาดี แถมยังมีดีกรีนักเรียนกฎหมายอีกด้วย เธอจึงลองคุย ๆ กับเขา
หลังจากเวลาผ่านไป เอเลนตัดสินใจนัดพบกับชายหนุ่มคนนี้เป็นครั้งแรก หลังจากคุยทางออนไลน์กันมานาน เธอวาดฝันว่ามันจะต้องเป็นเดตแรกที่แสนโรแมนติก มันจะต้องออกมาดี ทว่าทุกอย่างมันตรงกันข้ามกับที่เธอคิด ชายหนุ่มคนนี้ไม่ใช่เจ้าชายในเทพนิยาย หรือเทวดาแสนดี แต่เขากลับเป็นปีศาจร้ายที่ทำลายหัวใจเธอ และทำร้ายเธอจนเกือบตาย
จากการรายงานของเว็บไซต์เดลี่เมล เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2562 ระบุว่า ชายหนุ่มที่เอเลนคุยด้วยมีชื่อว่า วินิเซียส แซร์รา อายุ 27 ปี แม้ว่าอายุของทั้งสองจะห่างกันถึง 30 ปี แต่พวกเขาก็ถูกใจซึ่งกันและกัน และคุยกันได้อย่างไม่มีปัญหา หลังจากที่ทั้งสองแชตคุยกันทางออนไลน์ทุกวัน หยอดคำหวานให้กันมาเป็นเวลา 8 เดือน เอเลนก็คิดว่ามันถึงเวลาแล้วที่เธอกับวินิเซียสจะก้าวไปอีกขึ้น
![ทำร้ายร่างกาย ทำร้ายร่างกาย]()
เอเลนอยากให้ความสัมพันธ์นี้มันจริงจังกว่าเดิม เธอตัดสินใจนัดพบคู่เดตเป็นครั้งแรก โดยเชิญวินิเซียสมากินมื้อค่ำที่ห้อง และดื่มไวน์ใต้แสงเทียนด้วยกัน วินิเซียสตอบรับคำเชิญของเอเลนโดยไม่อิดออด และมาพบเธอที่คอนโดมิเนียมในเมืองริโอ เดอ จาเนโร เมื่อพูดคุยและกินมื้อค่ำเสร็จ ทั้งสองก็ร่วมหลับนอนด้วยกัน
หลังจากที่เสร็จกิจ วินิเซียสก็เอ่ยปากบอกให้เอเลนเอาหัวหนุนแขนของเขา ให้ซุกเข้ามาใกล้ ๆ เพื่อที่เขาจะได้กอดเธออย่างสะดวก เอเลนรู้สึกยินดีมาก เธอประทับใจในความโรแมนติกของเขา เข้าไปซุกแนบชิด และหลับไป แต่แล้วในเวลาประมาณ 01.00 น. เอเลนก็ต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมาอย่างตกใจมาก เพราะเธอถูกวินิเซียสชกเข้าที่ใบหน้า
สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นคือฝันร้ายที่เอเลนไม่มีทางลืม วินิเซียสเปลี่ยนไปเป็นคนละคนกับเมื่อวาน เขาทำร้ายร่างกายเธออย่างรุนแรงมาก ทั้งเตะ ต่อย กระทืบ และอื่น ๆ อีกสารพัด ความทารุณโหดร้ายนี้เกิดขึ้นติดต่อกันยาวนานเกือบ 5 ชั่วโมง กว่าที่วินิเซียสจะยุติทำร้ายเอเลน เวลาก็ผ่านไปถึง 05.30 น.
เพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่ในห้องใกล้เคียงต่างได้ยินเสียงกรีดร้องโหยหวนของเอเลน พวกเขาได้แจ้งให้นิติบุคคลว่าเกิดเหตุร้าย ทางนิติบุคคลและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจึงรีบขึ้นมาตรวจสอบ
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพังประตูเข้าไปในห้องของเอเลน
พบร่างเธอนอนอยู่บนพื้น เนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือด
ผนังและพื้นห้องใกล้เคียงก็เต็มไปด้วยคราบเลือดเช่นกัน
เอเลนได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงโดยเร่งด่วน
สภาพร่างกายของเธอบอบช้ำรุนแรงมาก โดยเฉพาะใบหน้าที่บาดเจ็บอย่างหนัก
กระดูกโหนกแก้มแตก จมูกหัก ฟันหักหลายซี่ เป็นแผลในปากหลายจุด
ต้องเย็บรวมกันถึง 40 เข็ม เบ้าตาบวมปูด และมีรอยฟกช้ำดำเขียวทั่วร่าง
ทางด้านวินิเซียสนั้น เขาพยายามหลบหนีออกจากห้องของเอเลน แต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกั้นประตูด้านล่างของอาคารเอาไว้ ทำให้เขาไม่สามารถหนีไปไหนได้ และถูกควบคุมตัวเอาไว้จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึง โดยจากการสอบสวนสืบสวนพบว่าวินิเซียสแสดงท่าทีผิดปกติตั้งแต่ตอนมาถึงคอนโดมิเนียม ที่พักแห่งนี้ค่อนข้างเข้มงวดเรื่องบุคคลภายนอก ผู้มาเยี่ยมต้องแจ้งชื่อให้เจ้าหน้าที่จดลงไปในสมุดรายชื่อแขก
วินิเซียสพยายามปิดบังตัวตนของตัวเอง และบอกกับเจ้าหน้าที่เฝ้าประตูว่าตัวเองชื่อ ฟิลิปเป้ นอกจากนี้แล้ว ในระหว่างการสอบปากคำ วินิเซียสปฏิเสธข้อกล่าวหา อ้างว่าตัวเองดื่มไวน์ไปเป็นจำนวนมาก จนมึนเมาและหลับไป เมื่อเขาตื่นขึ้นมากลางดึก ก็เกิดอาการสติแตก
ชายหนุ่มอ้างว่าเขาไม่สามารถควบคุมสติของตัวเองได้ จนทำร้ายร่างกายเอเลนไป และกล่าวอีกว่าจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้เลยแม้แต่น้อย อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อคำให้การของเขา เพราะมันฟังไม่ขึ้น อีกทั้งขัดแย้งกับสิ่งที่เกิด ตำรวจกล่าวว่าคดีนี้เข้าข่ายพยายามฆ่า และเชื่อว่าวินิเซียสไตร่ตรองไว้ก่อน เพราะเขาลงมือทำร้ายเอเลนติดต่อกันนานหลายชั่วโมง ดังนั้นการกล่าวอ้างว่าทำไปโดยไม่มีสติ หรือจำไม่ได้ มันขัดกับความเป็นจริง
ทางด้านเอเลนนั้น เธอถูกย้ายไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลใหญ่ และต้องอยู่ในห้องไอซียู แพทย์ได้ตรวจร่างกายเธออย่างละเอียดหลายครั้ง ขณะนี้อาการดีขึ้นมากและอยู่ในช่วงทรงตัวแล้ว เธอเล่าอย่างเจ็บช้ำขณะอยู่ในโรงพยาบาลว่า ไม่เคยคิดเลยว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้กับตัวเอง และคิดว่าตลอดระยะเวลา 8 เดือนที่ผ่านมา ตัวรู้จักผู้ชายคนนี้ดีพอแล้ว แต่มันไม่ใช่เลย
