ชื่นชมลูกเรือฮีโร่ ช่วยผู้โดยสารจากเครื่องบินไฟไหม้ แอร์ฯ สาวจับผู้โดยสารโยนจากเครื่องจนนาทีสุดท้าย ขณะที่สจ๊วร์ตหนุ่มช่วยลำเลียง แต่หนีไม่ทัน เสียชีวิต
เครื่องบินลำที่เกิดเหตุเป็ยเครื่องบิน ซูคอย ซูเปอร์เจ็ต 100 (Sukhoi Superjet 100 ) เที่ยวบินที่ SU-1492 บรรทุกผู้โดยสาร 73 คน และลูกเรืออีก 5 คน รวมเป็น 78 ชีวิต มีกำหนดออกเดินจากสนามบินนานาชาติเชเรเมเตียโว ในกรุงมอสโก มุ่งหน้าไปยังเมืองมูร์มันสค์ เมืองท่าสำคัญของแคว้นมูร์มันสค์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของรัสเซีย แต่หลังจากที่เทกออฟได้ไม่นาน นักบินก็ต้องนำเครื่องบินวนกลับมายังสนามบินเชเรเมเตียโว
คลิปวิดีโอที่ที่แชร์บนสังคมออนไลน์เผยให้เห็นเครื่องบินที่มีไฟลุกท่วมแล่นมาตามรันเวย์
ขณะที่ผู้โดยสารภายในเครื่องบินต่างกรีดร้องระงมด้วยความหวาดผวา
ตาเตียนา เล่าว่า ในช่วงเกิดเหตุ เธอพบเห็นแสงวาบคล้ายฟ้าผ่า และในไม่กี่อึดใจต่อมา ก็ได้ยินนักบินประกาศว่าต้อลงจอดฉุกเฉิน หลังจากนั้นไม่นาน เธอได้ยินเสียงคนร้องตะโกนขึ้นมาว่าไฟไหม้เครื่องบิน เหตุการณ์ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วมาก เพียงไม่กี่วินาทีก็มีควันสีดำลอยขโมงเต็มลำ
เหล่าผู้โดยสายต่างพากันลุกหนีออกจากที่นั่ง ขณะที่เครื่องบินกำลังวิ่งด้วยความเร็วบนรันเวย์ บางคนต้องคลานหนีออกมาจากกลุ่มควัน ผู้โดยสารหญิงคนหนึ่งโทร. หาญาติพี่น้องด้วยความตื่นตระหนก บอกว่าเครื่องบินไฟไหม้ และทุกคนกำลังแย่แล้ว
แอร์โฮสเตสสาวตั้งสติ แล้วใช้เท้าถีบประตูฉุกเฉินเต็มแรงจนเปิดออก แล้วพยายามช่วยลำเลียงให้ผู้โดยสารออกไปจากเครื่องบิน ซึ่งเป็นไปอย่างล่าช้า เธอจึงตัดสินใจจับทุกคนโยนลงไปให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ คว้าคอเสื้อพวกเขาแล้วจับโยนออกนอกเครื่องบินไปตรงสไลด์ฉุกเฉิน รวมทั้งโยนกระเป๋าสัมภาระออกไปด้วย ก่อนที่จะรีบหลบหนีตามลงไป
ในขณะเดียวกัน
มักซิม โมอิซีฟ วัย 22 ปี ผู้เป็นสจ๊วร์ต
ก็ได้สละชีวิตช่วยเหลือผู้โดยสารให้ออกไปจากพื้นที่บริเวณหางเครื่องบินซึ่งไฟกำลังลุกท่วม
แต่เขาหนีออกไปไม่ทันและเสียชีวิต
ขณะเดียวกันมีรายงานด้วยว่า สาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้การอพยพเป็นไปอย่างล่าช้ากว่าที่ควร สืบเนื่องจากมีผู้โดยสารบางส่วนที่พยายามหยิบสัมภาระของตัวเองจากช่องเก็บสัมภาระ แทนที่จะทิ้งสัมภาระไว้บนเครื่องตามคำแนะนำในการรับมือเหตุฉุกเฉิน
ทั้งนี้ พบว่าขณะที่เครื่องบินยังอยู่บนอากาศ ยังไม่มีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้น จนกระทั่งถึงตอนที่เครื่องบินลงแตะพื้น เปลวไฟก็เริ่มลุกไหม้และลุกลามในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งเหล่าผู้โดยสารที่รอดชีวิตกล่าวว่าพวกเขาหวาดกลัวแทบตาย และขอชื่นชมความกล้าหาญของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ที่ทำให้พวกเขารอดชีวิตมาได้
ภาพจาก AFP PHOTO / MIKHAIL NORENKO
ภาพจาก anews.com
เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2562 เว็บไซต์เมโทร รายงานว่า ตาเตียนา คาซัตกินา วัย 34 ปี แอร์โฮสเตสของสายการบินแอโรฟลอต
(Aeroflot) ได้รับการยกย่องชื่นชมให้เป็นฮีโร่คนสำคัญ
หลังจากที่เธอปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม
ช่วยเหลือผู้โดยสารให้รอดชีวิตจากเหตุเครื่องบินที่กำลังไฟไหม้
ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก
และนับเป็นอีกหนึ่งในโศกนาฏกรรมทางการบินที่สะเทือนขวัญที่สุดในรอบไม่กี่ปีที่ผ่านมา (อ่านข่าว : ระทึกยกลำ ไฟไหม้เครื่องบินรัสเซียขณะลงจอดฉุกเฉิน คร่า 41
ชีวิต - ผดส. หนีตาย)
เครื่องบินลำที่เกิดเหตุเป็ยเครื่องบิน ซูคอย ซูเปอร์เจ็ต 100 (Sukhoi Superjet 100 ) เที่ยวบินที่ SU-1492 บรรทุกผู้โดยสาร 73 คน และลูกเรืออีก 5 คน รวมเป็น 78 ชีวิต มีกำหนดออกเดินจากสนามบินนานาชาติเชเรเมเตียโว ในกรุงมอสโก มุ่งหน้าไปยังเมืองมูร์มันสค์ เมืองท่าสำคัญของแคว้นมูร์มันสค์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของรัสเซีย แต่หลังจากที่เทกออฟได้ไม่นาน นักบินก็ต้องนำเครื่องบินวนกลับมายังสนามบินเชเรเมเตียโว
ตาเตียนา เล่าว่า ในช่วงเกิดเหตุ เธอพบเห็นแสงวาบคล้ายฟ้าผ่า และในไม่กี่อึดใจต่อมา ก็ได้ยินนักบินประกาศว่าต้อลงจอดฉุกเฉิน หลังจากนั้นไม่นาน เธอได้ยินเสียงคนร้องตะโกนขึ้นมาว่าไฟไหม้เครื่องบิน เหตุการณ์ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วมาก เพียงไม่กี่วินาทีก็มีควันสีดำลอยขโมงเต็มลำ
เหล่าผู้โดยสายต่างพากันลุกหนีออกจากที่นั่ง ขณะที่เครื่องบินกำลังวิ่งด้วยความเร็วบนรันเวย์ บางคนต้องคลานหนีออกมาจากกลุ่มควัน ผู้โดยสารหญิงคนหนึ่งโทร. หาญาติพี่น้องด้วยความตื่นตระหนก บอกว่าเครื่องบินไฟไหม้ และทุกคนกำลังแย่แล้ว
แอร์โฮสเตสสาวตั้งสติ แล้วใช้เท้าถีบประตูฉุกเฉินเต็มแรงจนเปิดออก แล้วพยายามช่วยลำเลียงให้ผู้โดยสารออกไปจากเครื่องบิน ซึ่งเป็นไปอย่างล่าช้า เธอจึงตัดสินใจจับทุกคนโยนลงไปให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ คว้าคอเสื้อพวกเขาแล้วจับโยนออกนอกเครื่องบินไปตรงสไลด์ฉุกเฉิน รวมทั้งโยนกระเป๋าสัมภาระออกไปด้วย ก่อนที่จะรีบหลบหนีตามลงไป
"ฉันใช้ขาถีบประตูออก ผลักผู้โดยสารบางคนออกไปไม่ให้การอพยพล่าช้า และฉันยังเอื้อมมือไปคว้าปกเสื้อด้านหลังของบางคนด้วย เพื่อทำให้การอพยพเร็วขึ้น" แอร์ฯ สาว กล่าว
มักซิม โมอิซีฟ สจ๊วร์ตของสายการบินแอโรฟลอต เสียชีวิตขณะช่วยเหลือผู้โดยสาร
ภาพจาก anews.com
ขณะเดียวกันมีรายงานด้วยว่า สาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้การอพยพเป็นไปอย่างล่าช้ากว่าที่ควร สืบเนื่องจากมีผู้โดยสารบางส่วนที่พยายามหยิบสัมภาระของตัวเองจากช่องเก็บสัมภาระ แทนที่จะทิ้งสัมภาระไว้บนเครื่องตามคำแนะนำในการรับมือเหตุฉุกเฉิน
ทั้งนี้ พบว่าขณะที่เครื่องบินยังอยู่บนอากาศ ยังไม่มีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้น จนกระทั่งถึงตอนที่เครื่องบินลงแตะพื้น เปลวไฟก็เริ่มลุกไหม้และลุกลามในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งเหล่าผู้โดยสารที่รอดชีวิตกล่าวว่าพวกเขาหวาดกลัวแทบตาย และขอชื่นชมความกล้าหาญของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ที่ทำให้พวกเขารอดชีวิตมาได้
หลังเกิดเหตุ พบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ
11 ราย เสียชีวิต 41 ราย และ 2 ราย ในจำนวนนี้เป็นเด็ก
ทางด้านหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็กำลังเร่งสืบสวนหาสาเหตุของโศกนาฏกรรมครั้งนี้แล้ว
อย่างไรก็ตาม แม้ว่านักบินและพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินที่รอดชีวิต
จะบอกเหมือนกันว่าสาเหตุของไฟไหม้น่าจะเกิดจากการที่เครื่องบินถูกฟ้าผ่า
แต่ก็มีรายงานออกมาว่าน่าจะเกิดจากระบบไฟฟ้าลัดวงจรมากกว่า
ภาพจาก anews.com
ภาพจาก Investigative Committee of the Russian Federation
ภาพจาก AFP PHOTO / MIKHAIL NORENKO