สาวเกาหลีเหนือไปจีน หวังมีชีวิตใหม่ แต่โดนขายเป็นทาสกาม ตกนรกทั้งเป็น

        เปิดชีวิตสาวเกาหลีเหนือ หนีไปจีนหวังมีชีวิตใหม่ โดนนายหน้าขายเป็นทาสกาม ชีวิตเหมือนตกนรกอยู่ 8 ปี จนแสงสว่างส่องมาถึง ได้หลบหนีในที่สุด

ค้าประเวณี
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

        ลียูมี (นามสมมุติ) วัย 28 ปี คือหนึ่งในชาวเกาหลีเหนือมากมายที่ไม่อยากทนอยู่ในประเทศของตัวเอง เธอตัดสินใจเสี่ยงอันตราย หลบหนีเพื่อไปตายเอาดาบหน้า เป้าหมายปลายทางที่ใกล้ที่สุดและเป็นที่ที่ชาวเกาหลีเหนือหนีข้ามไปมากที่สุดก็คือ ประเทศจีน ยูมีเองก็หนีไปจีนเช่นกัน นายหน้าคนหนึ่งเป็นธุระจัดการทุกอย่างให้กับเธอ ซึ่งเธอเชื่อใจเขามาก เพราะเขารับปากว่าจะช่วยเหลือให้เธอปลอดภัย หญิงสาววาดฝันว่าจะได้มีอิสรเสรี ได้มีชีวิตที่ดีขึ้น แม้ว่ามันคงไม่ใช่ชีวิตที่สมบูรณ์เพอร์เฟกต์ แต่มันคงดีกว่าการอยู่ในเกาหลีเหนือ

        ทว่าสิ่งที่ยูมีพบเจอนั้น มันเลวร้ายยิ่งกว่าความเป็นอยู่ในเกาหลีเหนือ เธอต้องทนทุกข์กับชีวิตที่เหมือนตกนรก เพราะนายหน้าได้ขายเธอให้กับธุรกิจมืด และมีผู้หญิงเกาหลีเหนืออีกมากมายหลายพันคนที่ประสบชะตากรรมเช่นเดียวกัน

         เรื่องราวชีวิตน่าเศร้าของยูมี ได้ถูกนำมาเผยแพร่ผ่านรายงานพิเศษของสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2562 โดยยูมีเกิดและเติบโตในครอบครัวสมาชิกพรรคระดับล่าง แต่ก็พอมีพอกิน ไม่เคยอดอยาก อีกทั้งยังมีข้าวสารกักตุนเอาไว้ในบ้าน แต่พ่อแม่ของเธอเป็นคนที่เคร่งครัดมาก พวกเขาเลี้ยงดูเธออย่างเข้มงวด เมื่อออกไปข้างนอก ต้องกลับบ้านก่อนพระอาทิตย์ตกดินเท่านั้น ห้ามเกินอย่างเด็ดขาด และไม่อนุญาตให้เธอเข้าศึกษาที่วิทยาลัยแพทย์

         ในวันหนึ่งเธอมีปากเสียงทะเลาะกับพ่อแม่อย่างรุนแรงมาก จนตัดสินใจหลบหนีออกไปยังประเทศจีน เธอพบเจอกับนายหน้าคนหนึ่งที่พร้อมช่วยเหลือ อีกทั้งสัญญาว่าเธอจะมีงานรองรับ ซึ่งโดยปกติแล้วค่าใช้จ่ายที่ต้องให้นายหน้ามักจะอยู่ที่ประมาณ 500-1,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 15,700-31,300 บาท

         ปัจจุบันจำนวนประชากรของเกาหลีเหนือคือประมาณ 25 ล้านคน ไม่มีข้อมูลที่สามารถยืนยันอย่างเป็นทางการว่า ในแต่ละปีมีชาวเกาหลีเหนือหลบหนีออกจากประเทศมากแค่ไหน ทางด้านข้อมูลจากฝั่งเกาหลีใต้เผยว่า นับตั้งแต่ปี 2531 เป็นต้นมา เกาหลีใต้รับผู้ลี้ภัยชาวเกาหลีเหนือเข้าประเทศมากกว่า 32,000 คน เฉพาะปี 2561 เพียงปีเดียว ตัวเลขผู้อพยพชาวเกาหลีเหนือนั้นสูงถึง 1,137 คน ซึ่ง 85 เปอร์เซ็นต์ในจำนวนนี้เป็นผู้หญิง

ค้าประเวณี
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

        ยอซังยุน จากศูนย์ข้อมูลเพื่อสิทธิมนุษยชนชาวเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นองค์กรอิสระในเกาหลีใต้ กล่าวว่า ชาวเกาหลีเหนือจำนวนไม่น้อยสามารถหลบหนีออกมาได้โดยง่าย เนื่องจากบางพื้นที่ไม่ได้มีการเกณฑ์คนเข้าทำงานในโรงงานอุตสาหรรม หรือเกณฑ์เข้าเป็นแรงงานของรัฐ ที่ต้องมีการเช็กชื่ออย่างเข้มงวด คนที่เป็นชาวนาชาวไร่สามารถหนีหายไปได้โดยที่ไม่มีใครสังเกต

