พ่อสละตัวเอง ยอมเป็นโล่ปกป้องลูก 2 ขวบจากเหตุกราดยิงมัสยิดนิวซีแลนด์ ถึงตัวเองเจ็บหนักแต่ช่วยให้ลูกรอดมาได้ ตอนนี้อาการดีขึ้นเรื่อย ๆ
จากกรณีเหตุสะเทือนขวัญ คนร้ายกราดยิงมัสยิด 2 แห่งในเมืองไครสต์เชิร์ช
ประเทศนิวซีแลนด์ จนเป็นผลให้มีผู้เสียชีวิต 50 ราย และบาดเจ็บอีกจำนวนมาก
ซึ่งเหตุที่เกิดขึ้นได้สร้างความหวาดผวาให้กับผู้คนจำนวนมาก
แต่ถึงอย่างนั้น
ท่ามกลางเหตุร้ายก็ยังมีเรื่องราวที่สร้างความตื้นตันใจเกิดขึ้น
จากความกล้าหาญของใครหลายคนที่ยอมนำชีวิตเข้าไปเสี่ยงเพื่อปกป้องผู้อื่น
ดังเช่นผู้ลี้ภัยฮีโร่ที่กล้าเอาตัวเข้าสู้กับคนร้าย ทั้งที่ตัวเองไร้อาวุธ
[อ่านข่าว : ผู้ลี้ภัยฮีโร่ สู้คนร้ายกราดยิงมัสยิด แม้ไร้อาวุธ
ความกล้าหาญที่ช่วยหลายชีวิต]
ขณะที่รายงานจาก เว็บไซต์เดลี่เมล เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2562 ก็ได้เผยเรื่องราวของชายผู้เสียสละอีกราย ที่แม้ว่าการเอาชีวิตเข้าเสี่ยงของเขาอาจไม่ใช่เพื่อช่วยผู้คนมากมาย แต่มันก็ช่วยให้คนที่เขารักที่สุดรอดชีวิตมาได้ และชายคนนี้ก็คือ ซูลฟิร์มาน เชียห์ คุณพ่อที่พาลูกชายวัย 2 ขวบ มาสวดภาวนาที่มัสยิดลินวู้ด
รายงานเผยว่า คู่พ่อลูกอยู่ด้วยกันที่มัสยิดในตอนนั้น ขณะที่ เบรนตัน ทาร์เรนต์ ผู้ก่อเหตุบุกเข้ามากราดยิงภายในมัสยิด ไวเท่าความคิด ซูลฟิร์มานรีบก้มตัวลงใช้ตัวเป็นโล่ปกป้องลูกชายของเขาเอาไว้ ยอมใช้ร่างกายของตัวเองรับกระสุนนัดแล้วนัดเล่าที่ถูกยิงเข้ามาจนได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ และอดทนอยู่ในสภาพเช่นนั้น นานพอที่จะทำให้ลูกชายของเขาปลอดภัย กระทั่งคนร้ายจากไปและมีคนอื่น ๆ ในเหตุการณ์วิ่งไล่ล่าคนร้ายไป
ในขณะที่มีผู้เสียชีวิต 7 คนจากเหตุกราดยิงในมัสยิดลินวู้ด แต่ซูลฟิร์มานนับว่าโชคดีที่เขาสามารถรอดชีวิตมาได้ภายหลังเข้ารับการผ่าตัดฉุกเฉิน แม้ว่าตอนนี้เขาจะยังรักษาตัวอยู่ในหอผู้ป่วยวิกฤต แต่อาการของเขาก็ทรงตัวและดีขึ้นเรื่อย ๆ และคาดว่าอีกไม่นานก็สามารถย้ายออกมาอยู่ในห้องพักคนไข้ทั่วไปได้
ภาพจาก gofundme.com
สำหรับตัวลูกชายวัย
2 ขวบเอง แม้เขาจะถูกกระสุนยิงเข้าที่เขาและสะโพก
อาการบาดเจ็บของเขากลับเล็กน้อยมากเมื่อเทียบกับผู้เป็นพ่อ
ขณะนี้เด็กชายยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล
แต่เขาก็ยังคงฟื้นฟูตัวเองได้ดีและมีความเริงร่าตามประสาเด็กชายอยู่เช่นเดิม
ทั้งนี้ อัลตา มาเรีย ภรรยาของซูลฟิร์มาน เผยกับสื่อว่า เธอได้ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นภายหลังได้รับโทรศัพท์จากสามี ซึ่งตอนแรกทุกอย่างยังไม่ชัดเจน กระทั่งอีกไม่กี่นาทีต่อมาเขาก็โทร. มาใหม่อีกครั้ง บอกว่ามีเหตุก่อการร้ายที่มัสยิด สามีของเธอยอมเป็นโล่ปกป้องลูกชายขณะเกิดเหตุ ทำให้กระสุนที่ยิงมาโดนตัวเขาเป็นส่วนใหญ่ แต่ตอนนี้สภาพจิตใจของเขายังคงแจ่มใสดีระหว่างอยู่ที่โรงพยาบาล
สำหรับครอบครัวของซูลฟิร์มาน
พวกเขาเป็นชาวอินโดนีเซียที่เพิ่งย้ายถิ่นฐานมาอาศัยอยู่ที่นิวซีแลนด์ได้เพียง
2 เดือนเท่านั้น ก่อนจะเกิดเหตุในครั้งนี้ โดยขณะนี้กลุ่มเพื่อน ๆ
ของทั้งคู่ก็ได้ช่วยกันเปิดระดมเงินทุนเพื่อช่วยเหลือครอบครัวนี้
ให้พวกเขาผ่านพ้นช่วงเวลาขณะนี้ไปได้อย่างราบรื่น