"ฉันแชตคุยกับวินิเซียสทางออนไลน์มานานแล้ว จนมาถึงจุดที่ฉันคิดว่าน่าจะขยับความสัมพันธ์นี้ขึ้นไปอีกขั้น จากเพื่อนคุยกันไปเป็นอะไรที่ดีกว่านี้ ตอนที่เชิญเข้ามาที่ห้อง ฉันรู้สึกมั่นใจมากและไม่ได้กังวลอะไร เพราะฉันคิดว่าการคุยกันที่ผ่านมา มันทำให้ฉันรู้จักเขาดีพอแล้ว"
![ทำร้ายร่างกาย ทำร้ายร่างกาย]()
"แต่ฉันต้องตื่นมาอย่างตกใจ
เพราะวินิเซียสชกหน้าฉัน เขาพยายามล็อกคอฉันแต่ฉันยกแขนบังตัวเองไว้
เขาเลยกัดแขนฉัน ปีนขึ้นมาคร่อมตัวฉันและชกฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เขากรีดร้องใส่หน้าฉัน พร้อม ๆ กับตะโกนด่าฉัน เขาทำฉันรุนแรงมาก
หมัดของเขาหนักมาก แต่ละครั้งที่ชกมา มันทำให้ฉันคิดว่าฉันคงตายแน่ ๆ
ฉันพยายามป้องกันตัวเองแล้วค่ะ แต่ทำไม่ได้เลย ฉันทั้งขอให้เขาหยุด
ทั้งร้องขอความช่วยเหลือ หลังจากนั้นฉันจำอะไรไม่ได้เลย" เอเลน
เล่าอย่างเจ็บปวดถึงตอนที่เธอถูกทำร้าย
ทั้งนี้ แม้ว่าอาการโดยรวมของเอเลนจะดีขึ้น และเธอก็มีกำลังใจที่ดีจากครอบครัว รวมทั้งลูกชายสุดที่รัก แต่ทุกคนก็ยังคงเป็นกังวล โดยโรดริโก น้องชายของเธอ เปิดเผยว่า สภาพจิตใจของเธอได้รับผลกระทบอย่างมากเพราะเรื่องนี้ เธอยังคงมีอาการมึนงงและสับสน ไม่รู้ว่าเธอจะหายจากอาการนี้เมื่อไหร่ และไม่รู้ว่าจะเป็นแบบนี้อีกนานหรือไม่
ระบบประสาทของเอเลนอาจได้รับความเสียหาย แพทย์ก็ยังไม่ฟันธงว่ามันส่งผลกระทบหนักแค่ไหน นอกจากนี้แล้ว เอเลนก็เริ่มโทษตัวเองว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นความผิดของตัวเอง คิดว่าตัวเองคงทำอะไรผิดพลาดไป จนมาถูกทำร้ายอย่างสาหัส
สำหรับวินิเซียสนั้น ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว เนื่องจากได้ก่อเหตุที่โหดร้ายรุนแรง และการปล่อยตัวเขาไป จะสร้างความหวาดกลัวแก่เหยื่อได้ เขาจะถูกควบคุมตัวอยู่ในห้องขัง ตลอดกระบวนการสอบสวนสืบสวน
นอกจากนี้แล้ว เขาจะถูกส่งตัวไปตรวจสอบสภาพจิตใจที่โรงพยาบาลจิตเวช เพื่อค้นหาว่าเขามีอาการทางจิตจริงอย่างที่กล่าวอ้างหรือไม่ และถ้าหากศาลตัดสินว่าเขามีความผิดจริง เขาอาจต้องโทษจำคุก 30 ปี
![ทำร้ายร่างกาย ทำร้ายร่างกาย]()
![ทำร้ายร่างกาย ทำร้ายร่างกาย]()
เอเลน นอนกอดกับลูกชายที่มาเฝ้า

หลังจากเวลาผ่านไป เอเลนตัดสินใจนัดพบกับชายหนุ่มคนนี้เป็นครั้งแรก หลังจากคุยทางออนไลน์กันมานาน เธอวาดฝันว่ามันจะต้องเป็นเดตแรกที่แสนโรแมนติก มันจะต้องออกมาดี ทว่าทุกอย่างมันตรงกันข้ามกับที่เธอคิด ชายหนุ่มคนนี้ไม่ใช่เจ้าชายในเทพนิยาย หรือเทวดาแสนดี แต่เขากลับเป็นปีศาจร้ายที่ทำลายหัวใจเธอ และทำร้ายเธอจนเกือบตาย
