กรมอุตุฯ เตือนเตรียมรับมือฝนถล่มทั่วไทย กรุงเทพมหานคร ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ภาคตะวันออกหนักสุด ร้อยละ 70 ชาวเรือระวัง ทะเลอาจมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังตลอดช่วง
ทั้งนี้ จากการพยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า คาดว่า ในช่วงวันที่ 12- 16 พฤษภาคม บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้น กับลมกระโชกแรง และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 17-18 พฤษภาคม บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง และภาคใต้ยังคงฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยจะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตรตลอดช่วง ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักและลมกระโชกแรงไว้ด้วย และสำหรับชาวเรือบริเวณทะเลอันดามัน ควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังตลอดช่วง
สำหรับการพยากรณ์อากาศประเทศไทย ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ของวันนี้ - 06.00 น. ของวันที่ 14 พฤษภาคม 2562 มีดังนี้
ภาคเหนือ
อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากที่บริเวณจังหวัดแม่ฮองสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง สุโขทัย กำแพงเพชร และตาก มีอุณหภูมิต่ำสุด 25-29 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อากาศร้อน กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากที่บริเวณจังหวัดนครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ ยโสธร ร้อยเอ็ด มหาสารคาม ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี โดยจะมีอุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส
ภาคกลาง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ บริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา และนราธิวาส โดยจะอุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส ส่วนทะเลจะมีคลื่นสูงประมาณ 1-2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองจะมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดระนอง พังงา และสตูล โดยจะมีอุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ส่วนทะเลจะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองจะมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
อากาศร้อน กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ โดยจะมีอุณหภูมิต่ำสุด 28-29 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิสูงสุด 36-38 องศาเซลเซียส
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก กรมอุตุนิยมวิทยา
วันที่ 13 พฤษภาคม 2562 เว็บไซต์ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ระบุว่า ประเทศไทยตอนบนยังคงมีอากาศร้อน โดยภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ จะมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับทะเลอันดามันจะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองจะมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณดังกล่าว เดินเรือด้วยความระมัดระวัง
ทั้งนี้ จากการพยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า คาดว่า ในช่วงวันที่ 12- 16 พฤษภาคม บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้น กับลมกระโชกแรง และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 17-18 พฤษภาคม บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง และภาคใต้ยังคงฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยจะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตรตลอดช่วง ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักและลมกระโชกแรงไว้ด้วย และสำหรับชาวเรือบริเวณทะเลอันดามัน ควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังตลอดช่วง
สำหรับการพยากรณ์อากาศประเทศไทย ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ของวันนี้ - 06.00 น. ของวันที่ 14 พฤษภาคม 2562 มีดังนี้
ภาคเหนือ
อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากที่บริเวณจังหวัดแม่ฮองสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง สุโขทัย กำแพงเพชร และตาก มีอุณหภูมิต่ำสุด 25-29 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อากาศร้อน กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากที่บริเวณจังหวัดนครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ ยโสธร ร้อยเอ็ด มหาสารคาม ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี โดยจะมีอุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส
ภาคกลาง
อากาศร้อน กับมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี อุทัยธานี ชัยนาท นครสวรรค์ ลพบุรี และสระบุรี โดยจะมีอุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส
ภาพจาก กรมอุตุนิยมวิทยา
ภาคตะวันออก
มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด โดยจะมีอุณหภูมิต่ำสุด 25-29 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิสูงสุด 30-37 องศาเซลเซียส ส่วนทะเลจะมีคลื่นสูงประมาณ 1-2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองจะมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตรภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ บริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา และนราธิวาส โดยจะอุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส ส่วนทะเลจะมีคลื่นสูงประมาณ 1-2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองจะมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดระนอง พังงา และสตูล โดยจะมีอุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ส่วนทะเลจะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองจะมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
อากาศร้อน กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ โดยจะมีอุณหภูมิต่ำสุด 28-29 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิสูงสุด 36-38 องศาเซลเซียส
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก กรมอุตุนิยมวิทยา