หนุ่มตรัง เผยเคยคิดทำร้ายตัวเอง หลังต้องติดคุก 4 ปี คดีฆ่ายัดท่อเด็กหญิงทั้งที่ไม่ได้ทำ สุดดีใจหลังศาลยกฟ้อง วอนขอความยุติธรรมจากสังคม หลังถูกตีตราหน้าคนทั้งบ้านว่าเป็นคนเลว
เมื่อวานนี้ (20 มีนาคม 2562) รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่อง Amarin TV รายงานว่า ศาลจังหวัดตรัง อ่านคำพิพากษาของศาลฎีกา ในคดีที่ นายประถมพงษ์ หมื่นบาล หรือ แต๋ม อายุ 38 ปี ที่ตกเป็นผู้ต้องหาฆ่า น้องเพลง อายุ 11 ขวบ ในความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อการอนาจาร ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ หรือส่วนของศพ เพื่อการปิดบังการเกิด การตาย หรือเหตุแห่งการตาย ซึ่งเป็นคดีดังเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 หลังมีผู้พบศพเด็กหญิงถูกฆ่ายัดท่อระบายน้ำบริเวณ ถ.สายวัดพระงาม-บ้านควน ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.ตรัง
โดยก่อนหน้านี้ศาลชั้นต้นพิพากษาตัดสิน ประหารชีวิต แต่เจ้าตัวต่อสู้ในชั้นศาลอุทธรณ์ จนมีคำพิพากษาลดโทษหรือจำคุกตลอดชีวิต และล่าสุด ศาลฎีกา มีคำตัดสินพิพากษากลับ ยกฟ้องนายประถมพงษ์ ใน 2 ฐานความผิดดังกล่าว และยกคำขอให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน จำนวน 840,000 บาท รวมถึงยกค่าฤชาธรรมเนียมทั้ง 3 ศาล โดยศาลได้พิจารณาตามข้อเท็จจริงและได้ให้เหตุผล 2 อย่างนี้ เลยยกฟ้อง
1. ฝ่ายโจทก์ไม่มีประจักษ์พยานรู้เห็นในที่เกิดเหตุ
2. พยานเชิงนิติเวชก็ปรากฏว่าไม่มีดีเอ็นเอของฝ่ายจำเลยเข้าไปเกี่ยวข้อง
ด้านนายประถมพงษ์ หมื่นบาล หรือ แต๋ม เปิดเผยว่า
คำตัดสินยกฟ้องถือเป็นการคืนความยุติธรรมให้กับตน
แสดงให้เห็นถึงความบริสุทธิ์ของตน ยอมรับว่าตลอด 4 ปี ที่ถูกจำคุก
ตนเหมือนจะเป็นบ้า เคยคิดที่จะทำร้ายตัวเอง แต่ยืนยันว่าไม่เคยคิดที่จะหนี
และตลอดระยะเวลา 4 ปี ครอบครัวตนเองต้องทุกข์และลำบาก
ที่ต้องหาเงินเพื่อต่อสู้คดี มีลูก 4 คน 2
คนไม่ได้เรียนเพราะไม่มีเงินส่งเสีย ส่วนอีก 2 คน พี่รับไปเลี้ยงแทน
นายประถมพงษ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนเองถูกตราหน้าว่าเป็นคนเลว คนชั่ว ไม่เว้นแม้แต่คนในครอบครัว โดยเฉพาะลูกที่ไปโรงเรียนก็ถูกล้อ ถูกแกล้ง และเมื่อวันนี้ศาลคืนความยุติธรรมให้ตนแล้ว ตนก็อยากทวงคืนความยุติธรรมจากสังคมด้วย และอยากฝากบอกสังคมว่าก่อนที่จะเชื่ออะไร ควรใช้จิตสำนึกคิดก่อน ไม่ควรตัดสินว่าคนนั้นไม่ดีก่อนจะรู้ความจริง รวมถึงเจ้าหน้าที่ด้วยในการทำคดี ควรจะรอบคอบ เพราะถ้าเป็นแบบนี้ ชีวิตตนต้องเข้าไปติดคุกถึง 4 ปี ใครจะรับผิดชอบ
ทางด้าน นายสายัน หมื่นบาล พี่ชายนายประถมพงษ์ เปิดเผยกับ ข่าวเวิร์คพอยท์ ว่า ครอบครัวรู้สึกดีใจมาก ทุกคนเชื่ออยู่แล้วว่าน้องไม่ได้ทำผิด
จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาแสดงความรับผิดชอบกับเรื่องนี้ด้วย
ที่ทำให้ชื่อเสียงของครอบครัวเสียหาย โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าของคดี
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
,
, 
โดยก่อนหน้านี้ศาลชั้นต้นพิพากษาตัดสิน ประหารชีวิต แต่เจ้าตัวต่อสู้ในชั้นศาลอุทธรณ์ จนมีคำพิพากษาลดโทษหรือจำคุกตลอดชีวิต และล่าสุด ศาลฎีกา มีคำตัดสินพิพากษากลับ ยกฟ้องนายประถมพงษ์ ใน 2 ฐานความผิดดังกล่าว และยกคำขอให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน จำนวน 840,000 บาท รวมถึงยกค่าฤชาธรรมเนียมทั้ง 3 ศาล โดยศาลได้พิจารณาตามข้อเท็จจริงและได้ให้เหตุผล 2 อย่างนี้ เลยยกฟ้อง
1. ฝ่ายโจทก์ไม่มีประจักษ์พยานรู้เห็นในที่เกิดเหตุ
2. พยานเชิงนิติเวชก็ปรากฏว่าไม่มีดีเอ็นเอของฝ่ายจำเลยเข้าไปเกี่ยวข้อง
นายประถมพงษ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนเองถูกตราหน้าว่าเป็นคนเลว คนชั่ว ไม่เว้นแม้แต่คนในครอบครัว โดยเฉพาะลูกที่ไปโรงเรียนก็ถูกล้อ ถูกแกล้ง และเมื่อวันนี้ศาลคืนความยุติธรรมให้ตนแล้ว ตนก็อยากทวงคืนความยุติธรรมจากสังคมด้วย และอยากฝากบอกสังคมว่าก่อนที่จะเชื่ออะไร ควรใช้จิตสำนึกคิดก่อน ไม่ควรตัดสินว่าคนนั้นไม่ดีก่อนจะรู้ความจริง รวมถึงเจ้าหน้าที่ด้วยในการทำคดี ควรจะรอบคอบ เพราะถ้าเป็นแบบนี้ ชีวิตตนต้องเข้าไปติดคุกถึง 4 ปี ใครจะรับผิดชอบ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
,
, 