จากการรายงานของเว็บไซต์เดลี่เมล เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2562 ระบุว่า ชายหนุ่มที่เอเลนคุยด้วยมีชื่อว่า วินิเซียส แซร์รา อายุ 27 ปี แม้ว่าอายุของทั้งสองจะห่างกันถึง 30 ปี แต่พวกเขาก็ถูกใจซึ่งกันและกัน และคุยกันได้อย่างไม่มีปัญหา หลังจากที่ทั้งสองแชตคุยกันทางออนไลน์ทุกวัน หยอดคำหวานให้กันมาเป็นเวลา 8 เดือน เอเลนก็คิดว่ามันถึงเวลาแล้วที่เธอกับวินิเซียสจะก้าวไปอีกขึ้น

วินิเซียส แซร์รา คู่เดตของเอเลน - ภาพจาก เฟซบุ๊ก vinibatistas
เอเลนอยากให้ความสัมพันธ์นี้มันจริงจังกว่าเดิม เธอตัดสินใจนัดพบคู่เดตเป็นครั้งแรก โดยเชิญวินิเซียสมากินมื้อค่ำที่ห้อง และดื่มไวน์ใต้แสงเทียนด้วยกัน วินิเซียสตอบรับคำเชิญของเอเลนโดยไม่อิดออด และมาพบเธอที่คอนโดมิเนียมในเมืองริโอ เดอ จาเนโร เมื่อพูดคุยและกินมื้อค่ำเสร็จ ทั้งสองก็ร่วมหลับนอนด้วยกัน
หลังจากที่เสร็จกิจ วินิเซียสก็เอ่ยปากบอกให้เอเลนเอาหัวหนุนแขนของเขา ให้ซุกเข้ามาใกล้ ๆ เพื่อที่เขาจะได้กอดเธออย่างสะดวก เอเลนรู้สึกยินดีมาก เธอประทับใจในความโรแมนติกของเขา เข้าไปซุกแนบชิด และหลับไป แต่แล้วในเวลาประมาณ 01.00 น. เอเลนก็ต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมาอย่างตกใจมาก เพราะเธอถูกวินิเซียสชกเข้าที่ใบหน้า
สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นคือฝันร้ายที่เอเลนไม่มีทางลืม วินิเซียสเปลี่ยนไปเป็นคนละคนกับเมื่อวาน เขาทำร้ายร่างกายเธออย่างรุนแรงมาก ทั้งเตะ ต่อย กระทืบ และอื่น ๆ อีกสารพัด ความทารุณโหดร้ายนี้เกิดขึ้นติดต่อกันยาวนานเกือบ 5 ชั่วโมง กว่าที่วินิเซียสจะยุติทำร้ายเอเลน เวลาก็ผ่านไปถึง 05.30 น.
เพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่ในห้องใกล้เคียงต่างได้ยินเสียงกรีดร้องโหยหวนของเอเลน พวกเขาได้แจ้งให้นิติบุคคลว่าเกิดเหตุร้าย ทางนิติบุคคลและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจึงรีบขึ้นมาตรวจสอบ
ทางด้านวินิเซียสนั้น เขาพยายามหลบหนีออกจากห้องของเอเลน แต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกั้นประตูด้านล่างของอาคารเอาไว้ ทำให้เขาไม่สามารถหนีไปไหนได้ และถูกควบคุมตัวเอาไว้จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึง โดยจากการสอบสวนสืบสวนพบว่าวินิเซียสแสดงท่าทีผิดปกติตั้งแต่ตอนมาถึงคอนโดมิเนียม ที่พักแห่งนี้ค่อนข้างเข้มงวดเรื่องบุคคลภายนอก ผู้มาเยี่ยมต้องแจ้งชื่อให้เจ้าหน้าที่จดลงไปในสมุดรายชื่อแขก
วินิเซียสพยายามปิดบังตัวตนของตัวเอง และบอกกับเจ้าหน้าที่เฝ้าประตูว่าตัวเองชื่อ ฟิลิปเป้ นอกจากนี้แล้ว ในระหว่างการสอบปากคำ วินิเซียสปฏิเสธข้อกล่าวหา อ้างว่าตัวเองดื่มไวน์ไปเป็นจำนวนมาก จนมึนเมาและหลับไป เมื่อเขาตื่นขึ้นมากลางดึก ก็เกิดอาการสติแตก
