x close

เปิดปากญาติหนุ่มปอร์เช่ ชนคนตาย - แท้งลูก ไม่ได้หนีแค่รีบไปรักษาขาหัก !

          พ่อน้องไตเติ้ล เผยทำใจได้แล้ว และยินดีอโหสิกรรม หลังลูกสาวถูกชนขาขาดตาย ด้านญาติคนขับปอร์เช่ เผยตอนนี้รักษาตัวที่ รพ. ยันไม่ได้ขอจ่าย 5 หมื่นจบคดี และไม่ได้เมา พร้อมยินดีเยียวยา

          คืบหน้าเหตุรถยนต์ยี่ห้อปอร์เช่ เคย์แมน เอส พุ่งชนมอเตอร์ไซค์เป็นเหตุให้ 2 สาว ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย ขาขาด และแท้งลูกในท้อง และอีกรายขาขาดเช่นกันก่อนจะเสียชีวิต ซึ่งมีรายงานว่าผู้ก่อเหตุอยู่ในอาการมึนเมาและหลบหนีไป โดยมีการติดต่อขอจ่ายเงิน 50,000 บาท เพื่อให้เรื่องจบนั้น (อ่านข่าว : ปอร์เช่ เคย์แมน ซิ่งชนสองสาว คนหนึ่งขาขาดก่อนตาย อีกคนสูญเสียลูกในท้อง)


          ล่าสุด (16 มีนาคม 2562) รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่อง Amarin TV รายงานบทสัมภาษณ์ นายพัชระ หรือ ริว อายุ 22 ปี เพื่อนสนิทของโอ๋ และไตเติ้ล ผู้ประสบเหตุ เปิดเผยว่า บ้านของตนอยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุ ซึ่งคืนที่เกิดเหตุ ตนได้ยินเสียงก็รีบวิ่งออกมาดูก็พบว่าเป็นเพื่อนถูกรถชน ซึ่งตอนนั้นยังเห็นคู่กรณีคือคนขับรถปอร์เช่ แต่ไม่ได้สนใจเพราะรีบอยากจะช่วยเพื่อน จนมารู้อีกทีว่ามีรถมารับเขาไปแล้ว ทราบเพียงว่าได้รับบาดเจ็บที่ขา และมีอาการเมาเพราะเพิ่งมาจากร้านเหล้า

          นายพัชระ เผยว่า ตอนนี้โอ๋อาการเป็นตายเท่ากัน แขนหัก 3 ท่อน รอพิจารณาว่าจะตัดขาที่เหลืออีกข้าง ซึ่งเจ้าตัวรู้แล้วว่าแท้งลูก แต่ยังไม่รู้ว่าไตเติ้ลเสียชีวิต


          ด้าน นายวงศธร การสมทรัพย์ หรือ เล็ก อายุ 55 ปี เจ้าของร้านซ่อมรถจุดเกิดเหตุ เปิดเผยว่า ตนมาถึงจุดเกิดเหตุก็ไม่พบคนขับรถปอร์เช่แล้ว ตนอยากให้มารับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น


          ขณะที่ นายจิรายุ (สงวนนามสกุล) ญาตินายสมเกียรติ คนขับรถปอร์เช่ เปิดเผยว่า ตอนนี้นายสมเกียรติ รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลจากอาการบาดเจ็บขาทั้ง 2 ข้างหัก 2 ท่อน ซึ่งยืนยันว่าไม่ได้คิดหลบหนี แต่ที่คืนวันเกิดเหตุออกมาจากจุดเกิดเหตุก็เพื่อต้องไปรับการรักษา โดยคนที่ขับรถมารับคือน้องของนายสมเกียรติ และน้องก็ลงมาดูแล้ว เห็นว่ามีเจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยทางนั้นอยู่ จึงรีบพานายสมเกียรติไปโรงพยาบาล


          ญาตินายสมเกียรติ ยืนยันว่า นายสมเกียรติไม่ได้เมาเหล้า และไม่ได้มีการเสนอเงิน 50,000 บาท เพื่อจบคดีแต่อย่างใด นายสมเกียรติยินดีรับผิดชอบครอบครัวผู้เสียหายทั้งหมด ซึ่งวันเกิดเหตุทราบว่ารถเหินเนินสะพาน เพราะขับมาด้วยความเร็ว ประกอบกับรถมีน้ำหนักเบา


          ทั้งนี้ ทางด้านนายเอนก ฉิมน้อย อายุ 44 ปี พ่อของน้องไตเติ้ล ผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตอนนี้ก็ทำใจได้แล้ว และยินดีอโหสิกรรมให้ เพราะอยากให้ลูกสาวไปสบาย และเรื่องที่เกิดขึ้นก็ไม่สามารถย้อนคืนได้ แต่ยืนยันว่าหลังเกิดเรื่องยังไม่ได้รับการติดต่อจากคู่กรณีแต่อย่างใด

          ตนอยากให้อีกฝ่ายเข้ามาพูดคุยถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่าเป็นมาอย่างไร อยากให้มารับผิดชอบกับเรื่องที่ก่อไว้


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เปิดปากญาติหนุ่มปอร์เช่ ชนคนตาย - แท้งลูก ไม่ได้หนีแค่รีบไปรักษาขาหัก ! อัปเดตล่าสุด 18 มีนาคม 2562 เวลา 11:10:19 98,772 อ่าน
TOP