        ตอนนั้นการหลบออกนอกประเทศยังไม่ยากเย็นมาก แต่หลังจากที่ คิมจองอึน ขึ้นสู่อำนาจในปี 2554 ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป และมีการสร้างรั้ว รวมถึงติดตั้งกล้องสอดส่องตามแนวชายแดนอย่างเคร่งครัด โดยในวันหลบหนีของยูมีนั้น เธอกับหญิงสาวคนอื่น ๆ อีก 7 คน มุ่งหน้าไปยังประเทศจีน เมื่อถึงพรมแดน พวกเธอต้องเดินเท้า และลัดเลาะข้ามแม่น้ำทูมัน ที่เย็นยะเยือก ระดับน้ำสูงเกินหัวไหล่

        พวกเธอมาหยุดพักกันที่หมู่บ้านชาวนาเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง นายหน้าใหญ่สัญญาว่าเธอจะได้ทำงานในร้านอาหารแห่งหนึ่งในเมืองหยานจี๋ มณฑลจี๋หลิน ซึ่งเป็นเมืองที่มีคนเกาหลีเหนืออาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก และยังบอกว่าเธอจะมีที่พักเป็นของตัวเอง แต่ทุกอย่างคือคำโกหก

        นายหน้าขายยูมีให้กับเจ้าของธุรกิจเซ็กส์ออนไลน์ ในราคา 30,000 หยวน หรือประมาณ 135,805 บาท เมื่อยูมีรู้ความจริง เธอรู้สึกชาไปทั้งตัว เธอร้องไห้และอ้อนวอนขอให้ปล่อยตัวไป แต่เจ้าของธุรกิจปฏิเสธ กล่าวว่า เขาเสียเงินไปมากในการซื้อตัวเธอมา ซึ่งเธอก็จะต้องทำงานใช้หนี้ และนับตั้งแต่วันนั้น ยูมีก็ถูกคุมขังอยู่ภายในอพาร์ตเมนต์เก่าโทรม ถูกบังคับให้ขายบริการทางออนไลน์ เจ้านายให้สัญญาว่าจะมอบเงิน 40 เปอร์เซ็นต์จากรายได้ให้กับเธอ แต่เธอไม่เคยได้เห็นเงินเหล่านั้นเลยแม้แต่หยวนเดียว

ค้าประเวณี
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

        จากการสำรวจของ Korea Future Initiative หรือ KFI องค์กรไม่แสวงผลกำไรในกรุงลอนดอน ที่ต่อสู้เพื่อต่อต้านความรุนแรงทางเพศต่อเด็กและสตรีชาวเกาหลีเหนือ พบว่าประมาณ 70-80 เปอร์เซ็นต์ของผู้หญิงเกาหลีเหนือที่หนีมายังจีนได้สำเร็จ จะถูกลักพาตัว หรือถูกนำไปขายในตลาดค้ากามของจีน ซึ่งมีเม็ดเงินสะพัดหมุนเวียนหลายล้านดอลลาร์สหรัฐ ผู้หญิงที่ตกเป็นเหยื่อมีทุกวัยปะปนกัน รวมทั้งเด็กที่อายุน้อยมาก บางคนอายุแค่ 9 ขวบ ค่าตัวที่นายหน้าได้รับมีตั้งแต่ 6,000-30,000 หยวน หรือประมาณ 27,160-135,805 บาท ไล่เรียงกันไปตามอายุและความสวย

        ผู้หญิงเหล่านี้จะถูกกระจายออกไปตามเมืองต่าง ๆ ในจีนที่ใกล้กับพรมแดนเกาหลีเหนือ บ้างก็ถูกขังเป็นทาสกามในซ่อง บ้างก็ถูกบังคับให้ประกอบกิจกรรมทางเพศโชว์ทางเว็บแคม ชีวิตของผู้หญิงเหล่านี้มืดแปดด้าน ถ้าหากพวกเธอหาทางหลบหนีออกไปแล้วเกิดถูกทางการจีนจับได้ พวกเธอจะถูกส่งตัวกลับเกาหลีเหนือ ซึ่งสิ่งที่รออยู่คือความทุกข์ทรมาน และความตาย