ชายหนุ่มอ้างว่าเขาไม่สามารถควบคุมสติของตัวเองได้ จนทำร้ายร่างกายเอเลนไป และกล่าวอีกว่าจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้เลยแม้แต่น้อย อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อคำให้การของเขา เพราะมันฟังไม่ขึ้น อีกทั้งขัดแย้งกับสิ่งที่เกิด ตำรวจกล่าวว่าคดีนี้เข้าข่ายพยายามฆ่า และเชื่อว่าวินิเซียสไตร่ตรองไว้ก่อน เพราะเขาลงมือทำร้ายเอเลนติดต่อกันนานหลายชั่วโมง ดังนั้นการกล่าวอ้างว่าทำไปโดยไม่มีสติ หรือจำไม่ได้ มันขัดกับความเป็นจริง
ทางด้านเอเลนนั้น เธอถูกย้ายไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลใหญ่ และต้องอยู่ในห้องไอซียู แพทย์ได้ตรวจร่างกายเธออย่างละเอียดหลายครั้ง ขณะนี้อาการดีขึ้นมากและอยู่ในช่วงทรงตัวแล้ว เธอเล่าอย่างเจ็บช้ำขณะอยู่ในโรงพยาบาลว่า ไม่เคยคิดเลยว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้กับตัวเอง และคิดว่าตลอดระยะเวลา 8 เดือนที่ผ่านมา ตัวรู้จักผู้ชายคนนี้ดีพอแล้ว แต่มันไม่ใช่เลย
"ฉันแชตคุยกับวินิเซียสทางออนไลน์มานานแล้ว จนมาถึงจุดที่ฉันคิดว่าน่าจะขยับความสัมพันธ์นี้ขึ้นไปอีกขั้น จากเพื่อนคุยกันไปเป็นอะไรที่ดีกว่านี้ ตอนที่เชิญเข้ามาที่ห้อง ฉันรู้สึกมั่นใจมากและไม่ได้กังวลอะไร เพราะฉันคิดว่าการคุยกันที่ผ่านมา มันทำให้ฉันรู้จักเขาดีพอแล้ว"

ทั้งนี้ แม้ว่าอาการโดยรวมของเอเลนจะดีขึ้น และเธอก็มีกำลังใจที่ดีจากครอบครัว รวมทั้งลูกชายสุดที่รัก แต่ทุกคนก็ยังคงเป็นกังวล โดยโรดริโก น้องชายของเธอ เปิดเผยว่า สภาพจิตใจของเธอได้รับผลกระทบอย่างมากเพราะเรื่องนี้ เธอยังคงมีอาการมึนงงและสับสน ไม่รู้ว่าเธอจะหายจากอาการนี้เมื่อไหร่ และไม่รู้ว่าจะเป็นแบบนี้อีกนานหรือไม่
ระบบประสาทของเอเลนอาจได้รับความเสียหาย แพทย์ก็ยังไม่ฟันธงว่ามันส่งผลกระทบหนักแค่ไหน นอกจากนี้แล้ว เอเลนก็เริ่มโทษตัวเองว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นความผิดของตัวเอง คิดว่าตัวเองคงทำอะไรผิดพลาดไป จนมาถูกทำร้ายอย่างสาหัส
สำหรับวินิเซียสนั้น ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว เนื่องจากได้ก่อเหตุที่โหดร้ายรุนแรง และการปล่อยตัวเขาไป จะสร้างความหวาดกลัวแก่เหยื่อได้ เขาจะถูกควบคุมตัวอยู่ในห้องขัง ตลอดกระบวนการสอบสวนสืบสวน
นอกจากนี้แล้ว เขาจะถูกส่งตัวไปตรวจสอบสภาพจิตใจที่โรงพยาบาลจิตเวช เพื่อค้นหาว่าเขามีอาการทางจิตจริงอย่างที่กล่าวอ้างหรือไม่ และถ้าหากศาลตัดสินว่าเขามีความผิดจริง เขาอาจต้องโทษจำคุก 30 ปี

ภาพจาก Instagram elaine_caparroz

เอเลน นอนกอดกับลูกชายที่มาเฝ้า












