สมชาย ศรีสกุลภิญโญ จากเศรษฐีพันล้านสู่พ่อค้าราดหน้า เปิดหมดเปลือกในวันที่น้ำตาตกใน เกิดศึกสายเลือด จนต้องหันหลังให้ธุรกิจที่สร้างมากับมือ ด้านภรรยาเผยคำพูดของสามี "ถ้าจน จนคนเดียวได้ แต่ถ้ารวย พี่น้องต้องรวยด้วย" น้ำตาไหลเพราะวันนี้พี่น้องบาดหมางกัน
จากกรณีโลกโซเชียลได้มีการแชร์เรื่องราวของ สมชาย ศรีสกุลภิญโญ อดีตเสี่ยพันล้าน ผู้ก่อตั้งบริษัท สตาร์มาร์ค แมนูแฟคเชอร์ริ่ง จำกัด และเป็นผู้บุกเบิกชุดครัวไฟเบอร์กลาสแห่งแรกของทวีปเอเชีย ก่อนชีวิตจะพลิกผัน มาสู่การเป็นพ่อค้าราดหน้า ที่ตลาดน้ำคลองลัดมะยม กรุงเทพมหานคร เนื่องจากเกิดความไม่ลงตัวในธุรกิจ มีเหตุให้คุณสมชายและครอบครัวไม่สามารถทำงานในบริษัทได้ จนนำไปสู่การฟ้องร้องถึง 13 คดี เงินทองที่สะสมมาก็หมดไปกับคดีความ
อ่านข่าว : ชีวิตที่ต้องสู้...ผู้บุกเบิก "สตาร์มาร์ค" จากเสี่ยพันล้าน ชีวิตพลิกผันมาเป็น พ่อค้าราดหน้า
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุด (24 กรกฎาคม 2562) ไบรท์ทีวี รายงานสัมภาษณ์ คุณสมชาย ศรีสกุลภิญโญ อายุ 65 ปี เจ้าตัวน้ำตาคลอเบ้า เปิดใจถึงปมปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้น...
"ชีวิตผมเหมือนละครน้ำเน่าเล่มละไม่กี่บาทที่พวกคุณเคยอ่าน ซึ่งเหมือนครอบครัวคนจีนส่วนใหญ่ในสมัยก่อน ที่มาอาศัยอยู่บนแผ่นดินไทย แบบไม่มีอะไรติดตัวมา ผมเป็นลูกคนที่ 3 ของนายเอ็กจือ แซ่เตีย และนางบ๊วย ศรีสกุลภิญโญ จากพี่น้องทั้งหมด 8 คน คุณพ่อเริ่มกิจการเฟอร์นิเจอร์เล็ก ๆ ชื่อ "เตียเอ๊กเซ้ง เฟอร์นิเจอร์" ผมเริ่มทำงานตั้งแต่ 10 ขวบ จนเป็นนายช่างใหญ่เต็มตัวด้วยวัยเพียง 13 ปี ต่อมาก็ตัดสินใจออกจากโรงเรียนจบเพียงแค่ ม.1 เพราะฐานะการเงินทางบ้านไม่ค่อยดี จึงเปิดโอกาสให้น้อง ๆ เรียนแทน"
นอกจากนี้ ยังได้เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์หลุยส์ ที่มียอดขายอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย ละครดังสมัยก่อนใช้สินค้าของคุณสมชายเข้าฉากแทบทุกเรื่อง จึงได้เปลี่ยนชื่อกิจการมาเป็น บริษัท สตาร์มาร์ค แมนูแฟคเชอร์ริ่ง จำกัด และมีการขยายตลาดอย่างต่อเนื่อง
แต่สุดท้ายชีวิตก็เดินทางมาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญ 2 ปีที่ผ่านมา เงินทองที่สะสมหมดไปกับคดีความ ลูกสาวคนเล็กยังเรียนไม่จบ ลูกทุกคนได้รับผลกระทบจากจุดเปลี่ยนครั้งนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้คุณสมชายต้องน้ำตาตก ตั้งแต่เกิดปัญหากับพี่น้อง นำไปสู่การฟ้องร้องเรียกร้องความเป็นธรรม 13 คดี ล้วนเป็นคดีที่ยากจะทำใจรับได้ เพราะเป็นคดีที่น้องฟ้องพี่ พี่ฟ้องน้องกลับ "ผมไม่คิดว่าน้อง ๆ จะทำกับผม"
