สามีพยาบาล รพ.ภาชี ร่ำไห้รอรับศพ เผยไม่เคยรู้จักคนร้าย ลั่นอยากฆ่าคนร้ายให้ตายตามกัน ด้านครอบครัวยืนยันปมเหตุไม่ใช่เรื่องชู้สาว
ความคืบหน้าเหตุสะเทือนขวัญ คดีนางศรีสุภางค์ อายุ 48 ปี พยาบาลห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา ถูกฆ่าปาดคอทิ้งศพในรถ ที่ล่าสุดบ่ายวันนี้ (11 มีนาคม 2562) เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวคนร้ายได้แล้ว ชื่อนายอั๋น หรือ น๊อต ฟักศิริ อายุ 33 ปี โดยมีรายงานว่าผู้ต้องหาและผู้ตายแอบคบหากันได้ 5 ปี ก่อนมาก่อเหตุเพราะผู้ตายพยายามตีตัวออกห่าง เพราะฝ่ายชายมักขอเงิน ตามที่มีรายงานไปแล้วนั้น (อ่านข่าว : มือปาดคอพยาบาล อ้างพลั้งมือฆ่า โมโหเคลียร์ไม่ลงตัว เผยแอบคบกันมานาน 5 ปี)
วันเดียวกัน ข่าวช่องวัน รายงานบทสัมภาษณ์ นายพัฒนา อ่วมเทพ สามีของนางศรีสุภางค์ ผู้ตาย เปิดเผยขณะมารอรับศพที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ว่า ก่อนหน้านี้ภรรยาไม่เคยเล่าเรื่องว่ามีปัญหาอะไร หรือมีปัญหากับใคร ซึ่งผู้ต้องหาตนก็ไม่เคยรู้จัก ตนอยากจะฆ่ามันด้วยซ้ำ และอยากถามว่าฆ่าภรรยาตนทำไม เพราะภรรยาตนเป็นคนดี ตนอยากได้ภรรยาตนกลับคืน ส่วนในเรื่องคดีความก็ให้เป็นหน้าที่ของกฎหมาย
นายพัฒนา กล่าวว่า จากการที่ได้ดูคลิปวงจรปิด พบว่าผู้ต้องหามีความเป็นมืออาชีพมาก ดูจากการก่อเหตุที่ลงจากรถแล้วใช้ผ้าเช็ดรอยนิ้วมืออย่างใจเย็น
ด้าน นางสาวสกุลรัตน์ น้องสาวของผู้ตาย กล่าวว่า
ครอบครัวช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
แต่ยืนยันว่าสาเหตุไม่ใช่เรื่องชู้สาวแน่นอน
ส่วนตัวเชื่อว่าน่าจะเป็นเรื่องของเงินทอง
เพราะพี่สาวเคยเล่าว่ามีคนมาขอยืมเงินอยู่บ่อย ๆ แต่ตนไม่ขอฟันธง ส่วนประวัติของผู้ต้องหาพบว่าเป็นอดีตเวรเปล
และมักจะไปขอยืมเงินเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลไปทั่ว
ทั้งนี้ พี่สาวเป็นคนดี เป็นที่รักของครอบครัวและเพื่องฝูง ส่วนผลชันสูตรพบว่าสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากอาการขาดอากาศ และเลือดออกมาก
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก



วันเดียวกัน ข่าวช่องวัน รายงานบทสัมภาษณ์ นายพัฒนา อ่วมเทพ สามีของนางศรีสุภางค์ ผู้ตาย เปิดเผยขณะมารอรับศพที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ว่า ก่อนหน้านี้ภรรยาไม่เคยเล่าเรื่องว่ามีปัญหาอะไร หรือมีปัญหากับใคร ซึ่งผู้ต้องหาตนก็ไม่เคยรู้จัก ตนอยากจะฆ่ามันด้วยซ้ำ และอยากถามว่าฆ่าภรรยาตนทำไม เพราะภรรยาตนเป็นคนดี ตนอยากได้ภรรยาตนกลับคืน ส่วนในเรื่องคดีความก็ให้เป็นหน้าที่ของกฎหมาย
นายพัฒนา กล่าวว่า จากการที่ได้ดูคลิปวงจรปิด พบว่าผู้ต้องหามีความเป็นมืออาชีพมาก ดูจากการก่อเหตุที่ลงจากรถแล้วใช้ผ้าเช็ดรอยนิ้วมืออย่างใจเย็น
ทั้งนี้ พี่สาวเป็นคนดี เป็นที่รักของครอบครัวและเพื่องฝูง ส่วนผลชันสูตรพบว่าสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากอาการขาดอากาศ และเลือดออกมาก
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