        ยูมีมีเพื่อนร่วมชะตากรรมอีกหลายสิบคน ทั้งหมดคือผู้หญิงเกาหลีเหนือ โดยเพื่อนร่วมห้องของยูมีคือ ฮายุน (นามสมมุติ) วัย 19 ปี ซึ่งถูกหลอกขายมาอยู่ที่นี่ได้ 2 ปี แล้ว ทั้งคู่ไม่รู้เลยว่าชีวิตนี้จะได้พบเจอกับอิสรภาพหรือไม่ ทางผู้ดูแลอนุญาตให้ยูมีกับฮายุนออกไปข้างนอกได้ทุก ๆ 6 เดือน หรือแค่ปีละ 2 ครั้ง โอกาสในการหลบหนีคือศูนย์ อีกทั้งยังถูกตบตีอยู่บ่อยครั้ง ยูมีทนกับชีวิตแบบนี้มานานร่วม 5 ปี ชีวิตของเธอสิ้นหวังมาก จนในวันหนึ่งของปี 2561 แสงสว่างก็ส่องลงมาถึง

        ในขณะที่เธอกำลังแชตทางออนไลน์กับเหล่าผู้ชายที่จ่ายเงินดูไลฟ์สยิว เธอพบว่าหนึ่งในนั้นไม่ใช่ลูกค้าเหมือนคนอื่น ๆ เขาสังเกตเห็นว่าเธอคือสาวเกาหลีเหนือ เพราะการใช้ภาษาต่างไปจากคนเกาหลีใต้ และตัดสินใจช่วยเหลือเธอ ด้วยการให้เบอร์โทรศัพท์ติดต่อบาทหลวงชาวเกาหลีใต้คนหนึ่ง

        ในเดือนกันยายน 2561 เมื่อยูมีสบโอกาส เธอก็ได้ส่งข้อความไปหาบาทหลวงผู้นี้ เพื่อขอความช่วยเหลือจากเขา อธิบายให้เขารู้ว่าเธออยู่ในสถานการณ์แบบไหน ถูกบีบบังคับให้ทำอะไรบ้าง ซึ่งเขาให้สัญญาว่าเขากับคนอื่น ๆ จะหาทางช่วยเหลือเธอออกจากขุมนรกนี้ให้ได้ ประโยคสั้น ๆ นี้เหมือนกับน้ำทิพย์ชโลมใจยูมี มันทำให้เธอร้องไห้ด้วยความซาบซึ้ง และได้แต่พิมพ์ตอบกลับไปว่า "ขอบคุณ"

        บาทหลวงคนนี้คือ ชุนกีวอน จากองค์กรชาวคริสต์ Durihana เขากับบาทหลวงคนอื่น ๆ ทุ่มเทในการช่วยเหลือชาวเกาหลีเหนือ โดยเฉพาะผู้หญิง ให้ลี้ภัยมาอาศัยอยู่ที่เกาหลีใต้ หลังได้ทราบข้อมูลจากยูมีว่าชีวิตของเธอมาจบลงที่ตรงนี้ได้อย่างไร ก็ได้วางแผนการหลบหนี จนกระทั่งสบโอกาสในวันหนึ่งของเดือนตุลาคม 2561 ซึ่งเป็นวันที่เจ้านายของยูมีออกไปทำธุระที่อื่น บาทหลวงชุนกีวอนได้ส่งคนไปรับตัวยูมีกับฮายุนที่จีน หญิงสาวทั้งสองคนหาโอกาสปีนหน้าต่างหลบหนีออกมา จนกระทั่งออกมาได้สำเร็จ และได้พบกับอิสรภาพเป็นครั้งแรก

        ชายชาวจีนคนหนึ่งซึ่งเป็นคนของบาทหลวงชุนกีวอน พาหญิงสาวทั้งสองคนหลบหนีลงมายังคุนหมิง ทั้งเดินทางด้วยรถ รวมทั้งเดินเท้าเข้าป่า ใช้เวลากว่า 50 ชั่วโมง กว่าจะมาถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเข้าประเทศโดยใช้หนังสือเดินทางปลอม ทั้งนี้ ไม่ทราบว่าทั้งคู่เดินทางมายังเมียนมา ลาว หรือไทย เนื่องจากสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นไม่ได้เปิดเผยเพื่อความปลอดภัยของทั้งคู่

        ทั้งสองคนได้มุ่งหน้าไปยังสถานทูตเกาหลีใต้ในประเทศดังกล่าว และไม่กี่วันหลังจากนั้น พวกเธอก็ได้ไปอยู่เกาหลีใต้ ได้มีชีวิตใหม่ในที่สุด ปัจจุบันทั้งคู่ได้เรียนรู้การใช้ชีวิตปกติธรรมดาเหมือนคนอื่น ๆ ทั้งการใช้เอทีเอ็ม นอกจากนี้แล้ว ยูมีได้ศึกษาเล่าเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย ส่วนฮายุนก็ตั้งใจเรียนด้านภาษาจีนกับภาษาอังกฤษ หวังว่าจะได้เป็นครูในอนาคต

เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สาวเกาหลีเหนือไปจีน หวังมีชีวิตใหม่ แต่โดนขายเป็นทาสกาม ตกนรกทั้งเป็น อัปเดตล่าสุด 12 มิถุนายน 2562 เวลา 15:22:44 18,570 อ่าน
TOP
x close