โดยคุณสมชายบอกว่า "เคล็ดลับของผมมีข้อเดียวคือ "ทำให้สำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งใดก็ตาม" ตอนทำเฟอร์นิเจอร์ผมคิดว่าจะทำอย่างไรให้แตกต่างจากคนอื่น ความละเอียดอ่อนในแต่ละขั้นตอนของการทำงาน แต่ละอย่างสำคัญมากที่ไม่ควรมองข้าม และนี่เป็นจุดเล็ก ๆ ของการพัฒนาเครื่องครัวไฟเบอร์กลาสรายแรกของเอเชีย ผมไม่เคยกลัวความลำบาก ผมไม่เคยกลัวตาย ผมผ่านความเป็นความตายมาแล้ว
แต่สิ่งที่ผมห่วงคือลูก เขาทุกคนได้รับผลกระทบหมด บางคนอยู่ในภาวะซึมเศร้า แต่ผมสอนลูกทุกคนเสมอให้เป็นนักสู้ ให้อยู่อย่างสมถะ และยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างคนที่พร้อมจะเดินหน้าต่อ ไม่ท้อและอดทน"
ทั้งนี้ คุณสมชายได้พาเดินชมรอบบ้านเนื้อที่กว่า 2 ไร่
บรรยากาศภายในถูกตกแต่งด้วยไม้แกะสลักลายหลุยส์ มูลค่ารวมกว่า 30 ล้านบาท
มีมารดาที่ชราอยู่ด้วย วัย 85 ปี ซึ่งป่วยเป็นอัลไซเมอร์มานานกว่า 8 ปีแล้ว
ภาพจาก ไบรท์ทีวี
นอกจากนี้ ยังได้สัมภาษณ์ นางจารุนันท์ ศรีสกุลภิญโญ อายุ 64 ปี ภรรยาของคุณสมชาย ที่สู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันมาตลอด เปิดใจเล่าความคับแค้นใจ ปมความบาดหมางระหว่างพี่น้องของครอบครัวสามี ว่า ตนยอมรับว่าเสียใจที่สุดในชีวิตที่เรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้น ตนอยากเห็นพี่น้องรักใคร่กลมเกลียวกัน ธุรกิจจะเติบโตได้ต้องเป็นระบบ ครอบครัวพี่น้องต้องช่วยกัน รักกันให้มาก ๆ แต่กลับเกิดไม่ลงตัวหลายด้าน ทำให้สามีและตนต้องหันหลังให้ธุรกิจที่สร้างมากับมือ
โดย คุณนันท์ ได้หยิบยกประโยคที่สามีพูดกรอกหูตลอดคือ "ถ้าจน จนคนเดียวได้ แต่ถ้ารวย พี่น้องต้องรวยด้วย" ซึ่งเป็นประโยคที่คุณนันท์ถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ นอกจากนี้คุณนันท์ยังพูดเสียงสั่น น้ำตาไหลอาบแก้มว่า "เราลำบากจริง ๆ ไม่ได้เป็นเศรษฐีล้มบนฟูกอย่างที่ใครเข้าใจ ทรัพย์สมบัติที่มีก็ต้องได้รับการยินยอมจากพี่น้องของคุณสมชายเซ็นยินยอม ถึงจะนำมาขายได้ แต่ตอนนี้ทุกอย่างดูมืดมน เพราะพี่น้องมาทะเลาะกัน"
สุดท้าย ขอฝากร้านราดหน้าที่เป็นอู่ข้าวอู่น้ำแห่งใหม่ของครอบครัว แวะไปเป็นกำลังใจและช่วยอุดหนุนธุรกิจของครอบครัวได้ ที่ร้าน "ราดหน้าเอ็กจือ" ให้บริการอาหารระดับเหลา ทั้งราดหน้าธรรมดาและเป๋าฮื้อ กระเพาะปลาชามยักษ์ กินได้ 4-6 คน โดยเปิดให้บริการเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เริ่มตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. ณ ตลาดน้ำคลองลัดมะยม โซน 4
,